นายนพพล น้อยบ้านโง้ง ประธานกลุ่มประชาชนเพื่อความยุติธรรมในแผ่นดินไทย (ก.ย.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามการสอบสวน นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดว่า ได้ทราบว่าคณะกรรมการสอบสวนกรณีจดหมายน้อย ซึ่งมีนายชาญชัย แสวงศักดิ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 2 เป็นประธาน ได้มีมติเสียงข้างมากเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (กศป.) ว่า ที่มีการกล่าวหานายหัสวุฒิ เกี่ยวข้องกับจดหมายน้อยฝากตำรวจนั้น ไม่มีมูลจริง แต่ที่ประชุม กศป. เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา กลับไม่มีการออกมติใดๆ ทั้งที่มีหน้าที่ต้องออกมติ เพื่อรับทราบผลการสอบสวนตามที่ได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวน แต่กลับไม่ทำหน้าที่ ทั้งที่ระเบียบของ กศป. ก็ได้กำหนดกรอบเวลาในการสอบสวนไว้อย่างชัดเจน ซึ่งบัดนี้ก็ล่วงเลยมามากแล้ว
นายนพพล กล่าวว่า ในความเป็นจริง กรณีจดหมายน้อยมีการสอบสวนไปแล้วก่อนหน้าที่จะมีการพักราชการนายหัสวุฒิไปแล้ว ซึ่งกรรมการ ก็มีมติมาแล้วครั้งหนึ่งว่า นายหัสวุฒิ ไม่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน แต่เหตุใด กศป. จึงพยายามเชื่อมโยงให้มีการสอบสวน และสั่งพักราชการนายหัสวุฒิอีก เมื่อเห็นว่า กศป.ไม่ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย ก.ย.ท. จึงได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมไปถึงยื่นต่อ นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครองสูงสุด ในฐานะรักษาการ ประธานศาลปกครองสูงสุด และ กศป.ไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของ กศป. และคืนความเป็นธรรมให้แก่นายหัสวุฒิ เพราะจากการเข้ามาตรวจสอบพบว่า มีความผิดปกติหลายจุด
" เราต้องการความกระจ่าง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา เราไม่เห็นว่า กศป. จะออกมาชี้แจงความคืบหน้าเรื่องนี้เลย ขณะที่ทางนายหัสวุฒิ ก็แสดงสปิริตไม่ออกมาชี้แจงใดๆ เช่นกัน ประชาชนก็อยากรู้ความจริงว่า ความล่าช้าเกิดจากอะไร จึงเห็นว่าน่าจะมีเรื่องผิดปกติอย่างแรง จึงได้ออกมาเรียกร้องครั้งนี้" นายนพพล กล่าว
นายนพพล กล่าวอีกว่าได้รับรายงานว่า ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ จะมีการประชุม กศป. จึงขอเรียกร้องให้ที่ประชุม กศป.นำเรื่องผลการสอบสวนนายหัสวุฒิ เข้าสู่ที่ประชุม และมีมติไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และความเป็นธรรมต่อตัวนายหัสวุฒิ หากไม่มีมติใดๆ อีก ก็ขอเรียกร้องให้ กศป.ออกมาชี้แจงว่า มีเหตุขัดข้องอันใด ซึ่งหากมีเหตุขัดข้องจริง ตุลาการศาลปกครอง ควรที่จะชี้แจงต่อส่วนรวมมากกว่า ที่จะต้องให้ภาคประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของ ก.ย.ท.นั้น ไม่ได้มีเบื้องหลังใดๆ เพียงแต่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ของคนไทย และองค์กรศาลปกครองเอง ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน จึงอยากให้ดูที่เนื้อหาของข้อเรียกร้องมากกว่าจะมากล่าวหาว่า มีเบื้องหลังอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ เป็นกรณีที่ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้มีหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจอห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอให้สนับสนุนนายตำรวจรายหนึ่ง ที่ช่วยงานภายในศาลปกครองให้ได้รับการเลื่อนขั้นในตำแหน่งที่สูงขึ้น ในการโยกย้ายประจำปี โดยในหนังสือได้อ้างถึงประธานศาลปกครองว่า ก็มีความประสงค์ดังกล่าว แต่เมื่อมีการสอบสวน นายดิเรกฤทธิ์ ยอมรับว่าได้ดำเนินการด้วยตนเอง โดยที่นายหัสวุฒิ ไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่ง กศป.ก็ได้มีบทลงโทษนายดิเรกฤทธิ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายนพพล กล่าวว่า ในความเป็นจริง กรณีจดหมายน้อยมีการสอบสวนไปแล้วก่อนหน้าที่จะมีการพักราชการนายหัสวุฒิไปแล้ว ซึ่งกรรมการ ก็มีมติมาแล้วครั้งหนึ่งว่า นายหัสวุฒิ ไม่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน แต่เหตุใด กศป. จึงพยายามเชื่อมโยงให้มีการสอบสวน และสั่งพักราชการนายหัสวุฒิอีก เมื่อเห็นว่า กศป.ไม่ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย ก.ย.ท. จึงได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมไปถึงยื่นต่อ นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครองสูงสุด ในฐานะรักษาการ ประธานศาลปกครองสูงสุด และ กศป.ไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของ กศป. และคืนความเป็นธรรมให้แก่นายหัสวุฒิ เพราะจากการเข้ามาตรวจสอบพบว่า มีความผิดปกติหลายจุด
" เราต้องการความกระจ่าง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา เราไม่เห็นว่า กศป. จะออกมาชี้แจงความคืบหน้าเรื่องนี้เลย ขณะที่ทางนายหัสวุฒิ ก็แสดงสปิริตไม่ออกมาชี้แจงใดๆ เช่นกัน ประชาชนก็อยากรู้ความจริงว่า ความล่าช้าเกิดจากอะไร จึงเห็นว่าน่าจะมีเรื่องผิดปกติอย่างแรง จึงได้ออกมาเรียกร้องครั้งนี้" นายนพพล กล่าว
นายนพพล กล่าวอีกว่าได้รับรายงานว่า ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ จะมีการประชุม กศป. จึงขอเรียกร้องให้ที่ประชุม กศป.นำเรื่องผลการสอบสวนนายหัสวุฒิ เข้าสู่ที่ประชุม และมีมติไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และความเป็นธรรมต่อตัวนายหัสวุฒิ หากไม่มีมติใดๆ อีก ก็ขอเรียกร้องให้ กศป.ออกมาชี้แจงว่า มีเหตุขัดข้องอันใด ซึ่งหากมีเหตุขัดข้องจริง ตุลาการศาลปกครอง ควรที่จะชี้แจงต่อส่วนรวมมากกว่า ที่จะต้องให้ภาคประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของ ก.ย.ท.นั้น ไม่ได้มีเบื้องหลังใดๆ เพียงแต่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ของคนไทย และองค์กรศาลปกครองเอง ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน จึงอยากให้ดูที่เนื้อหาของข้อเรียกร้องมากกว่าจะมากล่าวหาว่า มีเบื้องหลังอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ เป็นกรณีที่ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้มีหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจอห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอให้สนับสนุนนายตำรวจรายหนึ่ง ที่ช่วยงานภายในศาลปกครองให้ได้รับการเลื่อนขั้นในตำแหน่งที่สูงขึ้น ในการโยกย้ายประจำปี โดยในหนังสือได้อ้างถึงประธานศาลปกครองว่า ก็มีความประสงค์ดังกล่าว แต่เมื่อมีการสอบสวน นายดิเรกฤทธิ์ ยอมรับว่าได้ดำเนินการด้วยตนเอง โดยที่นายหัสวุฒิ ไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่ง กศป.ก็ได้มีบทลงโทษนายดิเรกฤทธิ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว