เวลา 13.30 น. วานนี้ (31ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทแก่เยาวชนผู้บริหารศาลยุติธรรม ผู้บริหารสำนักงานฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 3 จำนวน 117 คน จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศเรามีปัญหามากมาย อย่ามองปัญหาเฉพาะเราแก้ไขได้ ต้องเตรียมรับปัจจัยเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกด้วย บ้านเมืองเดินได้ด้วยกฎหมาย ยุติธรรมต่างประเทศ เชื่อมโยงกันหมด พวกเรานับถืออิสลาม ซึ่งในหลวงบอกว่า ทุกคนอยู่ในแผ่นดินไทยได้เท่าเทียมกัน ไม่ว่านับถือศาสนาอะไร ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี ตนชื่นชมในศาสนาอิสลาม ที่มีความเคร่งครัด ถือศีลอด ทุกคนทำเหมือนกันหมด เอาสิ่งที่ทำดีอยู่แล้วทำให้สังคมมีความสุข อย่าเอาทุกอย่างมาเป็นความขัดแย้ง
วันนี้ ในส่วนกฎหมายทำหลายอย่าง เรามี สนช. และ สปช. ทำหน้าที่ปฏิรูป 11 เรื่อง ซึ่ง สปช. คิดมาได้ 37 ประเด็น แต่ยังไม่จบ พวกเราต้องเข้าใจว่าประเทศเรามีปัญหาทับซ้อน กม.ล้าสมัย ประชาชนไม่เข้าใจ ยังไม่เป็นสากล ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ ติดกับดักตัวเอง ทุกอย่างแก้ไม่ได้ ถ้ายังมีความขัดแย้งอยู่ ที่ผ่านมาคิดว่าเราทำอะไรให้พี่น้องมุสลิมโกรธเคือง ภาคใต้มีประชากร 3 ล้านคน มีชาวพุทธเพียง 10% อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมานาน ต่อมาก็เกิดเหตุ เกิดการกระทบกระทั่งกัน วันนี้มีคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข มีเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย และกฎหมาย ต้องเข้าใจว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ลดความเหลื่อมล้ำ การเข้าถึงกฎหมาย ไม่ว่าจนหรือรวย ก็ต้องทำเหมือนกัน
วันนี้ เราต้องเรียนรู้ อยู่อย่างสันติ ปราศจากความขัดแย้ง ต้องแก้ปัญหาความมั่นคงในประเทศให้ยุติได้โดยเร็ว เรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งโอกาสภาคใต้มีมาก เพราะคนน้อย ทรัพยากรมาก แต่มีคนคิดว่าปกครองตนเองดีกว่านี้ ซึ่งตนอยากบอกว่า ไม่มีทาง หลายประเทศที่แยกออกไปก็แย่ มันไม่ทันการ ยิ่งแยกใหม่ยิ่งไม่ได้ ทั้งโครงสร้าง การจัดการ เก็บภาษีต่างๆ มันไม่ได้ จึงต้องช่วยกันคิด ให้เด็กๆเป็นแกนนำให้เกิดความสันติสุข ถ้าบอกว่าเราปิดกั้นต้องบอกว่า เราปิดกั้นเรื่องอะไร การนับถือศาสนา หรือการตั้งด่านตรวจต่างๆ แต่ทหารตั้งใจให้เกิดความสงบ หากไม่มีเรื่อง ก็ต้องกลับ ไม่มีใครอยากอยู่ แต่คนไม่ดีก็มี ถืออาวุธด้วยกันทั้งคู่ แต่ประเด็นอยู่ที่ ใครเริ่มความรุนแรงก่อน คนนั้นก็ผิด แต่คิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่เริ่มก่อน แต่ตนมีเวลา 3 เดือน ขอให้มันสงบได้ มีคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข เอาทหารลงไป เพื่อดูแลทุกข์สุข ทำถนนหนทาง พัฒนาต่างๆ ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา ทำเยอะ ท่ามกลางความขัดแย้ง มันไม่ง่าย เพราะปัญหาเรื่องเล็กๆ ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาทั้งสิ้น ทั้งการศึกษา การกระจายอำนาจต่างๆ จึงต้องแก้ทั้งระบบ ให้งานกลุ่มเดียวกันทำด้วยกัน ไม่ให้ซ้ำซ้อน และต่อเนื่องกัน นักการเมืองอาจไม่เห็นด้วย แต่ต้องทำ เพราะเป็นอนาคตของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ทุกคนพอใจได้ แต่ต้องหาตรงกลางให้ได้ ต้องปรับแก้กระบวนการพูดคุยสันติสุขให้เกิดการยอมรับ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ให้เกียรติและศักดิ์ศรีเขาและแก้ปัญหาภายใต้กฎหมายของไทย ที่แบ่งแยกไม่ได้
วันนี้การศึกษาต้องเท่าเทียมกัน ไม่ใช่รู้ปัญหาแล้วพูด ติติงคนที่ทำอยู่ ถ้าติอย่างเดียว คิด หรือพูดอย่างเดียว ทำให้สังคมสับสน กระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนต้องรู้กฎหมาย เมื่อไม่รู้ เราก็ตกเป็นเหยื่อ ถ้าเรารู้เรื่องกฎหมาย ก็จะไม่รั่วไหลไปไหน จึงขอฝากกระทรวงยุติธรรม ทำความเข้าใจกฎหมายที่ใกล้ตัวกับประชาชน
"วันนี้มีคนพยายามสร้างความบิดเบือนจนทำให้เกิดขัดแย้ง ขออย่าให้ผมสั่ง การสั่งให้คนรักชาติรักแผ่นดินทำไม่ได้ แต่ต้องสร้างอุดมการณ์ เหมือนผมที่เกิดมาเป็นทหาร ถึงตายไปก็เป็นทหาร ถึงเป็นผี ก็ยังเป็นผีทหาร ชาติหน้าเกิดใหม่ก็คงจะเป็นทหารอีก เพราะไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่น แม้จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนต้องนึกถึงสังคม ซึ่งการศึกษาในขณะนี้สอนไม่ถูกต้อง เพราะสอนให้คนเติมคำในช่องว่างเท่านั้น ต้องคิดเป็นกระบวนการเอาปัญหามาวิเคราะห์ วิจัย กำลังเอากระทรวงศึกษามาปรับแก้ทั้งหมด และการสอนต้องไม่สุดโต่ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
วันนี้ ในส่วนกฎหมายทำหลายอย่าง เรามี สนช. และ สปช. ทำหน้าที่ปฏิรูป 11 เรื่อง ซึ่ง สปช. คิดมาได้ 37 ประเด็น แต่ยังไม่จบ พวกเราต้องเข้าใจว่าประเทศเรามีปัญหาทับซ้อน กม.ล้าสมัย ประชาชนไม่เข้าใจ ยังไม่เป็นสากล ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ ติดกับดักตัวเอง ทุกอย่างแก้ไม่ได้ ถ้ายังมีความขัดแย้งอยู่ ที่ผ่านมาคิดว่าเราทำอะไรให้พี่น้องมุสลิมโกรธเคือง ภาคใต้มีประชากร 3 ล้านคน มีชาวพุทธเพียง 10% อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมานาน ต่อมาก็เกิดเหตุ เกิดการกระทบกระทั่งกัน วันนี้มีคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข มีเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย และกฎหมาย ต้องเข้าใจว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ลดความเหลื่อมล้ำ การเข้าถึงกฎหมาย ไม่ว่าจนหรือรวย ก็ต้องทำเหมือนกัน
วันนี้ เราต้องเรียนรู้ อยู่อย่างสันติ ปราศจากความขัดแย้ง ต้องแก้ปัญหาความมั่นคงในประเทศให้ยุติได้โดยเร็ว เรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งโอกาสภาคใต้มีมาก เพราะคนน้อย ทรัพยากรมาก แต่มีคนคิดว่าปกครองตนเองดีกว่านี้ ซึ่งตนอยากบอกว่า ไม่มีทาง หลายประเทศที่แยกออกไปก็แย่ มันไม่ทันการ ยิ่งแยกใหม่ยิ่งไม่ได้ ทั้งโครงสร้าง การจัดการ เก็บภาษีต่างๆ มันไม่ได้ จึงต้องช่วยกันคิด ให้เด็กๆเป็นแกนนำให้เกิดความสันติสุข ถ้าบอกว่าเราปิดกั้นต้องบอกว่า เราปิดกั้นเรื่องอะไร การนับถือศาสนา หรือการตั้งด่านตรวจต่างๆ แต่ทหารตั้งใจให้เกิดความสงบ หากไม่มีเรื่อง ก็ต้องกลับ ไม่มีใครอยากอยู่ แต่คนไม่ดีก็มี ถืออาวุธด้วยกันทั้งคู่ แต่ประเด็นอยู่ที่ ใครเริ่มความรุนแรงก่อน คนนั้นก็ผิด แต่คิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่เริ่มก่อน แต่ตนมีเวลา 3 เดือน ขอให้มันสงบได้ มีคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข เอาทหารลงไป เพื่อดูแลทุกข์สุข ทำถนนหนทาง พัฒนาต่างๆ ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา ทำเยอะ ท่ามกลางความขัดแย้ง มันไม่ง่าย เพราะปัญหาเรื่องเล็กๆ ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาทั้งสิ้น ทั้งการศึกษา การกระจายอำนาจต่างๆ จึงต้องแก้ทั้งระบบ ให้งานกลุ่มเดียวกันทำด้วยกัน ไม่ให้ซ้ำซ้อน และต่อเนื่องกัน นักการเมืองอาจไม่เห็นด้วย แต่ต้องทำ เพราะเป็นอนาคตของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ทุกคนพอใจได้ แต่ต้องหาตรงกลางให้ได้ ต้องปรับแก้กระบวนการพูดคุยสันติสุขให้เกิดการยอมรับ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ให้เกียรติและศักดิ์ศรีเขาและแก้ปัญหาภายใต้กฎหมายของไทย ที่แบ่งแยกไม่ได้
วันนี้การศึกษาต้องเท่าเทียมกัน ไม่ใช่รู้ปัญหาแล้วพูด ติติงคนที่ทำอยู่ ถ้าติอย่างเดียว คิด หรือพูดอย่างเดียว ทำให้สังคมสับสน กระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนต้องรู้กฎหมาย เมื่อไม่รู้ เราก็ตกเป็นเหยื่อ ถ้าเรารู้เรื่องกฎหมาย ก็จะไม่รั่วไหลไปไหน จึงขอฝากกระทรวงยุติธรรม ทำความเข้าใจกฎหมายที่ใกล้ตัวกับประชาชน
"วันนี้มีคนพยายามสร้างความบิดเบือนจนทำให้เกิดขัดแย้ง ขออย่าให้ผมสั่ง การสั่งให้คนรักชาติรักแผ่นดินทำไม่ได้ แต่ต้องสร้างอุดมการณ์ เหมือนผมที่เกิดมาเป็นทหาร ถึงตายไปก็เป็นทหาร ถึงเป็นผี ก็ยังเป็นผีทหาร ชาติหน้าเกิดใหม่ก็คงจะเป็นทหารอีก เพราะไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่น แม้จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนต้องนึกถึงสังคม ซึ่งการศึกษาในขณะนี้สอนไม่ถูกต้อง เพราะสอนให้คนเติมคำในช่องว่างเท่านั้น ต้องคิดเป็นกระบวนการเอาปัญหามาวิเคราะห์ วิจัย กำลังเอากระทรวงศึกษามาปรับแก้ทั้งหมด และการสอนต้องไม่สุดโต่ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว