ASTVผู้จัดการรายวัน- ผบ.ตร.ย้ำไม่เสียหน้า นายกฯโยนเรื่องถอดยศแม้วให้ยธ.ดำเนินการ เชื่อจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ตอบสังคมได้ในวันนี้ แต่ยังย้ำการถอดยศนั้นต้องถือตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศ พ.ศ.47 ยันให้นายกฯตัดสินใจใคร เป็นผบ.ตร.คนใหม่ ย้ำไม่ใช่การแทรกแซง โดยจะมีการคัดเลือกผบ.ตร.คนใหม่ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) 14 ส.ค. นี้ "บิ๊กป้อม" นัดเหล่าทัพส่ง "โผทหาร" 15 ส.ค.นี้ ไม่กังวลใครจะนั่งผบทบ. ชี้ "บิ๊กหมู-บิ๊กติ๊ก" ใครก็ได้ที่เหมาะกับสถานณ์ บอกงานนี้ นายกฯไม่ยุ่ง "โอ๊ค" ยุส่งรีบถอดยศ "พ่อแม้ว" เหน็บเผื่อประเทศจะดีขึ้น จะได้เอาเวลาไปช่วยชาวบ้าน เชื่อพ่อแฮปปี้ถ้าเป็น "นายทักษิณ" โวเคยมีคนชงยศ "นายพล" ให้สมัยเป็นนายกฯ แต่ไม่รับหวั่นระคายเบื้องสูง
วานนี้( 11 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการตามขั้นตอนยึดหลักกฏหมาย ส่วนผลการประชุมที่กระทรวงยุติธรรมจะออกมาอย่างไร ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็พร้อมจะปฏิบัติตาม และยืนยันให้อำนาจของตัวแทนในการนำเสนอได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตนจะดำรงตำแหน่งผบ.ตร.วันสุดท้ายคือ วันที่ 30 ก.ย. ซึ่งหากผลสรุปออกมาก่อนหน้าตนเกษียณ ก็เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า การดำเนินการถอดยศนั้นต้องถือตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจการถอดยศ พ.ศ.2547 ซึ่งทางสำนักงานกำลังพล (สกพ.) มีความต้องการให้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระเบียบตร.ว่าด้วยถอดยศว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนเรื่องกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจแล้วจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จึงต้องส่งหนังสือเพื่อหารือกับทางกฤษฎีกาว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ซึ่งผ่านมากว่า 1 เดือน แล้วก็ยังไม่ได้รับคำตอบ และที่ผ่านมาได้เคยมีการปรึกษาหารือกับผู้ที่มีความรู้ทางด้านกฏหมายในหลายคนก็ได้คำตอบไปในทางเดียวกันว่า ไม่ควรจะเร่งรีบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ถอดยศพ.ต.ท ทักษิณ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ใช่ความรับผิดชอบของตน และไม่ใช่การยื้อเวลาของตน
"หากผลออกมาเช่นไร ก็ต้องยอมรับไปตามกรอบของกฏหมาย เนื่องจากการถอดยศครั้งนี้ ได้ผ่านการกลั่นกรองจากหลายฝ่าย หลายหน่วยงาน และตนเชื่อว่าผลที่ออกมาจะสามารถตอบคำถามของสังคมได้"
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่าในส่วนของการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการได้เฉพาะเครื่องราชฯที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มาขณะยังเป็นข้าราชการตำรวจอยู่เท่านั้น ในส่วนที่ไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการต่อ
"ตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมพิจารณานั้น ตนก็รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น ไม่ถือเป็นการเสียหน้าหรือเสียใจแต่อย่างใด ยิ่งทางกระทรวง ยุติธรรม และเจ้าหน้าที่กฏหมายหลายหน่วยงานเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้ ก็ยิ่งสร้างความรอบคอบมากยิ่งขึ้น"ผบ.ตร.ระบุ
***ให้อำนาจนายกฯเลือกผบ.ตร.คนใหม่ 14 ส.ค.นี้
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการคัดเลือกผบ.ตร.คนใหม่ ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ท่านมีความต้องการอย่างไร ตนก็ทำตามนั้น ตนคงจะไม่ไปนำเสนอหรือชี้นำให้ท่านต้องเลือกคนนั้นคนนี้ คงไม่สามารถกระทำได้ แม้ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจในใจตนกับในใจนายกรัฐมนตรีจะไม่ตรงกันก็ตาม ตนไม่มีความเห็นในเรื่องอายุราชการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกรัฐมนตรีมีความต้องการจะเลือกใครให้เป็นผบ.ตร.คนใหม่นั้น จะทำให้พล.ต.อ.สมยศ ในฐานะผู้เสนอชื่อไม่ได้รับความอิสระในการตัดสินใจหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่มีอิสระ มีอิสระซึ่งแม้ตามกฎหมายผบ.ตร.มีอำนาจในการตัดสินใจก็จริง แต่นายกรัฐมนตรีก็มีอำนาจที่จะตัดสินใจให้ใครได้รับตำแหน่งได้
" ยืนยันว่าไม่ใช่การแทรกแซงในอำนาจการตัดสินใจ ส่วนนายกรัฐมนตรีนั้นมีใครอยู่ในใจหรือไม่ตนไม่ทราบเนื่องจากยังไม่ได้มีการปรึกษากับนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ทั้งนี้ การคัดเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ใน วันที่ 14 ส.ค. นี้"พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
**'บิ๊กป้อม'นัดเหล่าทัพส่งโผทหาร15 ส.ค.นี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ว่า ได้นัดทุกเหล่าทัพให้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหาร ภายในวันที่ 15 ส.ค นี้ หลังจากนั้นตนจะนัดหมายเพื่อกำหนดวันประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล ที่มีด้วยกัน 7 คน โดยมีตนเป็นประธาน รมช.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ โดยทางพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล จะเป็นผู้รวบรวมบัญชีรายชื่อทั้งหมด ก่อนจะนัดวันประชุม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก โดยทางนายกรัฐมนตรีได้บอกว่า ท่านจะไม่เข้ามายุ่ง ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนที่จะพิจารณากันในคณะกรรมการ ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องหนักใจจนถึงขั้นต้องโหวต
เมื่อถามว่าระหว่าง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ. คนที่ 1 และ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. คนที่ 2 ใครเหมาะสม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครก็ได้ทั้งนั้น แต่ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด ซึ่งทางนายกรัฐมนตรี ก็บอกไว้แล้วว่า ต้องพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความไว้วางใจ ความซื่อสัตย์ ตลอดจนผลงานที่ผ่านมาของแต่ละคน ซึ่งก็ใกล้เคียงกันหมด เราต้องดูว่าใครเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และขณะตนยังไม่มีชื่อของ ผบ.ทบ.คนใหม่อยู่ในใจ และยังไม่เห็นบัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี
ด้านพล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร. กล่าวว่า ในส่วนของรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2558 ของกองทัพเรือ ได้ส่งไปแล้ว ขอให้เชื่อใจพล.อ.ประวิตร โดยการพิจารณาเน้นที่ความรู้ ความสามารถ เลือกคนที่ดีที่สุด พล.อ.ประวิตร ท่านสุดยอดอยู่แล้ว
***มั่นใจถอดยศ"แม้ว" ไม่ทำให้วุ่นวาย
นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังการประชุมครม.ถึงเรื่องถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองบานปลายหรือไม่นั้น เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าจะวุ่นวายหรือไม่ แต่อยากให้คิดในหลักกติกา การบังคับใช้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะในอดีตเราละเลยการบังคับใช้กฎหมายให้วุ่นวาย ส่วนด้านการข่าว ต้องเฝ้าระวังทุกมิติเป็นปกติอยู่แล้ว และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะนายกฯ ได้อธิบายอย่างชัดเจนอยู่แล้ว จะถอดหรือไม่ถอด และจะมีคำตอบอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่เราตัดสินใจเอง แต่เป็นเรื่องของกระบวนการ เรื่องนี้ประชาชนเข้าใจ และเชื่อว่ากระแสอะไรต่างๆ ไม่น่าเกิดขึ้น
**กฤษฎีกาไม่รับพิจารณากรณีถอดยศ
นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขอความเห็นเกี่ยวกับการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มายังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า ที่ผ่านมา สตช. เคยมีการขอความเห็นเรื่องดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบไปแล้ว ส่วนที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ส่งมายังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาล่าสุดนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ตนจึงไม่ได้รับพิจารณา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อยากให้รอฟังการประชุมที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน เพราะจะเป็นผู้พิจารณา
**พท.โวยถอดยศแฝงนัยการเมือง
นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลคสช. ที่จะดำเนินการถอดศ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สำเร็จลุล่วงว่า ถ้าอยากถอดก็ถอดไป จะไปทำให้ยากทำไม การยึดอำนาจเมื่อปี 49 ก็มีความพยายามจะถอดยศมาแล้ว ยึดอำนาจคราวนี้ ก็จะถอดยศอีก ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำไป เรื่องนี้คงไม่มีผลต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าถอดยศแล้วทำให้ราคายางสูงขึ้น 100 บาทต่อกิโลกรัม ราคาข้าวสูงขึ้น บ้านเมืองมันดีขึ้นก็ถอดไป เรื่องถอดยศ ถึงทำได้ หรือไม่ได้ ก็ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ก็เท่าเดิม อาจจะมีนัยยะการเมือง หรือมีผลต่อกลุ่มคนที่ไม่ชอบ เพื่อทำให้เห็นว่า ที่เคยเดินขบวนมา ประท้วงกันมา ยึดอำนาจแล้วก็ได้ทำให้แล้ว หากอยากทำให้เป็นผลงานชิ้นเอก ก็ถอดไปเลย ส่วนตัวเฉยๆ กับเรื่องนี้ แต่ฝั่งคนรักอาจจะเสียใจ ฝั่งคนไม่ชอบก็ดีใจเป็นธรรมดา ถ้าทำได้ ก็จะได้จบๆไป ไม่ต้องมาพูดกันอีก ถ้าไม่ได้ ก็จบไป แล้วก็ไม่ต้องเอามาพูดกันต่อ
***"โอ๊ค" ยุส่งรีบถอดยศ "พ่อแม้ว"
นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ "ถอดยศทักษิณ" โดยระบุว่า ถ้าคิดว่าทำแล้ว ประเทศชาติบ้านเมืองจะดีขึ้น ก็ทำไปเถอะครับ รีบๆทำ รีบๆถอด ให้เสร็จๆ จะได้เอาเวลาที่เหลือไปทำประโยชน์ ช่วยเหลือชาวบ้านที่เขายังลำบาก ยังต้องปากกัดตีนถีบ รอความหวังจากรัฐบาลกันอยู่อำนาจทุกอย่างก็อยู่ในมือ กฏหมายมาตราพิเศษก็มีใช้มากกว่ารัฐบาลอื่นๆ แต้มต่อมีเยอะขนาดนี้ ประเทศชาติน่าที่จะพัฒนา ประชาชนน่าที่จะสบายกว่านี้หลายเท่าตัว แต่ปัจจุบันกลับมีเสียงบ่น ข้าวยากหมากแพง เงินเดือนไม่พอจ่าย มีปัญหาหนี้สิน ถูกปลดจากงาน เดี๋ยวน้ำแล้งห้ามทำการเกษตร เดี๋ยวน้ำท่วม ปัญหาอื่นๆอีกร้อยแปดพันเก้า เดือดร้อนกันไปหมดทุกหย่อมหญ้า อำนาจต่างๆที่มีอยู่ล้นมือ น่าจะเอาไปใช้กับเรื่องหลักๆ ที่ประชาชนเขาเดือดร้อนน่าจะดีกว่านะครับ คนน่าจะชื่นชมมากกว่า สิ่งที่กำลังพยายามทำอยู่
"ผมเชื่อว่าเรื่องถอดยศ คุณพ่อผมน่าจะเฉยๆนะครับ มียศก็ได้ ไม่มีก็ไม่แปลก ผมจำได้ว่าเคยมีคนตั้งเรื่องจะขอพระราชทาน ยศชั้นนายพลตำรวจให้กับคุณพ่อผม ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง เมื่อทราบคุณพ่อผมรีบเบรกเรื่องทันที เพราะไม่อยากจะให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ที่จะต้องทรงพิจารณา ในการจะทรงลงพระปรมาภิไธย" นายพานทองแท้ ระบุ
นายพานทองแท้ ระบุด้วยว่า คนเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เดินทางไปทุกประเทศทั่วโลก คนเขาก็ยอมรับนับถือ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่นำนโยบายดีๆมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีใครมานับถือในการเคยเป็นนายตำรวจ ยศพันตำรวจโทเมื่อ 30 ปีที่แล้วหรอกครับ ถ้าเลือกได้ผมเชื่อว่า เวลานี้คุณพ่อผมน่าจะเลือกที่จะใช้ชีวิตเป็นนายทักษิณที่สามารถใช้ชีวิตอบอุ่น อยู่กับครอบครัวและลูกหลาน ได้อย่างปกติสุขอย่างคนทั่วไปมากกว่า ที่จะต้องมาผจญวิบากกรรมจากกระบวนการยุติธรรม ที่ตั้งเรื่องมาจากองค์กรอิสระที่บิดเบี้ยว และคณะตรวจสอบที่ผู้กระทำรัฐประหารครั้งก่อนนู้น ตั้งขึ้นโดยมีธงเพื่อมาไล่บี้เอาผิดกันโดยเฉพาะ การปรองดองของคนในชาติจะต้องเริ่มต้นจากการเยียวยา และให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกระทำเท่านั้น ใช้วิธีอื่นไม่มีวันสำเร็จครับ