ASTVผู้จัดการรายวัน -ผาแดงฯยันครึ่งปีหลังมีกำไรแน่ แม้ว่าราคาโลหะสังกะสีต่ำกว่าคาดเหลือเพียง 1,750 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน ค่าไฟถูก มั่นใจทั้งปีกำไรต่อเนื่องจากปีก่อน เผยเตรียมเซ็นร่วมทุนบริษัทยุโรป ศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจรีไซเคิลและการสกัดโลหะจากกากอุตสาหกรรมคาดได้ข้อสรุปปลายปีนี้
นายฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (PDI) เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนนี้บริษัทฯจะลงนามร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีในยุโรปเพื่อศึกษาความเป็นได้ในการทำธุรกิจรีไซเคิลและการสกัดโลหะจากกากอุตสาหกรรม เช่น แบตเตอรีรถยนต์ สารเร่งปฏิกิริยา (Catalyst)ขยะอิเล็กทรอนิกส์และน้ำยาเครื่องทำความเย็น คาดว่าจะใช้เงินในการศึกษาประมาณ 50 ล้านบาท โดยผลการศึกษาจะมีความชัดเจนในปลายปีนี้แล้วเสนอคณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาและอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติก็จะดำเนินการตั้งโรงงานดังกล่าวในไทย ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท โดยผาแดงฯจะถือหุ้นใหญ่ 51% ซึ่งจะถือเป็นโรงงานแรกในภูมิภาคนี้ที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะที่มีมูลค่าเพิ่มจากการรีไซเคิลเป็นหลัก
ส่วนพีดีไอ อีโค ที่ดำเนินธุรกิจด้านบริการจัดการกากของเสียเชิงนิเวศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ครั้งสุดท้ายในการบำบัดของเสีย โดยเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมในภาคเหนือของไทย คาดว่าจะร่วมลงทุนกับบริษัทชั้นนำในต่างประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสีย
ส่วนความคืบหน้าการเข้าซื้อและการควบรวมกิจการนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา 3-4 โครงการทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลักของบริษัท เช่น ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ธุรกิจแมททีเรียลที่เน้นผลิตภัณฑ์โลหะมูลค่าเพิ่มสูงจากการรีไซเคิลเป็นหลักและธุรกิจด้านการบริหารจัดการกากของเสียเชิงนิเวศ โดยจะยังไม่มีข้อสรุปในปีนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ
ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนด้านพลังงานทดแทนโครงการแรกของพีดีไอ เอ็นเนอยี คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.5 เมกะวัตต์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เงินลงทุน 1.2 พันล้านบาท ใช้ทะลายปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งได้เลือกเทคโนโลยีและผู้รับเหมาออกแบบด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างภายในไตรมาส4 นี้โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะแล้วเสร็จในต้นปี 2560
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 48 เมกะวัตต์ที่จ.ตาก อยู่ระหว่างการรอประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ของภาครัฐ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ขนาด 54 เมกะวัตต์ที่จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลพลังงานลม ซึ่งแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
ฃนายฟรานซิส กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2558 ว่า บริษัทมั่นใจว่าจะมีกำไรสุทธิ แม้ว่าราคาโลหะสังกะสีจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ค่าไฟที่ลดลง และเศรษฐกิจในประเทศที่น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ทั้งปีบริษัทฯยังมีกำไรต่อเนื่องจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 461.13ล้านบาท โดยครึ่งปีแรก2558 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 387 ล้านบาท
ปัจจุบันราคาโลหะสังกะสีปรับตัวลดลงเหลือ 1,745 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 2,051 เหรียญสหรัฐ/ตัน ถือเป็นระดับราคาต่ำมากจนโรงถลุงสังกะสีรายใหญ่ของโลกยังอยู่ไม่ได้ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง โดยคาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้โลหะสังกะสีโลกปี 2558 อยู่ที่ 14.29 ล้านตัน ลดลง 3%จากอุตสาหกรรมการก่อสร้างของจีน ขณะที่ปริมาณการผลิตโลหะสังกะสีปีนี้อยู่ที่ 14.07 ล้านตัน
จากราคาขายโลหะสังกะสีที่ปรับตัวลดลงเช่นนี้ บริษัทฯไม่มีแผนที่จะขายถ่านหินล่วงหน้าเพิ่มเติม จากที่ขายล่วงหน้าไปแล้ว 36%ของจำนวนการผลิตของเหมืองแม่สอดที่ราคาโลหะสังกะสีโลกเฉลี่ย 2,297 เหรียญสหรัฐ/ตัน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.98 บาท/เหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายโลหะสังกะสีในปีนี้ที่ 7.5 หมื่นตันโดยวางแผนบริหารใช้แร่แม่สอดให้สอดคล้องกับการผลิตโลหะสังกะสีของโรงงนที่ตาก โดยสิ้นปี2559 บริษัทจะยุติการทำเหมืองที่แม่สอดและจะดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้กรมป่าไม้ในปี 2560
นายฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (PDI) เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนนี้บริษัทฯจะลงนามร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีในยุโรปเพื่อศึกษาความเป็นได้ในการทำธุรกิจรีไซเคิลและการสกัดโลหะจากกากอุตสาหกรรม เช่น แบตเตอรีรถยนต์ สารเร่งปฏิกิริยา (Catalyst)ขยะอิเล็กทรอนิกส์และน้ำยาเครื่องทำความเย็น คาดว่าจะใช้เงินในการศึกษาประมาณ 50 ล้านบาท โดยผลการศึกษาจะมีความชัดเจนในปลายปีนี้แล้วเสนอคณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาและอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติก็จะดำเนินการตั้งโรงงานดังกล่าวในไทย ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท โดยผาแดงฯจะถือหุ้นใหญ่ 51% ซึ่งจะถือเป็นโรงงานแรกในภูมิภาคนี้ที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะที่มีมูลค่าเพิ่มจากการรีไซเคิลเป็นหลัก
ส่วนพีดีไอ อีโค ที่ดำเนินธุรกิจด้านบริการจัดการกากของเสียเชิงนิเวศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ครั้งสุดท้ายในการบำบัดของเสีย โดยเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมในภาคเหนือของไทย คาดว่าจะร่วมลงทุนกับบริษัทชั้นนำในต่างประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสีย
ส่วนความคืบหน้าการเข้าซื้อและการควบรวมกิจการนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา 3-4 โครงการทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลักของบริษัท เช่น ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ธุรกิจแมททีเรียลที่เน้นผลิตภัณฑ์โลหะมูลค่าเพิ่มสูงจากการรีไซเคิลเป็นหลักและธุรกิจด้านการบริหารจัดการกากของเสียเชิงนิเวศ โดยจะยังไม่มีข้อสรุปในปีนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ
ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนด้านพลังงานทดแทนโครงการแรกของพีดีไอ เอ็นเนอยี คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.5 เมกะวัตต์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เงินลงทุน 1.2 พันล้านบาท ใช้ทะลายปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งได้เลือกเทคโนโลยีและผู้รับเหมาออกแบบด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างภายในไตรมาส4 นี้โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะแล้วเสร็จในต้นปี 2560
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 48 เมกะวัตต์ที่จ.ตาก อยู่ระหว่างการรอประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ของภาครัฐ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ขนาด 54 เมกะวัตต์ที่จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลพลังงานลม ซึ่งแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
ฃนายฟรานซิส กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2558 ว่า บริษัทมั่นใจว่าจะมีกำไรสุทธิ แม้ว่าราคาโลหะสังกะสีจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ค่าไฟที่ลดลง และเศรษฐกิจในประเทศที่น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ทั้งปีบริษัทฯยังมีกำไรต่อเนื่องจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 461.13ล้านบาท โดยครึ่งปีแรก2558 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 387 ล้านบาท
ปัจจุบันราคาโลหะสังกะสีปรับตัวลดลงเหลือ 1,745 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 2,051 เหรียญสหรัฐ/ตัน ถือเป็นระดับราคาต่ำมากจนโรงถลุงสังกะสีรายใหญ่ของโลกยังอยู่ไม่ได้ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง โดยคาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้โลหะสังกะสีโลกปี 2558 อยู่ที่ 14.29 ล้านตัน ลดลง 3%จากอุตสาหกรรมการก่อสร้างของจีน ขณะที่ปริมาณการผลิตโลหะสังกะสีปีนี้อยู่ที่ 14.07 ล้านตัน
จากราคาขายโลหะสังกะสีที่ปรับตัวลดลงเช่นนี้ บริษัทฯไม่มีแผนที่จะขายถ่านหินล่วงหน้าเพิ่มเติม จากที่ขายล่วงหน้าไปแล้ว 36%ของจำนวนการผลิตของเหมืองแม่สอดที่ราคาโลหะสังกะสีโลกเฉลี่ย 2,297 เหรียญสหรัฐ/ตัน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.98 บาท/เหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายโลหะสังกะสีในปีนี้ที่ 7.5 หมื่นตันโดยวางแผนบริหารใช้แร่แม่สอดให้สอดคล้องกับการผลิตโลหะสังกะสีของโรงงนที่ตาก โดยสิ้นปี2559 บริษัทจะยุติการทำเหมืองที่แม่สอดและจะดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้กรมป่าไม้ในปี 2560
