ASTV จัดการ - ผบก.กองปราบปรามตั้งชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ “เสี่ยชูวงษ์” ระบุยังไม่ฟันธงอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม ไม่หวั่น “บรรยิน” ร้องทุกข์ ยันทุกอย่างทำตามหลักการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีรับโอนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่าทาง บก.ป.ได้รับสำนวนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์มาแล้วเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุดเพื่อตรวจสอบสำนวนคดีดังกล่าวให้รอบคอบซึ่งจะเริ่มตรวจสอบคดีนี้แบบนับหนึ่งใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่หาจุดเริ่มต้นของรถยนต์คันเกิดเหตุไปจนถึงจุดเกิดเหตุว่ามีการเริ่มต้นมาจากที่ใด พร้อมกับประสานทางพนักงานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมตรวจสอบรถคันเกิดเหตุด้วย
พล.ต.ต.อัคราเดชเปิดเผยด้วยว่า สำหรับสำนวนคดีซึ่งทางพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ส่งมาให้กับทาง บก.ป.นั้นมีจำนวนหลายร้อยหน้าคงต้องใช้เวลาในการพิจารณาและนำมาประกอบการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยืนยันว่าทาง บก.ป.ยังไม่มีการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเป็นการฆาตกรรม และยังไม่ได้มีการนัดประชุมคณะทำงานชุดใหญ่แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ญาติของนายชูวงษ์ร้องขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.สามารถดำเนินการเองได้ คงไม่มีความจำเป็นจะต้องให้หน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมดำเนินการแต่อย่างใด ส่วนคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ไปยัง น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้สาว น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี โบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด และ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี มารดาของ น.ส.อุรชา ซึ่งทั้งหมดตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว จนถึงขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องหาเท่าเดิม ยังไม่มีการพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์อีกรายที่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.พร้อมกับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เพื่อขอคัดค้านการโอนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จากทาง สน.อุดมสุข มาให้ บก.ป.ดำเนินการแทนว่า การดำเนินการของทาง บก.ป.ยังคงเป็นไปตามขั้นตอนปกติ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งใดๆ จากผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา หรือให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ จึงไม่มีปัญหาอุปสรรคหรือรู้สึกหนักใจแต่อย่างใด
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวอีกว่า การเข้าร้องทุกข์ของทาง พ.ต.ท.บรรยินนั้นก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ส่วนทางผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาสั่งการมายัง บก.ป.อย่างไร ตนก็พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยินร้องทุกข์ในประเด็นที่กำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของบุตรสาว พ.ต.ท.บรรยิน ที่ย่านรามอินทรานั้น ตนยืนยันว่าเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ซึ่งสามารถรกะทำได้ โดยเป็นไปตามหลักการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ที่ผ่านมาตนรับทราบถึงการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตลอดและไม่พบว่ามีการกระทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด
