Astvผู้จัดการ - ผบ.ตร. ย้ำพนักงานสอบสวนคดี “ชูวงษ์” ถ้าไม่ชัวร์ ไม่ต้องรีบสรุปสำนวน ยืนยันไม่ช่วย “บรรยิน” ถึงแม้เป็นตำรวจด้วยกัน
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมเสนอศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส. นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ หลังพบพิรุธการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ว่า ขณะนี้ขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน และตนได้พูดไปแล้วว่าตำรวจพบความผิดปกติเรื่องการโอนหุ้น และมีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้
จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมข้อมูล และพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ก่อนที่จะขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ ทั้งนี้ หากพยานหลักฐานไม่เพียงพออาจเกิดความเสียหาย เกิดข้อครหาต่อตำรวจได้ แต่ตนยืนยันว่า ข้อมูลหลักฐานที่พนักงานสอบสวนของทางกองปราบฯ นำมาชี้แจงต่อที่ประชุม สามารถนำมาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวนายชูวงษ์ นำผลการตรวจพิสูจน์ศพไปให้แพทยสภาตรวจอีกครั้งนั้น ตนได้ย้ำกับพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข และตำรวจนครบาล ว่า จะต้องทำทุกอย่างให้ครบถ้วนจบสิ้นกระบวนการ นี่คือเหตุผลที่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนได้ต้องสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีตำรวจหลายหน่วยงานร่วมทำคดีนี้ ทั้งนครบาล กองปราบปราม กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และนิติเวช
“ผมได้ย้ำพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้หาพยานหลักฐานให้ชัดเจน โดยไม่ต้องรีบร้อนในการสรุปสำนวน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้เป็นการใส่ร้ายป้ายสี จึงค่อยขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ ใครบอกให้รีบอย่าเชื่อ ต้องทำให้ถึงที่สุดก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา มีประเด็นเพิ่มเติมในห้องประชุม ว่า ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม หรือตรวจสอบสถานที่เพิ่มเติมหรือไม่ เช่น ชาวบ้านในละแวกนั้น หรือไม่ แต่ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนทำไปมากแล้ว แต่ยังขาดบางประเด็นที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมในประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสงสัย เช่น ทำไมคนตายตาเขียว ไม่มีรอยกระแทก มันเกิดจากอะไรได้บ้าง ต้องปรึกษาแพทย์นิติเวช เพราะตำรวจไม่มีความรู้เรื่องนี้” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนประเด็นใดไม่ต้องกับข้อมูลของทางครอบครัว หรือญาตินายชูวงษ์ ก็สามารถไปฟ้องร้องต่อศาลได้ แต่ในส่วนตำรวจพบหลักฐานเท่านี้ และทำเต็มที่แล้ว ขอให้ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นมืออาชีพ ไม่คิดจะช่วยเหลือใคร แม้ พ.ต.ท.บรรยิน จะเป็นตำรวจ เราไม่ยอมนำเกียรติยศชื่อเสียงของตำรวจทั้งประเทศไปปกป้องคน ๆ หนึ่ง มันเป็นไปไม่ได้ แต่หากไม่พบพยานหลักฐานว่าเขาผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่เขาด้วย อย่าคิดไปเอง ต้องคิดตามหลักฐาน