ASTVผู้จัดการรายวัน - "กันกุลเอ็นจิเนยริ่ง"อัดงบลงทุนปีนี้หมื่นล้านบาท ลุยโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังลม พร้อมขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นให้ครบ 200เมกะวัตต์ในปี 2561 มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 5.2 พันล้านบาท โดยครึ่งปีหลังโตขึ้นอย่างเด่นชัด
นายพงษ์สกร ดำเนิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท (GUNKUL) เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 1หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนโครงการโซลาร์ ฟาร์มค้างท่อ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 2โครงการรวม 95เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 93 เมกะวัตต์ โดยบริษัทเจรจากับเจ้าของโครงการเพื่อเข้าร่วมทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มประมาณ 80เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมในเฟสแรก 60เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบในเดือนพ.ค. 2559 ส่วนเฟส 2 อีก 50เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมา คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบในเดือนมี.ค. 2560 และเฟส 3อีก60 เมกะวัตต์จะจ่ายไฟในเดือนมี.ค. 2560 ทำให้บริษัทจะรับรู้กำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมปีละ 1.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเพิ่มเติมอีก 2โครงการๆละ 50 เมกะวัตต์และ 16เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้คงต้องรอความชัดเจนจากนโยบายรัฐในการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลม ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขยะ บริษัทฯก็อยู่ระหว่างการศึกษาเช่นกัน แต่การลงทุนหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของนโยบายรัฐว่าจะส่งเสริมให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนมากน้อยแค่ไหน หรือภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนเอง
นายพงษ์สกร กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากเข้าซื้อกิจการ Sendai Okura Mega Solar (GK Sendai) กำลังการผลิตประมาณ 31.75 เมกะวัตต์ว่า เตรียมก่อสร้างและจะจ่ายไฟเข้าระบบได้ในกลางปี 2560 และเฟส 2อีก 34เมกะวัตต์และเฟส 3อีก 39เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตสัญญาซื้อขายไฟ (PPA)คาดว่าจะสรุปได้ปีนี้ และกลางปีหน้าจะได้ข้อสรุปขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 100 เมกะวัตต์ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าได้ถึง 200เมกะวัตต์ จะจ่ายไฟเพิ่มขึ้นได้ในปี 2561-2562
ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าในประเทศพม่า เฟสที่ 2 กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2558 นี้ ส่วนเฟสที่ 3 อยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)อยู่
นายพงษ์สกร กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 50% เนื่องจากปีนี้บริษัทรู้รายได้จากงานในมือ ( Backlog ) ของงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) 600 ล้านบาทจาก ที่มีอยู่ 1 พันล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะดีกว่าปีก่อนที่ทำได้ 545 ล้านบาท แม้ในช่วงไตรมาส 1/2558 ทั้งรายได้และกำไรจะต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก แต่ในช่วงไตรมาส 2/58 ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นและครึ่งปีหลังรายได้และกำไรสุทธิจะโตขึ้นโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ
นายพงษ์สกร ดำเนิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท (GUNKUL) เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 1หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนโครงการโซลาร์ ฟาร์มค้างท่อ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 2โครงการรวม 95เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 93 เมกะวัตต์ โดยบริษัทเจรจากับเจ้าของโครงการเพื่อเข้าร่วมทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มประมาณ 80เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมในเฟสแรก 60เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบในเดือนพ.ค. 2559 ส่วนเฟส 2 อีก 50เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมา คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบในเดือนมี.ค. 2560 และเฟส 3อีก60 เมกะวัตต์จะจ่ายไฟในเดือนมี.ค. 2560 ทำให้บริษัทจะรับรู้กำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมปีละ 1.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเพิ่มเติมอีก 2โครงการๆละ 50 เมกะวัตต์และ 16เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้คงต้องรอความชัดเจนจากนโยบายรัฐในการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลม ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขยะ บริษัทฯก็อยู่ระหว่างการศึกษาเช่นกัน แต่การลงทุนหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของนโยบายรัฐว่าจะส่งเสริมให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนมากน้อยแค่ไหน หรือภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนเอง
นายพงษ์สกร กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากเข้าซื้อกิจการ Sendai Okura Mega Solar (GK Sendai) กำลังการผลิตประมาณ 31.75 เมกะวัตต์ว่า เตรียมก่อสร้างและจะจ่ายไฟเข้าระบบได้ในกลางปี 2560 และเฟส 2อีก 34เมกะวัตต์และเฟส 3อีก 39เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตสัญญาซื้อขายไฟ (PPA)คาดว่าจะสรุปได้ปีนี้ และกลางปีหน้าจะได้ข้อสรุปขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 100 เมกะวัตต์ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าได้ถึง 200เมกะวัตต์ จะจ่ายไฟเพิ่มขึ้นได้ในปี 2561-2562
ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าในประเทศพม่า เฟสที่ 2 กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2558 นี้ ส่วนเฟสที่ 3 อยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)อยู่
นายพงษ์สกร กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 50% เนื่องจากปีนี้บริษัทรู้รายได้จากงานในมือ ( Backlog ) ของงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) 600 ล้านบาทจาก ที่มีอยู่ 1 พันล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะดีกว่าปีก่อนที่ทำได้ 545 ล้านบาท แม้ในช่วงไตรมาส 1/2558 ทั้งรายได้และกำไรจะต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก แต่ในช่วงไตรมาส 2/58 ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นและครึ่งปีหลังรายได้และกำไรสุทธิจะโตขึ้นโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ