วานนี้ (25ส.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายสามารถ แก้วมีชัย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร นำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายกันเกิดย้อนหลังครบรอบ 83 ปีของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ อวยพรให้นายบรรหาร มีสุขภาพที่แข็งแรง นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นตัวแทนมอบกระเช้าดอกไม้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกระเช้าดอกไม้ของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ด้วย
นายบรรหาร กล่าวว่า ตนรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ มานาน และได้พูดคุยทำงานร่วมกันมาตลอด จนกระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งพรรคการเมืองขึ้น แต่อย่างว่าอนาคตการเมืองไม่แน่นอน ขอเอาใจช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้มีโอกาสได้กลับมาโดยสวัสดิภาพ ฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ยังระลึกและคิดถึงอยู่ตลอด เพราะตั้งแต่สถานการณ์การเมืองไม่ปกติ ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน หวังว่าหากสถานการณ์การเมืองดีขึ้น คงมีโอกาสได้พูดคุยกัน ขณะที่นายสมชาย เป็นคนดีมาก เพราะได้ดำเนินการโครงการดำเนินการไนท์ซาฟารี ที่ จ.เชียงใหม่ จนลุล่วง อีกทั้งนายสมชาย เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย ถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นนายกฯ ที่ดีมากคนหนึ่งในประเทศไทย ในโอกาสที่ นายสมชาย ไม่สบายก็ขออวยพรให้หายเจ็บไข้โดยเร็ว รักษาสุขภาพให้ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้มอบกระเช้าดอกไม้อวยพรในนามของพรรคเพื่อไทย โดยนายบรรหาร กล่าวตอบว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ ก็เคยเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยมาก่อน ขอให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป ในอนาคตหากมีการเลือกตั้ง ก็ขอให้พรรคเพื่อไทย ลงสู่สนามเลือกตั้ง และขอให้ได้รับชัยชนะด้วย ทั้งนี้ นายบรรหาร ยังได้กล่าวขอบคุณทุกคน พร้อมมอบไฟฉายให้เป็นของที่ระลึก โดยได้กล่าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า "ให้เอาไว้ช่วยส่องทางสว่าง"
จากนั้น นายบรรหาร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรธน. ที่สปช. กำลังจะลงมติ เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ ว่า ส่วนตัวยังไม่ได้อ่านแม้แต่มาตราเดียว และไม่ได้สนใจด้วย จะออกอย่างไร ก็ปล่อยไป เพราะจะไปบังคับไม่ได้ ถ้ามีการประกาศใช้ ก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนจะถูกต้องหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ลึกๆ ตนไม่อยากพูด เพราะถ้าพูดหรือวิจารณ์อะไรไปก็เกรงว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ จะไม่สบายใจ เพราะเป็นเพื่อนกัน เอาเป็นว่า รับกันเมื่อไร ก็ลงสู่สนามเลือกตั้ง ส่วนลงแล้วจะได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร่างรธน. นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ยังมีข้อกังขาอยู่ แต่จะวิจารณ์ไปเพื่ออะไร ไม่เกิดประโยชน์ พูดไปก็แก้ไขไม่ได้ เมื่อถามว่า เปรียบเทียบแล้ว รธน.ปี 40 ฉบับปี 50 กับร่างฉบับใหม่ ฉบับไหนดีกว่ากัน นายบรรหาร กล่าวว่า "ไม่อยากพูด แต่ของผมดีกว่า" พร้อมระบุต่อไปว่า นักการเมืองยุ่งอะไรไม่ได้เลย ยุ่งอะไรมากก็ไม่ได้ เดี๋ยว คสช. ก็เล่นงานเอา ก็คงต้องรอดูต่อไป ถ้าบ้านเมืองวุ่นวาย ก็ค่อยมากแก้ไขกัน แต่คงไม่วุ่นวาย
"การเมืองบ้านเรา จะเรียกว่าเดินหน้าหรือถอยหลังก็ตอบไม่ได้ ของเรามันเดินไปแล้วก็ถอยมา ก็อยู่กันอย่างนี้จะให้ทำอย่างไร ผมอายุมากแล้ว ไม่สนใจแล้ว คราวหน้าก็ไม่ลงเลือกตั้งแล้ว แต่ก็ยังอยู่กุมบังเหียนพรรค ไม่ได้หายไปไหน" นายบรรหาร กล่าว
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่ตนได้เขียนไว้ในเฟซบุ๊กว่า เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน สิ่งที่ประชาชนอย่างเห็นคือ การให้อำนาจและสิทธิประชาชนในการตัดสินใจ แต่ร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้อำนาจที่ยึดโยงกับประชาชนเลย จึงมีความมีความน่าเป็นห่วง ซึ่งในความเห็นส่วนตัวคิดว่า รับไม่ได้ เสมือนประชาชนผู้ที่อยู่ในบ้าน ไม่ได้รับความสุขสบาย จึงหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรจะได้รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน สื่อมวลชน และผู้รู้ที่ได้วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญไว้ ส่วนตัวมองว่า คสช.และสปช. มีอำนาจแก้ไขอยู่แล้ว ถ้าได้พิจารณาและหาทางออกก็เป็นสิ่งที่ดี ในช่วงนี้ การที่เราไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตย ก็ทำให้บ้านเมืองหยุดชะงัก ในฐานะที่ตนมาจากการเลือกตั้ง เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้เดินหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่เข้าข่ายที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ขอพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่งว่า อยากให้เสาหลักของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ มีอำนาจในการถ่วงดุลกันเอง เพื่อให้เกิดความสมดุลมากกว่าการเข้าไปก้าวก่ายในแต่ละส่วน และที่สุดในการจะตัดสินใจใดๆ นั้น ต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น
นายบรรหาร กล่าวว่า ตนรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ มานาน และได้พูดคุยทำงานร่วมกันมาตลอด จนกระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งพรรคการเมืองขึ้น แต่อย่างว่าอนาคตการเมืองไม่แน่นอน ขอเอาใจช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้มีโอกาสได้กลับมาโดยสวัสดิภาพ ฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ยังระลึกและคิดถึงอยู่ตลอด เพราะตั้งแต่สถานการณ์การเมืองไม่ปกติ ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน หวังว่าหากสถานการณ์การเมืองดีขึ้น คงมีโอกาสได้พูดคุยกัน ขณะที่นายสมชาย เป็นคนดีมาก เพราะได้ดำเนินการโครงการดำเนินการไนท์ซาฟารี ที่ จ.เชียงใหม่ จนลุล่วง อีกทั้งนายสมชาย เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย ถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นนายกฯ ที่ดีมากคนหนึ่งในประเทศไทย ในโอกาสที่ นายสมชาย ไม่สบายก็ขออวยพรให้หายเจ็บไข้โดยเร็ว รักษาสุขภาพให้ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้มอบกระเช้าดอกไม้อวยพรในนามของพรรคเพื่อไทย โดยนายบรรหาร กล่าวตอบว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ ก็เคยเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยมาก่อน ขอให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป ในอนาคตหากมีการเลือกตั้ง ก็ขอให้พรรคเพื่อไทย ลงสู่สนามเลือกตั้ง และขอให้ได้รับชัยชนะด้วย ทั้งนี้ นายบรรหาร ยังได้กล่าวขอบคุณทุกคน พร้อมมอบไฟฉายให้เป็นของที่ระลึก โดยได้กล่าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า "ให้เอาไว้ช่วยส่องทางสว่าง"
จากนั้น นายบรรหาร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรธน. ที่สปช. กำลังจะลงมติ เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ ว่า ส่วนตัวยังไม่ได้อ่านแม้แต่มาตราเดียว และไม่ได้สนใจด้วย จะออกอย่างไร ก็ปล่อยไป เพราะจะไปบังคับไม่ได้ ถ้ามีการประกาศใช้ ก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนจะถูกต้องหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ลึกๆ ตนไม่อยากพูด เพราะถ้าพูดหรือวิจารณ์อะไรไปก็เกรงว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ จะไม่สบายใจ เพราะเป็นเพื่อนกัน เอาเป็นว่า รับกันเมื่อไร ก็ลงสู่สนามเลือกตั้ง ส่วนลงแล้วจะได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร่างรธน. นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ยังมีข้อกังขาอยู่ แต่จะวิจารณ์ไปเพื่ออะไร ไม่เกิดประโยชน์ พูดไปก็แก้ไขไม่ได้ เมื่อถามว่า เปรียบเทียบแล้ว รธน.ปี 40 ฉบับปี 50 กับร่างฉบับใหม่ ฉบับไหนดีกว่ากัน นายบรรหาร กล่าวว่า "ไม่อยากพูด แต่ของผมดีกว่า" พร้อมระบุต่อไปว่า นักการเมืองยุ่งอะไรไม่ได้เลย ยุ่งอะไรมากก็ไม่ได้ เดี๋ยว คสช. ก็เล่นงานเอา ก็คงต้องรอดูต่อไป ถ้าบ้านเมืองวุ่นวาย ก็ค่อยมากแก้ไขกัน แต่คงไม่วุ่นวาย
"การเมืองบ้านเรา จะเรียกว่าเดินหน้าหรือถอยหลังก็ตอบไม่ได้ ของเรามันเดินไปแล้วก็ถอยมา ก็อยู่กันอย่างนี้จะให้ทำอย่างไร ผมอายุมากแล้ว ไม่สนใจแล้ว คราวหน้าก็ไม่ลงเลือกตั้งแล้ว แต่ก็ยังอยู่กุมบังเหียนพรรค ไม่ได้หายไปไหน" นายบรรหาร กล่าว
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่ตนได้เขียนไว้ในเฟซบุ๊กว่า เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน สิ่งที่ประชาชนอย่างเห็นคือ การให้อำนาจและสิทธิประชาชนในการตัดสินใจ แต่ร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้อำนาจที่ยึดโยงกับประชาชนเลย จึงมีความมีความน่าเป็นห่วง ซึ่งในความเห็นส่วนตัวคิดว่า รับไม่ได้ เสมือนประชาชนผู้ที่อยู่ในบ้าน ไม่ได้รับความสุขสบาย จึงหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรจะได้รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน สื่อมวลชน และผู้รู้ที่ได้วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญไว้ ส่วนตัวมองว่า คสช.และสปช. มีอำนาจแก้ไขอยู่แล้ว ถ้าได้พิจารณาและหาทางออกก็เป็นสิ่งที่ดี ในช่วงนี้ การที่เราไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตย ก็ทำให้บ้านเมืองหยุดชะงัก ในฐานะที่ตนมาจากการเลือกตั้ง เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้เดินหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่เข้าข่ายที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ขอพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่งว่า อยากให้เสาหลักของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ มีอำนาจในการถ่วงดุลกันเอง เพื่อให้เกิดความสมดุลมากกว่าการเข้าไปก้าวก่ายในแต่ละส่วน และที่สุดในการจะตัดสินใจใดๆ นั้น ต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น