00 วันนี้(10 ส.ค.)ได้เห็นความจริงจังของ รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่เรียกประชุมฝ่ายกม.ของกระทรวง เพื่อพิจารณาเรื่อง "ถอดยศ" ทักษิณ ชินวัตร จากนั้นสัปดาห์ถัดไป ก็เชิญฝ่ายตำรวจคือ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ.10) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาถอดยศ ทักษิณ ชินวัตร มาร่วมให้ความเห็น ก็ถูกเรื่องถูกคนแล้ว และหวังว่าคงไม่เชิญ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาร่วมประชุมด้วย เพราะจะยิ่งวุ่นวาย เสียเวลากันอีก และเสี่ยงต่อการ "ยื้อ" จนออกทะเลอีก ปล่อยให้เขาเกษียณฯไปตามอายุขัยเถิด
00 การกางปฏิทินตารางเวลาออกมาให้ชัดเจนว่า ภายในเดือน สิงหาคมนี้ ทุกอย่างจะชัดเจนว่าสามารถ "ถอดยศ" ทักษิณ ชินวัตร ได้หรือไม่ได้ ต้องอธิบายกับสังคมได้ ซึ่งมันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ทุกอย่างมันต้องมีบรรทัดฐานทางกม. มีระเบียบที่กำหนดเอาไว้ หากพิจารณาแบบนี้โดยไม่ต้องดูชื่อว่าเป็นใคร มีที่มาอย่างไร มันก็เรียบร้อย เพราะทุกคนในแผ่นดินนี้มันต้อง "เสมอภาคทางกม." ไม่มีอภิสิทธิ์ชน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นนายกฯ เป็นอดีตนายกฯ เป็นชาวนา ชาวสวน หรือว่าเศรษฐีหมื่นล้าน แต่สำคัญที่สุดก็คือ "ต้องมีความยุติธรรม" ตรงไปตรงมาเท่านั้น ทุกอย่างก็จบ !!
00 ชักจะเริ่มคล้อยตามไปเรื่อยๆ กับเสียงวิจารณ์ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ใช้วิธีบริหาร "เรื่องสำคัญ" ในแบบ "ลอยตัว" หรือ "ยื้อ" เวลาไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่พอมาพิจารณากันให้จริงจังมันก็เข้าเค้าเหมือนกัน อย่างเรื่องการถอดยศทักษิณ ก็ปล่อยเวลาตามน้ำไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องทั่วไป ก็โยนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำไป หรือหากเห็นว่าการปล่อยให้อยู่มือของ "สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" ชักจะไม่เข้าท่า ก็ควรส่งสัญญาณไปดังๆ ตั้งนานแล้วว่า "เฮ้ยอย่าเตะถ่วง" นะเฟ้ย ชาวบ้านเขาดูอยู่ อะไรแบบนี้ ด้วยลักษณะของตำรวจทั่วไป เมื่อเจอแบบนี้ก็ต้องรีบกุลีกุจอ แต่เมื่อวางเฉย จนกระทั่งชาวบ้านเขาเซ็ง จึงตื่นขึ้นมาทีหนึ่ง !!
00 เรื่องสำคัญอื่นๆ ก็เหมือนกัน ดูแล้วยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เช่น "งานปฏิรูป" ก็ไม่เห็นคืบหน้าชัดเจนจนจับต้องได้ ทั้งหมดเท่าที่เห็นล้วนแล้วแต่เป็น "งานของรัฐบาล" เป็นปัญหาของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ไปถึงไหน ทั้งที่เวลาผ่านมาเป็นปีแล้ว อีกทั้งอำนาจก็มีอยู่เต็มมือ ผลงานที่ออกมาไม่ต่างกับรัฐบาลผสมที่มีเสียงปริ่มน้ำเสียอีก !!
00 ถ้าจะอ้างว่างานปฏิรูปเป็นเรื่องพิจารณาใน สปช. ก็อ้างได้ แต่ถามว่าหากภารกิจหลัก และเป้าหมายของรัฐบาลและคสช. นอกจากเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้านแล้ว ที่ควบคู่กันก็คือ ภารกิจปฏิรูป และสปช. ก็คสช. เป็นคนตั้ง และที่บอกว่าจะปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ถามว่า เวลานี้มีใครรู้ว่าคณะกมธ.ทั้ง 11 คณะ ที่ตั้งขึ้นมานั้นทำงานคืบหน้าไปแต่ละเรื่องไปถึงไหนแล้ว ที่เห็นก็มีแต่การ ร่างรธน.ฉบับใหม่ ที่กำลังมีการเคลื่อนไหว "จะคว่ำ" เพื่อให้นั่งเก้าอี้ต่อไปอีก โดยไม่ได้พิจารณาว่า รธน.ใหม่มัน "ห่วย" อย่างไรถึงต้องคว่ำ !!
00 วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 70 ปีของ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม บรรยากาศก็คงคึกคักตามคาดหมาย เพราะมีคนแห่เข้าไปอวยพรกันคับคั่ง ตามประสาผู้มีบารมี แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในสายตาของสังคมข้างนอก เขากลับ "ไม่โดดเด่น" ไม่ได้อยู่ในใจของชาวบ้าน นี่พูดกันแบบตรงไปตรงมา มันเป็นแบบนี้จริงๆ ในทางตรงกันข้าม สังคมกลับมองเขาด้วยความ "ระแวง" ออกไปในทาง "ไม่น่าไว้ใจ" อะไรประมาณนั้น ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของ "คนใกล้ตัว" ที่มีภาพลักษณ์ทางลบ ถูกมองในแง่ผลประโยชน์แบบลึกลับซับซ้อน ซึ่งลักษณะแบบนี้ คือ "การเมืองโบราณ" ที่หมดยุคไปแล้ว การเมืองยุคใหม่ต้อง "เคลียร์" อย่าทำให้อึมครึม ทำการเมืองให้ "ง่ายที่สุด" ต้องเข้าไปนั่งในหัวใจชาวบ้านให้ได้ ดังนั้นหาก "พี่ใหญ่" คนนี้ต้องการไปให้ไกลถึงเป้าหมาย ก็ต้องแก้ไขเรื่องดังกล่าวให้ได้เสียก่อน !!
00 การกางปฏิทินตารางเวลาออกมาให้ชัดเจนว่า ภายในเดือน สิงหาคมนี้ ทุกอย่างจะชัดเจนว่าสามารถ "ถอดยศ" ทักษิณ ชินวัตร ได้หรือไม่ได้ ต้องอธิบายกับสังคมได้ ซึ่งมันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ทุกอย่างมันต้องมีบรรทัดฐานทางกม. มีระเบียบที่กำหนดเอาไว้ หากพิจารณาแบบนี้โดยไม่ต้องดูชื่อว่าเป็นใคร มีที่มาอย่างไร มันก็เรียบร้อย เพราะทุกคนในแผ่นดินนี้มันต้อง "เสมอภาคทางกม." ไม่มีอภิสิทธิ์ชน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นนายกฯ เป็นอดีตนายกฯ เป็นชาวนา ชาวสวน หรือว่าเศรษฐีหมื่นล้าน แต่สำคัญที่สุดก็คือ "ต้องมีความยุติธรรม" ตรงไปตรงมาเท่านั้น ทุกอย่างก็จบ !!
00 ชักจะเริ่มคล้อยตามไปเรื่อยๆ กับเสียงวิจารณ์ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ใช้วิธีบริหาร "เรื่องสำคัญ" ในแบบ "ลอยตัว" หรือ "ยื้อ" เวลาไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่พอมาพิจารณากันให้จริงจังมันก็เข้าเค้าเหมือนกัน อย่างเรื่องการถอดยศทักษิณ ก็ปล่อยเวลาตามน้ำไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องทั่วไป ก็โยนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำไป หรือหากเห็นว่าการปล่อยให้อยู่มือของ "สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" ชักจะไม่เข้าท่า ก็ควรส่งสัญญาณไปดังๆ ตั้งนานแล้วว่า "เฮ้ยอย่าเตะถ่วง" นะเฟ้ย ชาวบ้านเขาดูอยู่ อะไรแบบนี้ ด้วยลักษณะของตำรวจทั่วไป เมื่อเจอแบบนี้ก็ต้องรีบกุลีกุจอ แต่เมื่อวางเฉย จนกระทั่งชาวบ้านเขาเซ็ง จึงตื่นขึ้นมาทีหนึ่ง !!
00 เรื่องสำคัญอื่นๆ ก็เหมือนกัน ดูแล้วยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เช่น "งานปฏิรูป" ก็ไม่เห็นคืบหน้าชัดเจนจนจับต้องได้ ทั้งหมดเท่าที่เห็นล้วนแล้วแต่เป็น "งานของรัฐบาล" เป็นปัญหาของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ไปถึงไหน ทั้งที่เวลาผ่านมาเป็นปีแล้ว อีกทั้งอำนาจก็มีอยู่เต็มมือ ผลงานที่ออกมาไม่ต่างกับรัฐบาลผสมที่มีเสียงปริ่มน้ำเสียอีก !!
00 ถ้าจะอ้างว่างานปฏิรูปเป็นเรื่องพิจารณาใน สปช. ก็อ้างได้ แต่ถามว่าหากภารกิจหลัก และเป้าหมายของรัฐบาลและคสช. นอกจากเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้านแล้ว ที่ควบคู่กันก็คือ ภารกิจปฏิรูป และสปช. ก็คสช. เป็นคนตั้ง และที่บอกว่าจะปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ถามว่า เวลานี้มีใครรู้ว่าคณะกมธ.ทั้ง 11 คณะ ที่ตั้งขึ้นมานั้นทำงานคืบหน้าไปแต่ละเรื่องไปถึงไหนแล้ว ที่เห็นก็มีแต่การ ร่างรธน.ฉบับใหม่ ที่กำลังมีการเคลื่อนไหว "จะคว่ำ" เพื่อให้นั่งเก้าอี้ต่อไปอีก โดยไม่ได้พิจารณาว่า รธน.ใหม่มัน "ห่วย" อย่างไรถึงต้องคว่ำ !!
00 วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 70 ปีของ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม บรรยากาศก็คงคึกคักตามคาดหมาย เพราะมีคนแห่เข้าไปอวยพรกันคับคั่ง ตามประสาผู้มีบารมี แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในสายตาของสังคมข้างนอก เขากลับ "ไม่โดดเด่น" ไม่ได้อยู่ในใจของชาวบ้าน นี่พูดกันแบบตรงไปตรงมา มันเป็นแบบนี้จริงๆ ในทางตรงกันข้าม สังคมกลับมองเขาด้วยความ "ระแวง" ออกไปในทาง "ไม่น่าไว้ใจ" อะไรประมาณนั้น ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของ "คนใกล้ตัว" ที่มีภาพลักษณ์ทางลบ ถูกมองในแง่ผลประโยชน์แบบลึกลับซับซ้อน ซึ่งลักษณะแบบนี้ คือ "การเมืองโบราณ" ที่หมดยุคไปแล้ว การเมืองยุคใหม่ต้อง "เคลียร์" อย่าทำให้อึมครึม ทำการเมืองให้ "ง่ายที่สุด" ต้องเข้าไปนั่งในหัวใจชาวบ้านให้ได้ ดังนั้นหาก "พี่ใหญ่" คนนี้ต้องการไปให้ไกลถึงเป้าหมาย ก็ต้องแก้ไขเรื่องดังกล่าวให้ได้เสียก่อน !!