ภรรยาและพี่สาว “เสี่ยชูวงษ์” ยื่นหนังสือขอให้ ผบ.ตร.สั่งโอนสำนวนการเสียชีวิต จาก สน.อุดมสุข ไปยังกองปราบปราม เพื่อรวมกับคดีโอนหุ้นกว่า 300 ล้าน ห่วงพยานหลักฐานไม่สอดคล้องกัน
ความคืบหน้าเหตุการณ์นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยชูวงษ์เสียชีวิต ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ขับรถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ไปส่งนายชูวงษ์กลับบ้านพักเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และต่อมาภรรยาและพี่สาวของนายชูวงษ์ได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เพื่อให้สอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็นนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (15 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ ภรรยานายชูวงษ์และพี่สาวนายชูวงษ์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ขอให้นำสำนวนคดีการเสียชีวิตนายชูวงษ์ในความรับผิดชอบของ สน.อุดมสุขให้แก่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดำเนินการรวมเข้ากับคดีโอนหุ้นกว่า 300 ล้านบาท ที่กองบังคับการปราบปรามกำลังดำเนินการอยู่
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า วันนี้ทางญาตินายชูวงษ์มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมก็เพราะเกรงว่าทั้งสองหน่วยงานจะมีพยานหลักฐานไม่สอดคล้องกัน และคิดว่าหลักฐานทางกองปราบปรามมีมากกว่า จึงมายื่นหนังสือให้ ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาว่าน่าจะควรรวมให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำไปจะเหมาะสมกว่า และก็มีเรื่องซึ่งจะต้องพิจารณา คือ ผลตรวจของแพทย์ ที่อาจจะมีเรื่องร่องรอยสำเนากับตัวจริงไม่เหมือนกัน โดยทางแพทย์ใหญ่กำลังตรวจสอบอยู่ ผลยังไม่ออกมา และมีหลายจุดที่จำเป็นจะต้องยกระดับการสอบสวนเป็นพนักงานสอบสวนกลาง เดี๋ยวให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำทั้ง 2 เรื่องรวมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของความคืบหน้าสาเหตุการเสียชีวิตในส่วนของนครบาลไปถึงไหนแล้ว พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ที่ประชุมกับ ผบ.ตร.ได้มีการมอบการบ้านไปให้ 2-3 เรื่อง ก็ยังไม่เสร็จ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ไม่ใช่ว่าทางเจาหน้าที่ตำรวจนครบาลช้า แต่ว่าหลักฐานที่ไปหาเพิ่มจากหลักบานที่มีมันยากหน่อย ก็ต้องไปหากล้องที่เหลืออยู่ อาจจะเป็นกล้องจากฝั่งตรงข้าม กล้องของร้านค้าหรือว่าของเอกชนที่ถอยห่างออกมา เพื่อจะดูว่าความเร็วของรถระหว่างที่วิ่งผ่านกล้องแต่ละตัวใช้ความเร็วเท่าไหร่ ลดลงหรือเพิ่มขึ้น หรือความเร็วคงที่ซึ่งเป็นเรื่องความละเอียด ในส่วนนี้ทาง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ไปตรวจสอบแล้ว รวมถึงการตรวจสอบแรงกระแทกต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์ที่เราจะนำมาตรวจสอบก็ยังไม่ได้มา คงต้องใช้เวลา
“ขณะนี้อยู่ระหว่างทำเรื่องขอเช่าหุ่นเซ็นเซอร์จากต่างประเทศ เพื่อจะนำมาจำลองเหตุการณ์ภายในรถที่เป็นรุ่นเดียวยี่ห้อเดียวกับรถที่เกิดอุบัติเหตุ แต่หากไม่สามารถนำมาได้ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้กล้องซีซีทีวีติดตั้งในมุมต่างๆ ของรถแทน โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะจำลองเหตุการณ์ได้วันไหน อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการยกระดับการสอบสวนคดีให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) เป็นผู้ดูแล” พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าในส่วนของคดีหุ้นที่กองปราบปรามมีความคืบหน้าอย่างไร พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบเรื่องของขั้นตอนการโอนและก็วิธีการต่างๆ มี่ทั้งขั้นตอนทางเอกสาร และขั้นตอนการประสานเพื่อรีเช็คว่าเจ้าของหุ้นได้โอนหรือไม่ เราถึงต้องไปเอาเทปมา อยู่ในขั้นตอนกำลังดูเทปอยู่
เมื่อถามว่าเห็นบอกว่าเส้นเสียงออกมาแล้วและตรงกันหรือไม่ โฆษกตร. กล่าวว่า ยัง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งในการโอนแต่ละครั้งมีการโทรยืนยัน บางครั้งก็มีการโทร 2 ครั้งหรือหลายครั้ง ต้องมาดูทั้งหมดในวันนั้นว่ามีการโทรติดต่อประสานงานไปกับผู้เกี่ยวข้องคนไหนบ้างหรือไม่ และมีกี่ครั้งเกี่ยวกับเรื่องการโอนตรงนี้ คือต้องขอมาทั้งก้อนของบริษัท และมานั่งฟังแต่ละชิ้นๆอีกที ส่วนการออกหมายจับนั้นยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลา
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการเรียกพยานสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ โฆษกตร. กล่าวว่า จะมีการเรียกพยานเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เดี๋ยวจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบเป็นระยะๆว่าเรียกใครมาสอบบ้าง ส่วนในวันที่ 17 ส.ค.นี้ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญ น.ส.กัณฐนา ศิวาธนพล พริตตี้สาวที่รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์จำนวน 228 ล้านบาท มาให้ปากคำเพิ่มเติมที่กองปราบปรามนั้น ตนยังไม่ทราบว่าตอบรับมาวันไหน อาจจะมีการเลื่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทนายของ น.ส.กัณฐนา มีการประสานกัน
น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า สาเหตุที่วันนี้มายื่นหนังสือก็เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้โอนสำนวนการสอบสวน ของสน.อุดมสุข ไปยังหน่วยงานที่เหมาะสม หรือโอนสำนวนการสอบสวนไปยังกองปราบปราม และไม่อยากให้เร่งรีบคดี อยากให้ทางแพทยสภาสอบสวนก่อนว่าสาเหตุที่ผลนิติเวชที่ไม่ตรงกันทั้ง 2 ครั้ง เกิดจากสาเหตุใด และอย่างที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ได้กล่าวไปแล้วว่าทาง สพฐ.กำลังยืมหุ่นจากประเทศญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งการพิสูจน์เรื่องรถยังไม่กระจ่าง ต้องการให้หลักฐานชัดเจนก่อน และก็ทราบว่าทางกองปราบได้หลักฐานเอกสารสำคัญเรื่องหุ้นได้ไปเยอะแล้ว ทางตนเกรงว่าเรื่องทั้งหมดแยกกันสอบสวนสองที่ จะทำให้การสรุปหรือหาผู้บงการมันยากขึ้น ก็เลยมาขอว่าไม่ต้องรีบด่วนสรุป ไม่ได้เร่งอะไร อยากให้โอนคดีไปหน่วยงานที่เหมาะสมและคิดว่าสามารถที่จะสืบประเด็นเรื่องนี้ให้กระจ่างได้ และก็ทราบดีว่า สน.อุดมสุข มีความพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าทางญาติไม่ไว้วางใจ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กองปราบปรามซึ่งรับผิดชอบเรื่องการโอนหุ้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเมื่อวานนี้ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบปรามได้นำคลิปเสียงการสนทนาที่ได้จากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบว่าเป็นเสียงของนายชูวงษ์หรือไม่ คาดว่าต้องใช้เวลาในการดำเนินการสักระยะหนึ่ง จึงจะพิสูจน์ทราบได้ว่า เป็นเสียงของใคร รวมทั้งผลตรวจคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดมาได้จากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัทสแตนดาร์ด เพอร์ฟอแมนซ์ จำกัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) คาดว่าสัปดาห์หน้าจึงจะรู้ผล
ขณะที่การดำเนินการออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิด อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบว่ามีผู้เข้าข่ายกระทำความผิดมากกว่า 3-4 ราย คาดว่าจะมีความชัดเจนสัปดาห์หน้า
ส่วนการคลี่คลายการเสียชีวิตนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) นำโดย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.ซึ่งมาช่วยงานพิสูจน์หลักฐานคดีดังกล่าว ทำการจำลองเหตุการณ์ โดยจะนำรถยนต์ยี่ห้อรุ่นเดียวกับคันที่เกิดเหตุมาขับจำลองเหตุหารณ์ตั้งแต่สนามกอล์ฟ โดยจะขับด้วยความเร็วเทียบเท่ากับคำให้การของนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ ที่เคยให้ปากคำไว้ จนมายังจุดที่ประสบอุบัติเหตุ เพื่อนำมารวมในสำนวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป