xs
xsm
sm
md
lg

สั่งยธ.ฟันถอดยศ“แม้ว” “บิ๊กตู่” กล้าขัดใจใครบางคน !

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รวดเร็ว ฉับไว สไตล์ “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม หลังถูก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้รับผิดชอบพิจารณากรณีถอดยศ พ.ต.ท.ของทักษิณ ชินวัตร หลัง “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เอาเรื่องไปดองเค็มมาชาติกว่า ไม่มีการขยับเขยื้อน โดนจี้ถามกี่ครั้ง กี่ครั้งก็บอกคณะทำงานพิจารณาอยู่ จนกลายเป็นว่า ที่บอกใหญ่แค่ไหนก็จับ เป็นแค่ลมปาก มวยล้มต้มคนดูไปวันๆ
โดยสภาพเมื่อ “บิ๊กตู่” สั่งให้ “บิ๊กต๊อก” ไปทำ จากเดิมคาดกันว่า จะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ แต่คนตัวเล็กใจใหญ่จัดให้ไม่ถึงสัปดาห์ เหมือนสายฟ้าฟาด เรียกประชุมทุกหน่วยงานประชุมครั้งแรกแล้วเคาะได้ทันทีว่า ควรจะถอดยศ พ.ต.ท. ออกจากคำนำหน้าชื่อของทักษิณ กฎหมายต่างๆ นานา ที่นำมาอ้างกันสารพัดว่าติดนั่น ติดนี่ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเมื่อมาถึงมือเลย ทุกอย่างง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไม่เห็นจะต้องพิจารณากันเป็นเดือน เป็นปี เหมือนก่อนหน้านี้
** เรื่องนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 2 ที่มี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นกรรมการ เคยให้ความเห็นกันมาแล้วตั้งแต่ปี 2554 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สามารถออกระเบียบสตช. ว่าด้วยการถอดยศได้ แต่ก็ยังจะมีพวกศรีธนญชัยสงสัยว่า ระเบียบดังกล่าวที่ออกมา หากไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลให้โทษได้หรือไม่ จน “บิ๊กอ๊อด” เอาไปถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเที่ยวล่าสุดอีกรอบ ก่อนจะโดนตอกกลับว่า ไม่ได้อยู่ในอำนาจพิจารณา เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ.2540
กระทั่ง “บิ๊กต๊อก” เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเคาะออกมาว่า ไม่มีปัญหาอะไร ถอดได้โลด ซึ่งเรื่องนี้พอมาอยู่ในมือกระทรวงยุติธรรม อะไรๆ ก็ดูง่ายดายไปหมด ไม่เหมือนอยู่ในสตช. อะไรก็ดูจะติดขัดไปหมด ผลงานนี้ชิ้นนี้คนที่ได้หน้าไปเต็มๆ คงหนีไม่พ้น “บิ๊กตู่” และรัฐบาล ขณะที่คนที่เสียหน้า และโดนตอกหน้ามากที่สุดคือ “บิ๊กอ๊อด” และคนที่อยู่เบื้องหลังของ ผบ.ตร.
เรื่องนี้ยังเป็นการถลกหนัง และแฉเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาได้หมดว่า สุดท้ายที่เป็นยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ถอดยศทักษิณไม่ได้ แท้จริงแล้วไม่ได้ติดปัญหาเรื่องกฎหมายอะไรเลย แต่มันเป็นเพราะมีกระบวนการยื้อ ยุด ฉุด กระชาก ไม่ให้เรื่องมันเดิน ตลอดจนมีใครบางคนไม่กล้าแตะต้องนักโทษชายทักษิณ ที่มีกระแสข่าวว่า มีดีลลับก่อนหน้านี้ ระหว่างผู้มีอำนาจในรัฐบาลกับผู้ต้องหาหนีคดีทุจริตคอร์รัปชันนั้นมีจริง
** เมื่อคนที่เดินเครื่องถอดยศครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็น “บิ๊กตู่” ข้อครหาว่ารัฐบาลเตะถ่วง ไม่กล้าแตะนักโทษชายทักษิณ จึงหมดไป แต่คนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่า เป็นหนึ่งในกระบวนการดองเค็มถอดยศครั้งนี้ กลับหนีไม่พ้นพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้มากคอนเนกชั่น เพราะอย่างที่รู้กัน หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก และ “บิ๊กอ๊อด” ก็เป็นน้องรัก ของพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ไม่กล้าทำอะไรเองแน่ หากไม่ได้รับไฟเขียว หรือไฟแดงก่อน
กรณีจับแช่ชวนสงสัยใน 2 ประเด็น คือ ที่ผ่านมาที่ “บิ๊กอ๊อด” ไม่กล้าแตะต้องนักโทษชายทักษิณ เป็นเพราะกลัวโดนเช็กบิลกลับจากระบอบทักษิณ หรือเกรงอกเกรงใจกัน เลยพยายามนำเสนอข้อมูลต่อ “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กตู่” ว่า ติดขัดในข้อกฎหมายกันจนเคลิ้ม กับอีกประเด็นหนึ่งคือ “บิ๊กอ๊อด” ไม่ได้รับไฟเขียวจากผู้มีอำนาจในรัฐบาล โดยเฉพาะพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ คนที่ตัวเองเชื่อฟัง เลยไม่กล้าผลีผลามถอด เพราะกลัวโดนลอยแพ รับชะตากรรมคนเดียว
ดูได้จากการที่ “บิ๊กตู่” เอาเรื่องมาให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการเอง ทั้งที่ไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายในเรื่องถอดยศเลย นอกเสียจากให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะทางกฎหมายเท่านั้น แต่ในทางการเมืองแล้ว เท่ากับว่า เป็นการเอาเรื่องถอดยศมาอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลด้วย ไม่ได้ปล่อยให้ สตช.ทำโดดเดี่ยวเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะลำพังตำรวจอย่างเดียว ไม่มีใครคุ้มครอง อย่างไรก็ไม่กล้าคัดง้าง กับระบอบทักษิณแน่
นอกจากนี้ การดึงเรื่องมาอยู่ในมือกระทรวงยุติธรรม ยังเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ตำรวจว่า เรื่องนี้รัฐบาลรับผิดชอบเอง ไม่ได้ลอยแพ สตช.ให้เผชิญความเสี่ยงจากระบอบทักษิณในภายภาคหน้า มันเลยทำให้งานตำรวจคนอื่นๆ กล้าที่จะลงมือมากขึ้น เพราะหัวส่ายแล้วหางเลยกล้ากระดิกได้ หากนักโทษชายทักษิณ จะแค้นก็คงแค้นรัฐบาลโดยตรง โดยเฉพาะ “บิ๊กตู่” ผู้ตัดสินใจ ซึ่งก็คงไม่ได้แคร์อะไรแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าเปิดศึกหักดิบ
ทีนี้พอเรื่องกลับมาอยู่ที่สตช. “บิ๊กอ๊อด” ก็ไม่มีข้ออ้างอะไรให้เตะถ่วงอีกแล้ว ต้องดำเนินการตามมติของคณะกรรมการชุด “บิ๊กต๊อก” ทันที ยิ่งเป็นบัญชาจากนายกฯ คงไม่น่าจะฮึดฮัด ขืนยังยื้อออกไป ก็มีแต่ทำให้คนนินทาหมาดูถูกว่า ใหญ่แค่ไหนก็ไม่กล้าจับสักคน ก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ควรจะทำเรื่องอะไรให้ประชาชนยกย่องบ้างสักเรื่องสองเรื่อง ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่ใช่ให้คนจดจำแต่เรื่องกาสิโนถูกกฎหมายอย่างเดียว
ขณะที่ “บิ๊กตู่” เองงานนี้ถูกคนรักนักโทษชายทักษิณสวดยับแน่ตามระเบียบ แต่ต่อให้ไม่มีการถอดยศ อย่างไรก็เกลียดอยู่ดี จึงไม่น่าจะมีอะไรเท่าไหร่ ยกเว้นนายทักษิณเท่านั้นที่แม้ลูกชายพานทองแท้ ชินวัตร จะออกมาในทำนองว่า คุณพ่อไม่แคร์ แต่เชื่อขนมกินได้ งานนี้แค้นฝังหุ่นแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ก็ดิ้นสู้ทุกยุคที่มีความพยายามจะถอด จนล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องรอดูว่า จะมีปฏิกิริยาตอบโต้รัฐบาลอย่างไร
แต่ขณะเดียวกัน ก็จะได้รับแรงหนุนจากคนที่อยู่ตรงข้ามระบอบทักษิณ อย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า เรื่องนี้ “บิ๊กตู่” กล้าขัดใจผู้มากบารมีในรัฐบาลบางคน พยายามแสดงให้เห็นว่า ตัวเองเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง หลังก่อนหน้านี้คนมองว่าการตัดสินใจต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของ “พี่ป้อม”
**อย่างน้อยในช่วงที่มีกระแสให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งที่ “ทิดเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ และ สปช. บางคนพยายามโหม พอมีเรื่องนี้ก็ทำให้คนกันเองที่ตะขิดตะขวงใจกับรัฐบาลก่อนหน้านี้หลายเรื่อง กลับมาเปิดใจให้เสียงหนุนอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น