พลังงานบริสุทธิ์ ปลื้ม หลังแผนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่ง รวม 188 เมกะวัตต์ เติบโตสูงกว่าคาด และสูงกว่างวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการรับรู้รายได้ในโครงการโรงไฟฟ้าที่ จ.ลำปาง เข้ามาสนับสนุน แถมสภาพภูมิอากาศเป็นใจ ส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนผลประกอบการครึ่งแรกมีแนวโน้มโดดเด่น “อมร ทรัพย์ทวีกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมเดินหน้าบุกตลาดพลังงานทดแทนต่อโดยโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มจังหวัด พิษณุโลกเดินหน้าตามแผน มั่นใจเป้ารายได้ที่วางไว้ทั้งปีโตอีกไม่ต่ำกว่า 30%
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึง ธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยในปีนี้บริษัทฯ ดำเนินแผนผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่ง รวม 188 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ จังหวัดลพบุรี, โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ จังหวัดนครสวรรค์ และโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ จังหวัดลำปาง (ซึ่งเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา) ปรากฎว่า สามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ดีกว่าแผนการที่คาดไว้ และมียอดผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมา
โดยสาเหตุที่ยอดผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปีนี้ เป็นผลจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดลำปางใช้เทคโนโลยีระบบปรับหมุนตามแสงอาทิตย์ จึงสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าโครงการที่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งใช้ระบบคงที่ เห็นได้จากยอดผลิตไฟฟ้าโดยนับจากวันที่ 17 กุมภาพันธ์-15 มิถุนายน 2558 ปรากฏว่า ยอดผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์ม จ.นครสวรรค์ เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 17% จากเป้าหมายที่ 472,626 กิโลวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จ.ลำปาง มียอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 22% จากเป้าหมายที่ 557,589 กิโลวัตต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีระบบปรับหมุนตามแสงอาทิตย์ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าระบบคงที่ นอกจากนี้ จากสภาพภูมิอากาศที่ฝนตกน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2557 ยอดผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จังหวัดลพบุรี และจังหวัดนครสวรรค์ อยู่ที่ 14.45 ล้านยูนิต และ 197.72 ล้านยูนิตตามลำดับ หรือมียอดผลิตไฟฟ้ารวมของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้งสองโรงที่ 212.17 ล้านยูนิต และตั้งเป้าหมายยอดผลิตไฟฟ้าทั้งปี 2558 ของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จังหวัดลพบุรี จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดลำปางอยู่ที่ 13.86 ล้านยูนิต (รายได้จากการขายไฟ รวม adder ประมาณหน่วยละ 11.70 บาท), 194.75 ล้านยูนิต (รายได้จากการขายไฟ รวม adder ประมาณหน่วยละ 10.20 บาท) และ 187.68 ล้านยูนิต ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2558 (รายได้จากการขายไฟ รวม adder ประมาณหน่วยละ 10.20 บาท ) โดยเป้าหมายดังกล่าวคำนวณค่าเสื่อมสภาพของแผงโซลาร์ฟาร์มในแต่ละปีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงคาดว่า จากเป้าหมายยอดผลิตไฟฟ้าของทั้ง 3 โรงที่วางไว้ในปีนี้ที่ 396.29 ล้านยูนิต จะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯ กว่า 4,062 ล้านบาท สนับสนุนเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีจะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากปี 2557 มีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 7,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้
สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและกลีเซอรีน ยังคงมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยบริษัทฯ จะพยายามปรับปรุงระบบการผลิตให้มีต้นทุนที่ต่ำลง เพื่อผลักดันรายได้ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมองว่าในช่วงต่อจากนี้ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น จนมากกว่าธุรกิจไบโอดีเซลในที่สุด จากการรับรู้รายได้ของโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและจะทยอยแล้วเสร็จในอนาคต โดยคาดว่าในปีนี้ สัดส่วนรายได้ของธุรกิจไบโอดีเซลใจะอยู่ที่ 40% ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนจะอยู่ที่ 60% จากปี 2557 สัดส่วนรายได้ของธุรกิจไบโอดีเซลอยู่ที่ 71% ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนอยู่ที่เพียง 29% ของรายได้ทั้งหมด รวมถึงสัดส่วนกำไรสุทธิในปี 2558 จากธุรกิจไบโอดีเซลที่คาดว่าจะอยู่ที่ 5% ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนอยู่ที่ 95% จากปี 2557 สัดส่วนกำไรสุทธิของธุรกิจไบโอดีเซลอยู่ที่ 10% ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนอยู่ที่ 90% ของกำไรสุทธิทั้งหมด
“ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ ถือว่าบรรลุตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีผลการดำเนินงานดีกว่าคาด สนับสนุนผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลจากการผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นตามการเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ของ โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดลำปางเข้ามาสนับสนุน และด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ด้วยระบบปรับทิศทางการรับแสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพกว่าระบบคงที่ นอกจากนี้ จากสภาพภูมิอากาศที่ฝนตกน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้น และหากเปรียบเทียบยอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดนครสวรรค์นับจากต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถผลิตได้ 554,335 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% จาก 541,587 ยูนิตของปี 2557 ส่วนยอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดลำปางในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถผลิตได้ 678,395 ยูนิต ยอดผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดลพบุรีนับจากต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถผลิตไฟได้ 40,932 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้น 3% จาก 40,932 ยูนิตของปี 2557” นายอมร กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งขณะนี้เดินได้ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ สนับสนุนให้ในปี 2559 บริษัทฯ จะมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 แห่ง มีขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดรวม 126 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 โครงการ และจังหวัดสงขลา อีก 1 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นในปีนี้ประมาณ 18,000 ล้านบาท