xs
xsm
sm
md
lg

กันกุลเอ็นจิเนียริ่งงวดนี้ผลงานโตกว่า 67%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง อวดผลงานไตรมาส 2/2558 กำไรสุทธิ 173.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.49% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 103.82 ล้านบาท เหตุรายได้จากการขาย และรายได้จากการให้บริการยังขยายตัวได้ดี “สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ระบุภาพรวมของ GUNKUL ต่อจากนี้ยังคงสดใสตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมตอกย้ำความมั่นใจปีนี้ปั๊มรายได้โตไม่ต่ำกว่า 40% หลังตุนงานในมือไว้แล้วไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท อีกทั้งธุรกิจพลังงานหนุน

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2558 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ของบริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 173.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 103.82 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 221.53 ล้านบาท ลดลง 86.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 308.44 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมลดลง เพราะผลกระทบจากกรณีลูกค้าได้รับอนุมัติใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า (PPA) ล่าช้า และภาครัฐมีการเลื่อนการประกาศการตอบรับการซื้อไฟฟ้าประเภทต่างๆ ออกไปจากเดิม โดยรายได้รวมงวด 6 เดือนเท่ากับ 1,193.70 ล้านบาท ลดลง 29.39% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,690.48 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างลดลง เพราะรัฐบาลเลื่อนการประกาศการตอบรับการซื้อไฟฟ้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 80.4% จากการจำหน่ายอุปกรณ์งานโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ระบบสายส่งให้แก่ภาครัฐวิสาหกิจที่เป็นสินค้าประเภทกลุ่ม Hardware รวมถึงรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 30.93 เนื่องจากบริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างให้ดูแล และบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้จากบริษัทร่วม และลูกค้าภายนอกเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และบริษัทที่ควบคุมร่วมกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.31 เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จนสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครบทุกโครงการ ซึ่งยังส่งผลให้บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และบริษัทย่อยที่บริษัทได้ถือสัดส่วนเท่ากับ 26.16 เมกะวัตต์ (โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวได้รับ Adder 8 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันเริ่มขายไฟเชิงพาณิชย์) ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 107.35 เนื่องจากบริษัทได้จัดหาแหล่งเงินทุนผ่านตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในบริษัทย่อย (บริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด)
 
สำหรับดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาด 60 เมกะวัตต์ กรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่า ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น จึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความเติบโตด้านรายได้ปีนี้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ ปัจจุบันไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งต้องส่งมอบสินค้า และบริการให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้

“พลังงานทดแทนยังคงเป็นพระเอกที่ทำให้ GUNKUL เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากรายได้จะไม่ผันผวนเหมือนงานรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งยังมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า ซึ่งเมื่อผนึกเข้ากับธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทดำเนินการอยู่แล้วทำให้มั่นใจได้ว่า รายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน” นายสมบูรณ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น