ASTVผู้จัดการรายวัน – เฟรเกรนท์ เตรียมลงทุนบิ๊กโปรเจคในพม่าหลังรัฐบาลนำเข้าแผนพัฒนาระยะ 5 ปี คาดปี 59 เริ่มเดินหน้าลงทุนหลังได้รัฐบาลใหม่ ส่วนแผนลงทุนในไทยเลื่อนเปิด 2 โครงการใหญ่ย่านสุขุมวิท 36 และซิกส์ เอเลเมนท์ นาจอมเทียนเฟส 2 เพื่อรอดูภาวะตลาด คาดยอดขาย-รับรู้รายได้ทั้งปีกว่า 2,000 ล้านบาท
นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังคงชะลอตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในขณะนี้คือการลงทุนโครงการเมกะโปรเจคต์ของรัฐบาล นอกจากเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบแล้วยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นัลงทุน นอกจากนี้หากรัฐบาลมีการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยอีกด้วย
“แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัว อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ แต่ด้วยพื้นฐานที่ดีไทยยังถือเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากในภูมิภาคนี้ เพราะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุน แต่เนื่องจากยังไม่มีอะไรที่มาดึงดูดหรือเร่งการตัดสินใจจึงชะลอออกไปก่อน ดังนั้นหากรัฐบาลมีแผนลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานหรือมีมาตรการสนับสนุนนั้กลงทุนก็จะทำให้กลุ่มนักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยเร็วขึ้น” นายเจมส์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ หลังจากที่ในช่วงต้นปีภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวทำให้บริษัทชะลอแผนการลงทุนในปีนี้ ออกไป 2 โครงการ ได้แก่ สุขุมวิท 36 มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และ โครงการ ซิกส์ เอเลเมนท์ นาจอมเทียน (sixth element na jomtien) เฟส 2 มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อรอดูสถานการณ์ตลาด ทำให้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายจาก 5,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารับรู้รายได้คงไว้ที่ 2,000 ล้านบาทตามเดิม ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้จำนวน 7,000 ล้านบาท ทะยอยรับรู้ไปอีก 3 ปี และมีสต๊อกสินเค้ารอขายราว 2,000-3,000 ล้านบาท
นายเจมส์ ความคืบหน้าการลงทุนพัฒนาโครงการ มิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ที่ประเทศพม่า ว่า รัฐบาลพม่าได้นำโครงการร่วมทุนภายใต้ชื่อ NAWADAY COMPLEX เข้าไปไว้ในแผนพัฒนาระยะ 5 ปี โดยคาดว่าภายหลังจากการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่เริ่มทำงานในช่วงมีนาคม 2559 จะเริ่มเดินหน้าการลงทุนได้
สำหรับโครงการ NAWADAY COMPLEX ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ หรือประมาณ 200,000 ตร.ม. ในกรุงย่างกุ้ง มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมขนาด 300 ห้อง, อาคารสำนักงาน 30,000 ตร.ม. ห้างค้าปลีกกว่า 1แสนตร.ม. โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี
ส่วนแผนการลงทุนการพัฒนาโครงการที่เมืองไทย นอกจากการรุกเปิดโครงการใหม่ที่เน้นการประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลังจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์มากขึ้นภายใต้งบประมาณ 70-100 ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี นอกจากนี้ยังมีแผนระยะยาว 10 ปี หรือ ตั้งแต่ปี 2558-2568 บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการบนแนวคิด “Eco-Innovative Living” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็น “Leading Eco-Innovative Property Developer in Asia” ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทต่อเนื่อง โดยในปีหน้ามีแผนเตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ที่จะเป็น “State-of-the-art” บนหนึ่งในทำเลที่ดีสุดของทองหล่อ ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท
ส่วนโครง เซอร์เคิล ลิฟวิ่ง โปรโตไทป์ (Circle Living Prototype) คอนโดมิเนียมประหยัดพลังงานโครงการแรกของบริษัท บนทำเลใจกลางเมือง อโศก-เพชรบุรี ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 4,050 ล้านบาท สูง 52 ชั้น รวม 477 ยูนิต ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็น โดยเสนอราคาขายเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 150,000 บาท นั้นปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 แบ่งเป็นยอดขายจากลูกค้าต่างประเทศ ร้อยละ49 ยอดขายจากคนไทยร้อยละ 30 ส่วนที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 20 จะเปิดขายในวันที่ 18-20 ก.ย.นี้้ พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษ “Exclusive Floor, Exclusive Privileges” เปิดขาย 12 ยูนิตพิเศษ ชั้น 31-40 Skyscraper View ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท พร้อมมอบเงื่อนไขพิเศษสูงสุดมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังคงชะลอตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในขณะนี้คือการลงทุนโครงการเมกะโปรเจคต์ของรัฐบาล นอกจากเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบแล้วยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นัลงทุน นอกจากนี้หากรัฐบาลมีการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยอีกด้วย
“แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัว อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ แต่ด้วยพื้นฐานที่ดีไทยยังถือเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากในภูมิภาคนี้ เพราะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุน แต่เนื่องจากยังไม่มีอะไรที่มาดึงดูดหรือเร่งการตัดสินใจจึงชะลอออกไปก่อน ดังนั้นหากรัฐบาลมีแผนลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานหรือมีมาตรการสนับสนุนนั้กลงทุนก็จะทำให้กลุ่มนักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยเร็วขึ้น” นายเจมส์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ หลังจากที่ในช่วงต้นปีภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวทำให้บริษัทชะลอแผนการลงทุนในปีนี้ ออกไป 2 โครงการ ได้แก่ สุขุมวิท 36 มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และ โครงการ ซิกส์ เอเลเมนท์ นาจอมเทียน (sixth element na jomtien) เฟส 2 มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อรอดูสถานการณ์ตลาด ทำให้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายจาก 5,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารับรู้รายได้คงไว้ที่ 2,000 ล้านบาทตามเดิม ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้จำนวน 7,000 ล้านบาท ทะยอยรับรู้ไปอีก 3 ปี และมีสต๊อกสินเค้ารอขายราว 2,000-3,000 ล้านบาท
นายเจมส์ ความคืบหน้าการลงทุนพัฒนาโครงการ มิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ที่ประเทศพม่า ว่า รัฐบาลพม่าได้นำโครงการร่วมทุนภายใต้ชื่อ NAWADAY COMPLEX เข้าไปไว้ในแผนพัฒนาระยะ 5 ปี โดยคาดว่าภายหลังจากการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่เริ่มทำงานในช่วงมีนาคม 2559 จะเริ่มเดินหน้าการลงทุนได้
สำหรับโครงการ NAWADAY COMPLEX ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ หรือประมาณ 200,000 ตร.ม. ในกรุงย่างกุ้ง มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมขนาด 300 ห้อง, อาคารสำนักงาน 30,000 ตร.ม. ห้างค้าปลีกกว่า 1แสนตร.ม. โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี
ส่วนแผนการลงทุนการพัฒนาโครงการที่เมืองไทย นอกจากการรุกเปิดโครงการใหม่ที่เน้นการประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลังจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์มากขึ้นภายใต้งบประมาณ 70-100 ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี นอกจากนี้ยังมีแผนระยะยาว 10 ปี หรือ ตั้งแต่ปี 2558-2568 บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการบนแนวคิด “Eco-Innovative Living” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็น “Leading Eco-Innovative Property Developer in Asia” ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทต่อเนื่อง โดยในปีหน้ามีแผนเตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ที่จะเป็น “State-of-the-art” บนหนึ่งในทำเลที่ดีสุดของทองหล่อ ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท
ส่วนโครง เซอร์เคิล ลิฟวิ่ง โปรโตไทป์ (Circle Living Prototype) คอนโดมิเนียมประหยัดพลังงานโครงการแรกของบริษัท บนทำเลใจกลางเมือง อโศก-เพชรบุรี ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 4,050 ล้านบาท สูง 52 ชั้น รวม 477 ยูนิต ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็น โดยเสนอราคาขายเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 150,000 บาท นั้นปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 แบ่งเป็นยอดขายจากลูกค้าต่างประเทศ ร้อยละ49 ยอดขายจากคนไทยร้อยละ 30 ส่วนที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 20 จะเปิดขายในวันที่ 18-20 ก.ย.นี้้ พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษ “Exclusive Floor, Exclusive Privileges” เปิดขาย 12 ยูนิตพิเศษ ชั้น 31-40 Skyscraper View ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท พร้อมมอบเงื่อนไขพิเศษสูงสุดมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท