การประกาศใช้มาตรา 44 สั่งถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ได้ใจ” ประชาชนเป็นกระบุง ถึงขั้นแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญไปเลย
ไม่สนใจด้วยซ้ำว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่อีกกี่ปี
ส่วนบรรดาลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณที่ออกมาเล่นบทบีบน้ำตา อาลัยอาวรณ์ เหมือนจะเป็นจะตาย ปรากฏว่าปฏิกิริยาจากสังคมที่สะท้อนออกมาแสดงความสมเพชและความน่าทุเรศมากกว่า โดยเฉพาะบทของ “เก่ง” การุณ โหสกุล ที่ยกยอปอปั้นพ.ต.ท.ทักษิณเสียหยาดเยิ้มจนน่าอาเจียน
กระบวนการถอดยศที่ถูกยึกยักโยกโย้มานานหลายปี สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้สามารถใช้สรรพนามเรียก “ทักษิณ” ด้วยคำว่า “นาย” อย่างสะดวกปาก
ขั้นตอนการถอดถอน ไม่ควรต้องยืดเยื้อจนพล.อ.ประยุทธ์ต้องงัดมาตรา 44 มาใช้ จนทำให้พวกทนายลูกหาบออกมาตั้งแง่ในข้อกฎหมายป่วนแต่อย่างใด ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการถอดยศตามกระบวนการ ไม่จงใจดองเรื่องไว้
การถอดยศไม่ควรต้องทำให้พล.อ.ประยุทธ์มือเปื้อน ถ้าพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เตะถ่วง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว และถอดยศนายตำรวจที่กระทำความผิดมาแล้วมากมาย ซึ่งหากยึดแนวปฏิบัติเหมือนการถอดยศนายตำรวจคนอื่น ปัญหาคงจบไปนานแล้ว
แต่กรณีนายทักษิณ พล.ต.อ.สมยศพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดมา จนแนวทางการปฏิบัติตามปกติถูกโยงเป็นคดีการเมือง ทั้งที่ไม่เกี่ยวกัน
คดีของนายทักษิณ เป็นปัญหาของอดีตนายตำรวจที่ออกไปเล่นการเมือง แต่ใช้อำนาจการเมืองโดยมิชอบ ทุจริตและทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย จนถูกศาลตัดสินให้มีความผิดต้องติดคุก ซึ่งต้องถูกถอดยศตามระเบียบราชการ ข้อเท็จจริงมีเพียงเท่านี้
จะมีใครไปกลั่นแกล้ง จะเป็นคดีการเมืองตรงไหน
พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าตกเป็นเป้าโจมตี ถ้าพล.ต.อ.สมยศปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามที่ระเบียบราชการกำหนดไว้เท่านั้น
และเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติถอดยศนายทักษิณตามขั้นตอนแล้ว พล.ต.อ.สมยศเพียงแต่ชี้แจงให้สาธารณชนเข้าใจเท่านั้น ทุกอย่างจะจบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ลามปามมาถึงรัฐบาล
การที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับ “หน้าเสื่อ” ตกเป็นเป้าโจมตี จึงเป็นความผิดของพล.ต.อ.สมยศ และทำให้เกิดความรู้สึกว่า
ไหนๆ ก็ใช้มาตรา 44 ถอดยศนายทักษิณแล้ว น่าจะพ่วงการปลดพล.ต.อ.สมยศให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปในคราวเดียวกันเลย
การเปลี่ยนฐานะจากนายตำรวจ เหลือเพียงนายทักษิณคนธรรมดา เป็นการประกาศให้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมชนทุกรูปแบบแล้วกับระบอบทักษิณ โดยการถอดยศเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสงครามที่ไม่มีการประนีประนอมเท่านั้น
เหตุผลที่ยกมาเป็นข้ออ้างในการใช้มาตรา 44 ถอดยศ โดยระบุว่า เป็นกรณีที่กระทบต่อความมั่นคงของชาตินั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งสัญญาณชัดว่า ไม่ขอปรองดองกับนายทักษิณ และพร้อมที่จะเผชิญหน้าแล้ว
ต่อจากนี้นายทักษิณจะเอาอย่างไรก็ว่ามา เพราะต่อจากนี้ ระบบตาต่อตา ฟันต่อฟันจะถูกนำมาใช้ และไม่มีใครคัดค้านที่จะเล่นหนัก เพราะพฤติกรรมของนายทักษิณก็เป็นไปตามที่ คสช.ระบุไว้ในเหตุผลการถอดยศ
พฤติกรรมของนายทักษิณกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และไม่ใช่นายทักษิณเพียงคนเดียว แต่ลูกสมุน ลูกหาบขี้ข้าทั้งหลายก็มีพฤติกรรมที่กระทบต่อความมั่นคงเหมือนกัน
4 นักโทษที่เพิ่งถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในความผิดยิงระเบิดที่ย่านราชดำริ จนทำให้เด็กไร้เดียงสาเสียชีวิตก็เป็นเครือข่ายของนายทักษิณ
แกนนำคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง นักการเมืองพรรคเพื่อไทยที่ร่วมกันพยายามสร้างระบบเผด็จการรัฐสภาก็มี พฤติกรรมกระทบความมั่นคงเหมือนกัน ซึ่งประชาชนกำลังรอดูวาระสุดท้ายที่จะถูกจัดการอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ยังมีภารกิจที่ต้องจัดการกับกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมกระทบต่อความมั่นคงอีกมาก เวลาที่จะได้อยู่ต่อ
ถ้าใช้ไปเพื่อขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ก็อาจไม่มีใครไปทวงถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปเมื่อไหร่
พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่อีกกี่ปีกี่ชาติก็อยู่ไป ขอให้ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นเท่านั้นเป็นพอ
ไม่สนใจด้วยซ้ำว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่อีกกี่ปี
ส่วนบรรดาลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณที่ออกมาเล่นบทบีบน้ำตา อาลัยอาวรณ์ เหมือนจะเป็นจะตาย ปรากฏว่าปฏิกิริยาจากสังคมที่สะท้อนออกมาแสดงความสมเพชและความน่าทุเรศมากกว่า โดยเฉพาะบทของ “เก่ง” การุณ โหสกุล ที่ยกยอปอปั้นพ.ต.ท.ทักษิณเสียหยาดเยิ้มจนน่าอาเจียน
กระบวนการถอดยศที่ถูกยึกยักโยกโย้มานานหลายปี สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้สามารถใช้สรรพนามเรียก “ทักษิณ” ด้วยคำว่า “นาย” อย่างสะดวกปาก
ขั้นตอนการถอดถอน ไม่ควรต้องยืดเยื้อจนพล.อ.ประยุทธ์ต้องงัดมาตรา 44 มาใช้ จนทำให้พวกทนายลูกหาบออกมาตั้งแง่ในข้อกฎหมายป่วนแต่อย่างใด ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการถอดยศตามกระบวนการ ไม่จงใจดองเรื่องไว้
การถอดยศไม่ควรต้องทำให้พล.อ.ประยุทธ์มือเปื้อน ถ้าพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เตะถ่วง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว และถอดยศนายตำรวจที่กระทำความผิดมาแล้วมากมาย ซึ่งหากยึดแนวปฏิบัติเหมือนการถอดยศนายตำรวจคนอื่น ปัญหาคงจบไปนานแล้ว
แต่กรณีนายทักษิณ พล.ต.อ.สมยศพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดมา จนแนวทางการปฏิบัติตามปกติถูกโยงเป็นคดีการเมือง ทั้งที่ไม่เกี่ยวกัน
คดีของนายทักษิณ เป็นปัญหาของอดีตนายตำรวจที่ออกไปเล่นการเมือง แต่ใช้อำนาจการเมืองโดยมิชอบ ทุจริตและทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย จนถูกศาลตัดสินให้มีความผิดต้องติดคุก ซึ่งต้องถูกถอดยศตามระเบียบราชการ ข้อเท็จจริงมีเพียงเท่านี้
จะมีใครไปกลั่นแกล้ง จะเป็นคดีการเมืองตรงไหน
พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าตกเป็นเป้าโจมตี ถ้าพล.ต.อ.สมยศปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามที่ระเบียบราชการกำหนดไว้เท่านั้น
และเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติถอดยศนายทักษิณตามขั้นตอนแล้ว พล.ต.อ.สมยศเพียงแต่ชี้แจงให้สาธารณชนเข้าใจเท่านั้น ทุกอย่างจะจบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ลามปามมาถึงรัฐบาล
การที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับ “หน้าเสื่อ” ตกเป็นเป้าโจมตี จึงเป็นความผิดของพล.ต.อ.สมยศ และทำให้เกิดความรู้สึกว่า
ไหนๆ ก็ใช้มาตรา 44 ถอดยศนายทักษิณแล้ว น่าจะพ่วงการปลดพล.ต.อ.สมยศให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปในคราวเดียวกันเลย
การเปลี่ยนฐานะจากนายตำรวจ เหลือเพียงนายทักษิณคนธรรมดา เป็นการประกาศให้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมชนทุกรูปแบบแล้วกับระบอบทักษิณ โดยการถอดยศเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสงครามที่ไม่มีการประนีประนอมเท่านั้น
เหตุผลที่ยกมาเป็นข้ออ้างในการใช้มาตรา 44 ถอดยศ โดยระบุว่า เป็นกรณีที่กระทบต่อความมั่นคงของชาตินั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งสัญญาณชัดว่า ไม่ขอปรองดองกับนายทักษิณ และพร้อมที่จะเผชิญหน้าแล้ว
ต่อจากนี้นายทักษิณจะเอาอย่างไรก็ว่ามา เพราะต่อจากนี้ ระบบตาต่อตา ฟันต่อฟันจะถูกนำมาใช้ และไม่มีใครคัดค้านที่จะเล่นหนัก เพราะพฤติกรรมของนายทักษิณก็เป็นไปตามที่ คสช.ระบุไว้ในเหตุผลการถอดยศ
พฤติกรรมของนายทักษิณกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และไม่ใช่นายทักษิณเพียงคนเดียว แต่ลูกสมุน ลูกหาบขี้ข้าทั้งหลายก็มีพฤติกรรมที่กระทบต่อความมั่นคงเหมือนกัน
4 นักโทษที่เพิ่งถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในความผิดยิงระเบิดที่ย่านราชดำริ จนทำให้เด็กไร้เดียงสาเสียชีวิตก็เป็นเครือข่ายของนายทักษิณ
แกนนำคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง นักการเมืองพรรคเพื่อไทยที่ร่วมกันพยายามสร้างระบบเผด็จการรัฐสภาก็มี พฤติกรรมกระทบความมั่นคงเหมือนกัน ซึ่งประชาชนกำลังรอดูวาระสุดท้ายที่จะถูกจัดการอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ยังมีภารกิจที่ต้องจัดการกับกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมกระทบต่อความมั่นคงอีกมาก เวลาที่จะได้อยู่ต่อ
ถ้าใช้ไปเพื่อขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ก็อาจไม่มีใครไปทวงถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปเมื่อไหร่
พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่อีกกี่ปีกี่ชาติก็อยู่ไป ขอให้ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นเท่านั้นเป็นพอ