xs
xsm
sm
md
lg

ผู้การกองปราบฯแย้ม เสี่ยชูวงษ์ตายผิดธรรมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - งวดเข้ามาทุกทีสำหรับคดีเสี่ยชูวงษ์ ผบก.ป.แย้มแม้ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ แต่บอกได้ว่าเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ต้องตรวจสอบ เตรียมหารือคณะทำงานจำลองเหตุการณ์ ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม เผยอยู่ระหว่างประสานบริษัทรถ นักวิชาการเชี่ยวชาญการขับขี่ และอาจรวมถึงการใช้หุ่นจำลอง

วานนี้ (1 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจหมื่นล้านที่เสียชีวิตปริศนาภายในรถเล็กซัส ของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ว่า ในเรื่องของคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ยังไม่ได้สรุปสำนวนการสอบสวน ส่วนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น ก็ได้เริ่มมีการตรวจสอบไปบ้างแล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะทำงานและมีการแบ่งงานและมอบหมายหน้าที่ ก็อย่างที่เรียนไว้ว่ามีสำนวนการสอบสวนจาก สน.อุดมสุข ที่เราได้รับมา รวมทั้งเอกสารสำนวนการชันสูตร

พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบในภาคพื้นดิน เรื่องของตารางเวลานับตั้งแต่นายชูวงษ์ เดินทางออกจากสนามกอล์ฟ ไปยังจุดที่มีการเสียชีวิต อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ส่วนสาเหตุหลักที่ บก.ป.ต้องดำเนินการนั้นเป็นเพราะทางฝ่ายญาติของนายชูวงษ์ ติดใจสาเหตุแล้วก็เห็นว่า บก.ป.ทำเรื่องการโอนหุ้นที่ผิดปกติของนายชูวงษ์อยู่แล้ว จึงอยากให้เป็นเรื่องที่ได้ทำร่วมกันทีเดียว โดยคดีการโอนหุ้นยืนยันว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่ บก.ป.มีอยู่ในขณะนี้มีความแน่นหนา นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้อีกหลายจุด ซึ่งมากเพียงพอจะเอาผิดผู้ต้องหาได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการออกหมายเรียกหรือพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมในคดีการโอนหุ้น พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า ทางคณะทำงานได้มีการพิจารณากันอยู่ว่าจะมีการเชิญใครมาให้ปากคำอีก คาดว่าภายในวันที่ 2 กันยายนนี้ คงจะทราบว่าเราจะต้องเชิญใครมาอีก หรือออกหมายเรียกใคร เมื่อถามว่ามีบุคคลใดบ้างเป็นพยานฝ่าย พ.ต.ท.บรรยิน หรือเป็นฝ่ายญาติของนายชูวงษ์ พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า มีทั้งสองฝ่าย ก็คงจะต้องสอบพยานที่เกี่ยวข้องในทุกประเด็นที่เรามีข้อสงสัย ส่วนการพิจารณาออกหมายจับเพิ่มเติมนั้นขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ใด อย่างไรก็ตามสำหรับประเด็นข้อสงสัยที่จะต้องสอบปากคำจากพยานเพิ่มเติมก็จะพิจารณาทั้งในเรื่องของการโอนหุ้นบางตัวที่จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น และในส่วนของสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ด้วย

ต่อข้อถามเกี่ยวกับกรณีปากกาที่นายชูวงษ์ใช้ในการเซ็นเอกสารโอนหุ้นนั้น พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าประเด็นนี้เป็นสาระสำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่ทางกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้แจ้งผลการตรวจสอบกลับมายังพนักงานสอบสวน บก.ป.แล้ว มีการยืนยันด้วยความเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นที่ยอมรับ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น จุดนี้ก็ต้องมีคำตอบว่าคืออะไร ส่วนปากกาจะใช้แบบไหน ซื้อจากไหน อันนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมีการชี้แจง

เมื่อถามถึงกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เกี่ยวกับการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบจุดที่เกิดอุบัติเหตุ นั้น พล.ต.ต.อัคราเดช ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนได้แบ่งงานกันแล้ว ก็จะต้องมีการตรวจสอบกล้องทุกตัวที่มีอยู่และใช้การได้ เราก็คงจะแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อตอบทุกข้อสงสัยให้ได้ ส่วนมิติของการเสียชีวิตด้วยสาเหตุจากอะไรมีใครทำให้เสียชีวิต หรือเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน

"ผมยืนยันว่าทำคดีนี้ด้วยความเป็นธรรม และไม่ได้ตั้งธงไว้ก่อน เราไม่ได้ขัดแย้งกับใคร เป็นตำรวจ เป็นนักกฎหมาย เขากล่าวกันไว้ว่า นักกฎหมายอย่าไปกลัวสิ่งอื่น กลัวสิ่งเดียวคือกฎหมาย ถ้าใครไม่ไว้ใจเราก็ยินดี จะไปร้องเรียนที่ไหนก็แล้วแต่ จะไปศาลโลก หรือไปที่ไหนก็แล้วแต่เลย ผมยืนยันได้ว่าทางกองปราบปรามดำเนินการด้วยความเที่ยงตรง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรายังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการเสียชีวิตว่าเป็นการฆาตกรรม หรือเกิดจากอุบัติเหตุ โดยบอกได้เพียงว่าเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ และยังคงต้องตรวจสอบต่อไป ถ้าหากเป็นการฆาตกรรมจะเป็นลักษณะไหน เป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ มีเหตุอะไรเกิดขึ้นบนรถ ตรงนี้จึงยังไม่สามารถยืนยันได้" ผบก.ป.กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีการจำลองเหตุการณ์ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า คงจะต้องมีการพิจารณาร่วมกันกับคณะทำงานอีกครั้ง หากว่าต้องจำลองเหตุการณ์ก็ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อม ตรงนี้จึงอยู่ในช่วงระหว่างการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัทรถ นักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการขับขี่ อาจรวมไปถึงการใช้หุ่นจำลองด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น