xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งคลี่คลายปมการตาย “เสี่ยชูวงษ์” อาจมีเงื่อนงำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ASTV ผู้จัดการ - โฆษก ตร.เผยศาลอนุมัติหมายจับ “บรรยิน-พริตตี้” พบหลักฐานขูดลบขีดฆ่าเอกสารโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” จากเดิมที่เป็นการจำนำหุ้น กลายเป็นการโอนหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 เร่งคดีคลายปมการเสียชีวิตเพราะอาจไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ

วันนี้ (24 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีโอนหุ้นที่พบความผิดปกติของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ว่า ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 4 คน ตามคำร้องของ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้แก่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และรับของโจร ตามหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.560/2558 และ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ส่วน น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 27 ปี ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามหมายจับที่ จ.562/2558 และ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 42 ปี ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร ที่จ.561/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค. 2558

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนมีหลักฐานว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจนนำไปสู่การออกหมายจับ เนื่องจากมีเอกสารการโอนหุ้นพบการแก้ไข โดยมีการลบ ขีดฆ่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ สามารถเห็นได้ว่า รอยขีดฆ่าผิดไปจากวัตถุประสงค์ของนายชูวงษ์ จากเดิมที่เป็นการจำนำหุ้นกลายเป็นการโอนหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 ซึ่งไม่ทราบว่ามีความสัมพันธ์กันเช่นใด แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ญาติ นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติในหลายประเด็นแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวนการสอบสวน

“ตรงนี้มีการปลอมแปลง และนำไปใช้ ส่วนใครที่เอาไปใช้ก็ต้องมีความผิดตามกฎหมาย และใช้เพื่อโอนหุ้นของคนอื่นมาเป็นของตนเองก็ผิดข้อหาลักทรัพย์เหมือนกัน ส่วนหลักฐานในใบเอกสารที่เป็นของตัวแทนของบริษัทขายหุ้นมีลักษณะเป็นแบบฟอร์ม ซึ่งในแบบฟอร์มมีต้นฉบับระบุว่า จำนำหุ้น คือ นำหุ้นไปค้ำประกันและเบิกเงินมาเล่นหุ้นเพื่อขยายวงเงิน แต่เอกสารนี้ไม่ได้ใช้ไปขยายวงเงิน แต่ถูกนำมาปรับเปลี่ยนแก้ไขเป็นโอนหุ้นแทน รวมทั้งพบว่าสำเนาบัตรประชาชนของนายชูวงษ์ และโบรกเกอร์มีการแก้ไข เนื่องจากสำเนาบัตรประชาชนของนายชูวงษ์จะมีรอยขีดฆ่าและเขียนว่าใช้เฉพาะจำนำหุ้นเท่านั้น แต่กรณีนี้มีการลบข้อความดังกล่าวออกไป ทำให้ทางเจ้าหน้าที่พบร่องรอยผิดพลาดและนำไปสู่การออกหมายจับ” พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ไม่มีหลักฐานว่านายชูวงษ์จะทราบเรื่องการโอนหุ้นหรือไม่ ถึงแม้จะมีการส่งหลักฐานทางไปรษณีย์จากบริษัทโบรกเกอร์ไปยังบริษัทนายชูวงษ์ก็ตาม แต่ทางเลขานุการของนายชูวงษ์ระบุว่าเอกสารเหล่านี้นายชูวงษ์สั่งว่าไม่ต้องรายงาน เพราะเป็นหุ้นนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว และให้รายงานเฉพาะหุ้นที่มีการซื้อขายเท่านั้น ส่วนที่ น.ส.อุรชาไม่ถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจรนั้นเพราะเขาไม่มีหุ้นในบัญชี เนื่องจากหุ้นมูลค่า 40 ล้านบาทได้ถูกโอนหุ้นไปสู่บัญชีมารดาของ น.ส.อุรชา แต่ น.ส.อุรชาก็รู้เห็นขั้นตอนทั้งหมดและเป็นคนช่วยประสานทางโทรศัพท์ให้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนี้เกี่ยวข้องข้อหาฆาตกรรมด้วยหรือไม่นั้นไม่สามารถสรุปได้ ในชั้นนี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมีความผิดในข้อหาเกี่ยวกับการโอนหุ้นเท่านั้น ส่วนจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องมากนี้หรือไม่นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครอบครัวนายชูวงษ์สามารถเรียกเงินทั้งหมดกลับมาได้หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ต้องรอตรวจสอบว่าใครเป็นผู้เก็บรักษาของกลาง อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางคลิปเสียงนั้นทางญาติไม่ยืนยันว่าเป็นเสียงของนายชูวงษ์ โดยยืนยันจากเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อเข้าไป และยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของใคร ตอนนี้ตนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว่า สำหรับคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้นยังไม่เสร็จสิ้น ขณะนี้ต้องรออุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการคลี่คลายคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และความเร่งของเครื่องยนต์ เพื่อให้เป็นฐานในการทดลองอุบัติเหตุแล้ว

ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เมื่อศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว ตำรวจก็มีหน้าที่ต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดี หากเจอผู้ต้องหาก็ต้องจับ จึงอยากฝากถึงผู้ต้องหาทั้ง 4 คนขอให้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ เดิมทีคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม แต่ตนได้มีคำสั่งให้โอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของ ตร.ซึ่งตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้กำกับดูแลการสอบสวน เพื่อป้องกันการใช้อิทธิพลเข้ามาแทรกแซง เพราะหากคดียังอยู่ในความรับผิดของตำรวจนครบาล และกองปราบปราม บางครั้งพนักงานสอบสวนเด็กๆ อาจจะไม่สามารถรับแรงกดดัน หรืออาจจะถูกอิทธิพลแทรกแซงได้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น