พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับทราบ ผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Corruption Situation Index หรือ CSI) ของเดือนมิ.ย.58 เปรียบเทียบกับ เดือนธ.ค.57 จัดทำโดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งสำรวจจากประชาชน ผู้ประกอบการภาคเอกชน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ รวม 2,400 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า สถานการณ์การคอร์รัปชันไทยดีขึ้น ดัชนีชี้วัดเพิ่มขึ้นทุกหมวด ซึ่ง 0 หมายถึงคอร์รัปชันรุนแรงที่สุด ไปจนถึงระดับ 100 หมายถึงคอร์รัปชันไม่รุนแรง ซึ่งครั้งนี้ ดัชนีอยู่ระดับ 55 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนซึ่งอยู่ระดับ 49 และถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 6 ปี สะท้อนว่า การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในประเทศดีขึ้น
“ตัวเลขดัชนีที่ดีขึ้นและข้อมูลจากนักธุรกิจ ถือเป็นการสะท้อนผลจากการมุ่งมั่นและเอาจริงในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ทั้งนี้หลายเรื่องต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล ขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เริ่มเก็บเกี่ยวดอกผลที่เกิดจากการทำงานอย่างหนักมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นกำลังใจสำคัญ และข้อมูลให้แก่รัฐบาล ซึ่งมีนโยบาย และการกระทำที่ชัดเจนในการต่อต้านการคอร์รัปชัน ในทุกระดับ และรัฐบาล ยังคงยืนยันว่า จะเดินหน้าต่อต้านการคอร์รัปชันต่อไป เพื่อกำจัดธุรกิจการเมืองที่กัดกินประเทศในช่วงนับสิบปีที่ผ่านมา"
นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมจากผลการสำรวจ ที่ระบุถึง สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ได้แก่ 1. ความไม่เข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบ 2. กฎหมายเปิดโอกาสให้สามารถใช้ดุลพินิจที่เอื้อต่อการทุจริต 3. ขาดกลไกการกำกับดูแลกิจการ/การตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพซึ่งเมื่อได้รับเสียงสะท้อนที่เป็นข้อเสนอแนะเช่นนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการวางแนวทางลดปัญหาต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม และหวังว่า ประชาชนคนไทย จะให้กำลังใจ และร่วมแรงร่วมใจกันกำจัดการคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย
“ตัวเลขดัชนีที่ดีขึ้นและข้อมูลจากนักธุรกิจ ถือเป็นการสะท้อนผลจากการมุ่งมั่นและเอาจริงในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ทั้งนี้หลายเรื่องต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล ขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เริ่มเก็บเกี่ยวดอกผลที่เกิดจากการทำงานอย่างหนักมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นกำลังใจสำคัญ และข้อมูลให้แก่รัฐบาล ซึ่งมีนโยบาย และการกระทำที่ชัดเจนในการต่อต้านการคอร์รัปชัน ในทุกระดับ และรัฐบาล ยังคงยืนยันว่า จะเดินหน้าต่อต้านการคอร์รัปชันต่อไป เพื่อกำจัดธุรกิจการเมืองที่กัดกินประเทศในช่วงนับสิบปีที่ผ่านมา"
นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมจากผลการสำรวจ ที่ระบุถึง สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ได้แก่ 1. ความไม่เข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบ 2. กฎหมายเปิดโอกาสให้สามารถใช้ดุลพินิจที่เอื้อต่อการทุจริต 3. ขาดกลไกการกำกับดูแลกิจการ/การตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพซึ่งเมื่อได้รับเสียงสะท้อนที่เป็นข้อเสนอแนะเช่นนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการวางแนวทางลดปัญหาต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม และหวังว่า ประชาชนคนไทย จะให้กำลังใจ และร่วมแรงร่วมใจกันกำจัดการคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย