นราธิวาส - แม่ทัพภาค 4 พบปะเสวนาพัฒนาสัมพันธ์ เพื่อสันติสุขในชุมชนศรัทธากำปงตักวา ซึ่งมีทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และกรรมการมัสยิดใน จ.นราธิวาส จำนวน 1,000 คน ให้การต้อนรับ และร่วมพบปะเสวนาในครั้งนี้
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารหอประชุมบรมราชกุมารี ภายในสำนักงานคณะกรรมการอิสลาม อ.เมืองนราธิวาส พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 ได้เป็นประธานโครงการพบปะเสวนาพัฒนาสัมพันธ์ สู่สานเสาวนา เพื่อสันติสุขในชุมชนศรัทธากำปงตักวา โดยมี นายซาฟาอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ผกก.สภ.ทั้ง 13 อำเภอ รวมทั้ง ผบ.ฉก.นราธิวาส รวมทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และกรรมการมัสยิด จำนวนกว่า 1.000 คน คอยให้การต้อนรับ
ซึ่งการเสวนาระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้นำศาสนาในครั้งนี้ เพื่อต้องการลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากปัญหาความมั่นคงในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ซึ่งจะมีขึ้นประมาณในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ด้วยการใช้ยุทธศาสตร์การเมืองนำการทหาร ที่ชาวบ้านในพื้นที่มามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติในโอกาสที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายไว้
โดย พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 ได้มีการกล่าวก่อนที่จะเปิดการเสวนาในครั้งนี้ นอกจากประชาชนจะให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องพึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง และรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งต้องพร้อมที่จะทำตัวเป็นกลไกขับเคลื่อนความสันติสุขให้บังเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าปัญหาความมั่นคงที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์จะลดลง
นอกจากนี้แล้ว ภายในงานดังกล่าว ทางศูนย์สันติสุข กองอำนวยการความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังได้มีการแจกคำแปล และบทบัญญัติในคัมภีร์อัลกุรอานเป็นภาษาไทย และรูมี ให้แก่ผู้เข้าร่วมการเสาวนาในครั้งนี้ จากบทบัญญัติโองการที่ 217 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า การทำสงครามในเดือนรอมฎอนถือว่าเป็นบาปที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผู้เข้าเสวนาในครั้งนี้นำไปถ่ายทอดประชาสัมพันธ์ให้มวลชนได้เข้าใจ และรับทราบข้อเท็จจริง หลังจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้นำไปบิดเบือน