พลังงานบริสุทธิ์ ปีแรกกำไรกระฉูด 1,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 868 ล้านบาท อานิสงส์รับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเต็มเหนี่ยว “อมร ทรัพย์ทวีกุล” มั่นใจรายได้ปี 58 เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 7.6 พันล้านบาท มั่นใจแผนงานสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานลม 18,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมาย
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 มีกำไรสุทธิ 741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 333 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 408 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 81% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากสามารถรับรู้กำไรจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ จ.ลำปาง ขนาดกำลังผลิต 90 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มไตรมาสได้เป็นครั้งแรก และยังถือเป็นโครงการที่ใช้ระบบปรับหมุนตามแสงอาทิตย์ จึงมีศักยภาพสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก 19% เมื่อเทียบกับโครงการที่นครสวรรค์ ซึ่งติดตั้งแผงโซลาร์แบบคงที่ในขนาดกำลังผลิต 90 เมกะวัตต์เท่ากัน
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 453 ล้านบาท หรือ 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 868 ล้านบาท นับเป็นการสร้างสถิติหน้าใหม่ของบริษัทที่สามารถทำกำไรได้ทะลุกว่าพันล้านในช่วงเวลาเพียงครึ่งปี
“ในปีนี้บริษัทดำเนินการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่ง รวม 188 เมกะวัตต์ โดยสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ดีกว่าแผนการที่คาดไว้ และมียอดผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2557 สำหรับธุรกิจผลิต และจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และกลีเซอรีน ยังคงมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยบริษัททำการปรับปรุงเทคโนโลยี และกระบวนการผลิตให้มีต้นทุนที่ต่ำลง เพื่อผลักดันอัตรากำไรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เราพยายามจะทำให้บรรลุเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีที่จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากปี 2557 ที่มีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 7,600 ล้านบาท” นายอมร กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้รายได้หลักจะยังคงมาจากธุรกิจไบโอดีเซล โดยสัดส่วนรายได้ของธุรกิจไบโอดีเซลจะอยู่ที่ 60% จาก 71% ในปีก่อน และรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะอยู่ที่ 40% จาก 29% ในปีก่อน ขณะที่กำไรจะมาจากธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลัก กล่าวคือ สัดส่วนกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะมาจากธุรกิจไบโอดีเซล 5% จาก 10% ในปีก่อน และกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนอยู่ที่ 95% จาก 90% ในปีก่อน และมองว่าในช่วงต่อจากนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น จนมากกว่าธุรกิจไบโอดีเซลในที่สุด จากการรับรู้รายได้ของโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และจะทยอยแล้วเสร็จในอนาคต
“สำหรับแผนงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขณะนี้เดินได้ตามแผนงานที่วางไว้ กล่าวคือ โครงการโรงไฟฟ้าขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจะใช้ระบบปรับหมุนตามแสงอาทิตย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ สนับสนุนให้ในปี 2559 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 แห่ง มีขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดรวม 126 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 โครงการ และจังหวัดสงขลาอีก 1 โครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มจ่ายไฟได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2559 ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2559 บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 404 เมกะวัตต์” นายอมร กล่าว