สะเก็ดไฟ
รอแล้ว... รอเล่า...เฝ้าแต่รอ สำหรับผลการสอบสวน “หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล” ประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ตอนนี้กลายเป็นที่จับตาของสาธารณชน ถึงความโปร่งใสในการดำเนินการทางวินัยต่อประธานศาลปกครองสูงสุด กรณี “จดหมายน้อย” ที่ล่าช้าเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดมาหลายเดือน
ตอนนี้มีข่าวสะพัดมาว่า คณะกรรมการการสอบสวน ที่มี “ชาญชัย แสวงศักดิ์” รองประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 2 เป็นประธาน ได้ดำเนินการประชุม และมีบทสรุปเรียบร้อยแล้ว โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า ความผิดของ “หัสวุฒิ” ไม่มีมูล ตามที่ถูกกล่าวหา
ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อมาอีกว่า เมื่อได้ข้อสรุปจากการสอบสวนแล้ว เหตุใดจึงไม่มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เพื่อดำเนินการลงมติให้สาธารณชนสิ้นสงสัย
แต่กลับมีมติ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558 ให้คณะกรรมการสอบสวนเรียก “หัสวุฒิ” มาพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และสรุปพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา หรือยื่นคำชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนอีก
ทำเอาคนในศาลปกครองงงเป็นไก่ตาแตก !!!
ทั้งที่คณะกรรมการสอบสวนสรุปผลแล้วว่า “ไม่มีมูล” แล้วเหตุใดจึงต้องเรียกไปพบ หรือชี้แจงอะไรอีก กลายเป็นว่า ก.ศป. มีความเห็นสวนทางกับมติของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นมา และมอบอำนาจให้เอง
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในศาลปกครอง ตั้งข้อสังเกตกันไปต่าง ๆ นานา ว่า นี่อาจจะเป็น “เกมถ่วงเวลา” กันอีกรอบ หลังจากที่เตะถ่วงในชั้นคณะกรรมการสอบสวนมานานหลายเดือน
กระทั่งผู้แทนจากหลายเครือข่าย อาทิ เครือข่ายสมาคมพิทักษ์สิทธิข้าราชการฯ กลุ่มประชาชนเพื่อความยุติธรรมในแผ่นดินไทย (ก.ย.ท.) ก็ได้ออกมายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ศป. รวมทั้งคณะกรรมการสอบสวน ในกรณีที่ประธานศาลปกครองสูงสุด ถูกกล่าวหาใส่ร้าย และไม่ได้รับความเป็นธรรม
ตำแหน่ง “ประธานศาลปกครองสูงสุด” เป็นตำแหน่งของสาธารณชน จึงขอให้สะเด็ดน้ำอย่างเป็นธรรม และต้องตอบคำถามจากสังคมได้อย่าง “สมเหตุสมผล” นะครับ เจ้านาย !