xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ค่ำวานนี้ (21 ส.ค.) ว่า สำหรับนโยบายที่รัฐบาลนี้ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันเป็นที่น่าพึงพอใจในระยะแรก จากผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่า การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในประเทศมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น และดีที่สุดในรอบ 6 ปี สามารถช่วยให้รัฐบาลลดการสูญเสียเงินไปกับการคอร์รัปชัน ได้เกือบ 2 แสนล้านบาท เม็ดเงินงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ถึงมือประชาชนโดยตรง ไม่ผ่านขบวนการคอร์รัปชัน สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีประสิทธิภาพสูงสุด และคุ้มค่ามากที่สุด อย่างไรก็ตาม ยังมีการพูดให้ร้ายข้าราชการ รัฐมนตรี รัฐบาล ในสิ่งที่อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะรัฐบาลนี้ไม่เปิดโอกาสให้มีการสมยอมเกิดขึ้น ไม่มีการช่วยเหลือเป็นพิเศษใด ๆ กับทุกโครงการ หากยังมีเล็ดลอดไปได้อยู่นั้น ขอให้แจ้งเบาะแสเพื่อจะได้ตรวจสอบโดยทันที

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ปล่อยปละละเลยกับปัญหานี้มานาน ประชาชนเคยชินกับการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่มีความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีการปรับปรุงกฎ ระเบียบให้รัดกุม ไม่มีกลไกในการกำกับดูแลกิจการ การตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ปล่อยให้มีการให้สินบน สินน้ำใจ ของกำนัล รางวัลต่าง ๆ แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการจ่ายเงินเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ในภายหลัง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นปัญหาที่ทำลายชาติ ทำร้ายประชาชน ทำให้ประเทศไม่สามารถพัฒนาไปได้อย่างที่ควร ผลการสำรวจนี้ ถือเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงาน และเป็นข้อมูลให้แก่รัฐบาลในการดำเนินนโยบายที่ชัดเจนในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นในทุกระดับ ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อต้านการคอร์รัปชันต่อไป เพื่อกำจัดสนิมเนื้อในที่กัดกินประเทศในช่วงนับ 10 ปีที่ผ่านมาให้ได้ โดยหวังว่าพี่น้องประชาชนคนไทยจะให้กำลังใจ และร่วมแรงร่วมใจกำจัดการคอร์รัปชันให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยของเรา พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยจะไม่แก้ปัญหาในลักษณะที่ไม่สร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ ทิ้งมรดกหนี้ไว้ให้กับภาระรุ่นหลานต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น