ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กต๊อก" ลั่นไม่กลัว ท้าออกมา ถ้าไม่พอใจที่ถอดยศ"ทักษิณ" ชี้กฎหมายไม่มีเลือกปฏิบัติ แม้แต่นายกฯ ถ้าผิดก็ต้องถอดยศ "พล.อ.ประยุทธ์" เหมือนกัน "วิษณุ" ยัน "บิ๊กตู่" ใช้อำนาจ มาตรา 44 ถอดยศได้ แนะ "แม้ว" ยึดโลกธรรม 8 มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ถอดยศ พ.ต.ท.ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ได้มีการแจ้งเรื่องนี้ให้ที่ประชุมรับทราบ รายงานว่า คสช. มีคำสั่งลงมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ เมื่อถามว่า จากถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มันคนละประเด็น แล้วรู้ได้ไงว่า สถานการณ์จะบานปลาย จะเกิดเหตุเพื่ออะไร
"ขอถามหน่อย การถอดยศใครสักคนหนึ่ง มันเป็นไปตามกฎหมาย แล้วคุณว่าจะเกิดความไม่สงบเรียบร้อย เพราะอะไร เพื่ออะไร"
เมื่อถามว่า แต่คุณทักษิณ ก็ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนกัน มีมวลชนเยอะแยะ พล.อ.ไพบูลย์ ย้อนถามอย่างมีอารมณ์ว่า ตกลงกฎหมายไม่ใช้กับคนไม่ธรรมดาหรือ กฎหมายใช้กับคนทุกคนแหละ นายกฯ ผิดก็ต้องถอดยศ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกัน กฎหมายเดียวกัน เพราะฉะนั้น ถามผมว่า จะไม่เกิดความสงบ ขอถามว่า เพราะอะไร ตกลงจะไม่ให้ผมทำตามกฎหมายก็พูดมาสิ แล้วอย่ามาพูดนะว่ารัฐบาลชุดนี้เลือกปฏิบัติ ห้ามพูดคำนี้เด็ดขาด มันเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เขาดำเนินการมากี่คนแล้ว ดูกฎหมายอย่างดีแล้ว แล้วจะกลัวอะไร ถ้าทำถูก ก็ไม่ต้องกลัว ผมพูดคำนี้เลยว่า ผมไม่กลัว ให้ออกมาแล้วกัน แล้วบอกผมด้วยว่า ออกมาเพื่ออะไร จะได้รู้ว่า ต้องปกครองประเทศแบบไหน เขียนด้วยนะ" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร ยื่นถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ลองไปดู มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้แล้วว่า เมื่อได้ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ถึงที่สุดแล้ว จะยุติอย่างไร
ผู้สื่อถามว่า มาตรา 44 เหนือกว่าพระราชอำนาจอีกหรือ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้น อย่าไปเทียบอย่างนั้น ไม่สมควร แต่เป็นมาตราที่ให้เลี้ยวมาอีกทางหนึ่ง ซึ่งปกติอาจจะมีเส้นทางเดินอยู่เส้นทางเดียว แต่นี่ให้เลี้ยวไปอีกเส้นทางหนึ่ง ไม่ได้เหนือกว่าอะไร เพียงแต่เป็นอำนาจที่รัฐธรรมนูญได้ให้ไว้ อย่างเช่น การให้อำนาจ มาตรา 44 ไปออกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาประมง หรือ ปัญหา ICAO หากเป็นทางตรง จะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. และนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย แต่เมื่อจำเป็นต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อความจำเป็นบางอย่าง ก็จะต้องทำ
เมื่อถามว่า การดำเนินการกับตระกูลชินวัตร แบบเบ็ดเสร็จแบบนี้ จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป้าหมายเขาไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก แต่เป็นการคิดว่า เมื่อดำเนินการมาแล้วจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ ยุติ และเรียบร้อย จบลงโดยที่ไม่ต้องมาพูดอะไรกันอีกในหน้าหนังสือพิมพ์ มันเป็นสิ่งที่จะต้องทำอยู่แล้วเท่านั้นเอง และคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ไปกระทบพระราชอำนาจ ไม่กระทบต่อความ ควร ไม่ควร เพราะฝ่ายข่าวเขาพบว่าอาจจะมีกรณีที่จะทำให้ไประคายเคือง ดังนั้น หัวหน้าคสช. จึงรับผิดชอบเสียเอง โดยเลือกใช้เส้นทางนี้
เมื่อถามว่า ฝ่ายที่ถูกกระทำเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม นายวิษณุ กล่าวว่า จะเป็นธรรมหรือไม่ ในที่สุดต้องเดินมาเส้นทางนี้อยู่แล้ว เหมือนถนนที่เดินมาตามสายนี้ มีทางให้เลือกว่าจะเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา ถ้ารู้ว่าเลี้ยวไปทางไหนแล้วจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะต้องไปอีกทางหนึ่ง โดยที่จะได้ผลอย่างเดียวกัน เหมือนถ้าเราจะไปดอนเมือง มันก็สามารถไปทางวิภาวดีหรือไปพหลโยธินก็ถึงเหมือนกัน
ต่อข้อถามว่า คนไทยชอบเห็นใจคนที่ถูกกระทำ นายวิษณุ กล่าวว่า "ก็เป็นที่เข้าใจกัน ผมว่าคุณทักษิณท่านพูดดีออก ว่าเป็นโลกธรรม เพราะฉะนั้นคนที่เข้าใจแบบนี้ได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร คนเรามีลาภ ก็เสื่อมลาภ มียศ ก็เสื่อมยศ มีสรรเสริญ ก็ต้องมีนินทา มีสุขก็มีทุกข์ เขาเรียกว่าโลกธรรม 8 ประการ สาธุ" นายวิษณุ กล่าว
**"ประวิตร"ย้ำเรื่องถอดยศ "ทักษิณ" จบแล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการถอดยศทักษิณ ว่า จบแล้ว ทุกอย่างชัดเจน แล้วตัวนายทักษิณเอง ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
เมื่อถามว่า บ้านเมืองน่าจะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้ามันสงบก็ดีทั้งนั้น ต่างคนก็ต่างไปทำมาหากิน รัฐบาลก็สามารถบริหารบ้านเมืองให้เจริญต่อไปได้ ลดความขัดแย้งได้ มีความเข้าใจกันได้ รวมถึงเป็นไปตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้วางไว้ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ด้วย
***"บิ๊กตู่" แจงใช้ ม.44 ถอดยศทักษิณ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการออกคำสั่ง คสช. มาตรา 44 ที่ถอดยศ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า "เรื่องมาตรา 44 ที่จบไปแล้วก็ไม่จบ ผมทำให้มันจบ จบไป เรื่องที่เป็นความขัดแย้งจบก่อน และไม่ได้เดือดร้อนใคร แม้กระทั้งที่ผมใช้มาตรา 44 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ผมถามว่า ผมทำตามใจคนพูดนั่นแหละ เพราะเขาบอกว่า ไม่ต้องการ เขาบอกว่า อยากถอด ไปได้ก็ถอดไป ใช่ไหม แล้ววันนี้มาว่าผมได้อย่างไร ผมทำตามใจท่านนะ เพราะฉะนั้น อย่ามาพูดกับผมแบบนั้น พูดกลับไปกลับมา แล้วแต่จะใช้โอกาสไหน ผมทำงานไอ้คนไม่ทำงานแล้วค่อยว่าผมตลอด ท่านก็ต้องอยู่กับผม ในสิ่งที่ถูก สิ่งที่ไม่ถูกท่านไม่ต้องมาอยู่กับผม ผมไม่ต้องการ ถ้าไม่ถูกก็บอกมา ผมจะได้แก้ไข เท่านั้นเอง"
ทั้งนี้ ฝากเรื่องเจตนาของคนพูด กับที่ตนพูดมันต่างกัน ตนไม่ได้ประเมินว่า ตนเองสูงกว่า เพียงแต่อย่าเอาสิ่งที่ไร้ค่าของเขามาพูดกับตน ตนไม่ฟัง และก็จะทำแบบนี้ต่อไป โดยจะใช้กฎหมายด้วยความยุติธรรม และเป็นธรรม ถ้าไม่ผิด ก็ไม่มีใครแตะต้องได้ ไม่ว่าจะกฎหมายมาตราอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตนไม่ได้ใช้เพื่อรังแกใคร ต้องมีสาเหตุ เคยรับสาเหตุกันหรือไม่ ขณะคำตัดสินของศาลยังไม่รับเลย รู้ความเดือดร้อนของประชาชนเห็นๆ กันอยู่ว่าประชาชนเจ็บตายกันอยู่ ยังไม่แก้ไขเลย ไปหามาแล้วกันรัฐบาลประชาธิปไตยแบบนั้น ไปหามาให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า อย่าให้คนทุจริต หรือคนไม่ดีมีที่ยืนอยู่ในสังคมอีกต่อไป คนเลว คนทำผิดกฎหมาย คนขี้โกง แต่อย่าไปรุนแรงกับเขา เพียงแต่อย่าไปนับถือ อย่าไปชื่นชมกันมากนัก พวกที่ชื่นชม และให้การสนับสนุนการกระทำความผิด หรือผู้กระทำความผิดหลบหนี้ต่างๆ ระวังกฎหมาย แล้วไปพูดจาถือว่าเข้าประเด็นให้การสนับสนุนการกระทำความผิดกฎหมาย ระวังกฎหมายจะเล่นงาน พวกที่พูดเก่งๆ พวกที่ชอบพูดว่า "ท่านครับ ผมว่าท่านอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป" ขอให้ระวังตัว ฝ่ายกฎหมายเขาดูอยู่ "ไอ้ฉลาดอะ ที่พูด ชื่อความหมายเดียวกันกับฉลาด รู้จักไหม" ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรี ถาม ผู้สื่อข่าวตอบว่า "เก่ง" นายกรัฐมนตรี กล่าวติดตลกว่า "ใช่ ให้คะแนน เอาตังค์มา ฉลาดนิ".
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ถอดยศ พ.ต.ท.ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ได้มีการแจ้งเรื่องนี้ให้ที่ประชุมรับทราบ รายงานว่า คสช. มีคำสั่งลงมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ เมื่อถามว่า จากถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มันคนละประเด็น แล้วรู้ได้ไงว่า สถานการณ์จะบานปลาย จะเกิดเหตุเพื่ออะไร
"ขอถามหน่อย การถอดยศใครสักคนหนึ่ง มันเป็นไปตามกฎหมาย แล้วคุณว่าจะเกิดความไม่สงบเรียบร้อย เพราะอะไร เพื่ออะไร"
เมื่อถามว่า แต่คุณทักษิณ ก็ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนกัน มีมวลชนเยอะแยะ พล.อ.ไพบูลย์ ย้อนถามอย่างมีอารมณ์ว่า ตกลงกฎหมายไม่ใช้กับคนไม่ธรรมดาหรือ กฎหมายใช้กับคนทุกคนแหละ นายกฯ ผิดก็ต้องถอดยศ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกัน กฎหมายเดียวกัน เพราะฉะนั้น ถามผมว่า จะไม่เกิดความสงบ ขอถามว่า เพราะอะไร ตกลงจะไม่ให้ผมทำตามกฎหมายก็พูดมาสิ แล้วอย่ามาพูดนะว่ารัฐบาลชุดนี้เลือกปฏิบัติ ห้ามพูดคำนี้เด็ดขาด มันเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เขาดำเนินการมากี่คนแล้ว ดูกฎหมายอย่างดีแล้ว แล้วจะกลัวอะไร ถ้าทำถูก ก็ไม่ต้องกลัว ผมพูดคำนี้เลยว่า ผมไม่กลัว ให้ออกมาแล้วกัน แล้วบอกผมด้วยว่า ออกมาเพื่ออะไร จะได้รู้ว่า ต้องปกครองประเทศแบบไหน เขียนด้วยนะ" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร ยื่นถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ลองไปดู มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้แล้วว่า เมื่อได้ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ถึงที่สุดแล้ว จะยุติอย่างไร
ผู้สื่อถามว่า มาตรา 44 เหนือกว่าพระราชอำนาจอีกหรือ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้น อย่าไปเทียบอย่างนั้น ไม่สมควร แต่เป็นมาตราที่ให้เลี้ยวมาอีกทางหนึ่ง ซึ่งปกติอาจจะมีเส้นทางเดินอยู่เส้นทางเดียว แต่นี่ให้เลี้ยวไปอีกเส้นทางหนึ่ง ไม่ได้เหนือกว่าอะไร เพียงแต่เป็นอำนาจที่รัฐธรรมนูญได้ให้ไว้ อย่างเช่น การให้อำนาจ มาตรา 44 ไปออกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาประมง หรือ ปัญหา ICAO หากเป็นทางตรง จะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. และนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย แต่เมื่อจำเป็นต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อความจำเป็นบางอย่าง ก็จะต้องทำ
เมื่อถามว่า การดำเนินการกับตระกูลชินวัตร แบบเบ็ดเสร็จแบบนี้ จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป้าหมายเขาไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก แต่เป็นการคิดว่า เมื่อดำเนินการมาแล้วจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ ยุติ และเรียบร้อย จบลงโดยที่ไม่ต้องมาพูดอะไรกันอีกในหน้าหนังสือพิมพ์ มันเป็นสิ่งที่จะต้องทำอยู่แล้วเท่านั้นเอง และคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ไปกระทบพระราชอำนาจ ไม่กระทบต่อความ ควร ไม่ควร เพราะฝ่ายข่าวเขาพบว่าอาจจะมีกรณีที่จะทำให้ไประคายเคือง ดังนั้น หัวหน้าคสช. จึงรับผิดชอบเสียเอง โดยเลือกใช้เส้นทางนี้
เมื่อถามว่า ฝ่ายที่ถูกกระทำเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม นายวิษณุ กล่าวว่า จะเป็นธรรมหรือไม่ ในที่สุดต้องเดินมาเส้นทางนี้อยู่แล้ว เหมือนถนนที่เดินมาตามสายนี้ มีทางให้เลือกว่าจะเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา ถ้ารู้ว่าเลี้ยวไปทางไหนแล้วจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะต้องไปอีกทางหนึ่ง โดยที่จะได้ผลอย่างเดียวกัน เหมือนถ้าเราจะไปดอนเมือง มันก็สามารถไปทางวิภาวดีหรือไปพหลโยธินก็ถึงเหมือนกัน
ต่อข้อถามว่า คนไทยชอบเห็นใจคนที่ถูกกระทำ นายวิษณุ กล่าวว่า "ก็เป็นที่เข้าใจกัน ผมว่าคุณทักษิณท่านพูดดีออก ว่าเป็นโลกธรรม เพราะฉะนั้นคนที่เข้าใจแบบนี้ได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร คนเรามีลาภ ก็เสื่อมลาภ มียศ ก็เสื่อมยศ มีสรรเสริญ ก็ต้องมีนินทา มีสุขก็มีทุกข์ เขาเรียกว่าโลกธรรม 8 ประการ สาธุ" นายวิษณุ กล่าว
**"ประวิตร"ย้ำเรื่องถอดยศ "ทักษิณ" จบแล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการถอดยศทักษิณ ว่า จบแล้ว ทุกอย่างชัดเจน แล้วตัวนายทักษิณเอง ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
เมื่อถามว่า บ้านเมืองน่าจะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้ามันสงบก็ดีทั้งนั้น ต่างคนก็ต่างไปทำมาหากิน รัฐบาลก็สามารถบริหารบ้านเมืองให้เจริญต่อไปได้ ลดความขัดแย้งได้ มีความเข้าใจกันได้ รวมถึงเป็นไปตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้วางไว้ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ด้วย
***"บิ๊กตู่" แจงใช้ ม.44 ถอดยศทักษิณ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการออกคำสั่ง คสช. มาตรา 44 ที่ถอดยศ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า "เรื่องมาตรา 44 ที่จบไปแล้วก็ไม่จบ ผมทำให้มันจบ จบไป เรื่องที่เป็นความขัดแย้งจบก่อน และไม่ได้เดือดร้อนใคร แม้กระทั้งที่ผมใช้มาตรา 44 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ผมถามว่า ผมทำตามใจคนพูดนั่นแหละ เพราะเขาบอกว่า ไม่ต้องการ เขาบอกว่า อยากถอด ไปได้ก็ถอดไป ใช่ไหม แล้ววันนี้มาว่าผมได้อย่างไร ผมทำตามใจท่านนะ เพราะฉะนั้น อย่ามาพูดกับผมแบบนั้น พูดกลับไปกลับมา แล้วแต่จะใช้โอกาสไหน ผมทำงานไอ้คนไม่ทำงานแล้วค่อยว่าผมตลอด ท่านก็ต้องอยู่กับผม ในสิ่งที่ถูก สิ่งที่ไม่ถูกท่านไม่ต้องมาอยู่กับผม ผมไม่ต้องการ ถ้าไม่ถูกก็บอกมา ผมจะได้แก้ไข เท่านั้นเอง"
ทั้งนี้ ฝากเรื่องเจตนาของคนพูด กับที่ตนพูดมันต่างกัน ตนไม่ได้ประเมินว่า ตนเองสูงกว่า เพียงแต่อย่าเอาสิ่งที่ไร้ค่าของเขามาพูดกับตน ตนไม่ฟัง และก็จะทำแบบนี้ต่อไป โดยจะใช้กฎหมายด้วยความยุติธรรม และเป็นธรรม ถ้าไม่ผิด ก็ไม่มีใครแตะต้องได้ ไม่ว่าจะกฎหมายมาตราอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตนไม่ได้ใช้เพื่อรังแกใคร ต้องมีสาเหตุ เคยรับสาเหตุกันหรือไม่ ขณะคำตัดสินของศาลยังไม่รับเลย รู้ความเดือดร้อนของประชาชนเห็นๆ กันอยู่ว่าประชาชนเจ็บตายกันอยู่ ยังไม่แก้ไขเลย ไปหามาแล้วกันรัฐบาลประชาธิปไตยแบบนั้น ไปหามาให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า อย่าให้คนทุจริต หรือคนไม่ดีมีที่ยืนอยู่ในสังคมอีกต่อไป คนเลว คนทำผิดกฎหมาย คนขี้โกง แต่อย่าไปรุนแรงกับเขา เพียงแต่อย่าไปนับถือ อย่าไปชื่นชมกันมากนัก พวกที่ชื่นชม และให้การสนับสนุนการกระทำความผิด หรือผู้กระทำความผิดหลบหนี้ต่างๆ ระวังกฎหมาย แล้วไปพูดจาถือว่าเข้าประเด็นให้การสนับสนุนการกระทำความผิดกฎหมาย ระวังกฎหมายจะเล่นงาน พวกที่พูดเก่งๆ พวกที่ชอบพูดว่า "ท่านครับ ผมว่าท่านอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป" ขอให้ระวังตัว ฝ่ายกฎหมายเขาดูอยู่ "ไอ้ฉลาดอะ ที่พูด ชื่อความหมายเดียวกันกับฉลาด รู้จักไหม" ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรี ถาม ผู้สื่อข่าวตอบว่า "เก่ง" นายกรัฐมนตรี กล่าวติดตลกว่า "ใช่ ให้คะแนน เอาตังค์มา ฉลาดนิ".