“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ปราชญ์หลายคนเตือนสติ “ผู้มีอำนาจ” ว่า..
เมื่อก่อน “คุณ” ยังไม่มีอำนาจ “คุณ” เพิ่งมีอำนาจเมื่อไม่นานนี้เอง และอีกไม่นานก็จะไม่มีอำนาจอีก จึงควรรีบทำความดี..ในขณะที่ “คุณ” ยังมีอำนาจ!
ถ้า “คุณ”ไม่หลอกตัวเอง “คุณ” ย่อมรู้ว่า “ฝัน” ที่ต้องการให้เป็นจริง ล้วนหนีไม่พ้น “ฝัน” อยากเป็น “คน-ประสบความสำเร็จ” ทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว..จริงไหมล่ะ?
เรามา “ชำแหละฝัน” ของใครบางคน ที่เคยมีอำนาจกันดีไหม?
“ฝัน” ของ “หล่อจ้อเก่ง” กับ “เทพเทือก” นั้น ยังเป็น “ความฝัน” ของนักการเมืองแบบเก่าๆ ที่จมปลักอยู่ในวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม ขณะที่ผู้คนในนามพันธมิตรฯ กำลังต่อสู้ขับไล่รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม อย่างกล้าหาญจวนจะล้มมิล้มแหล่อยู่นั่นเอง ก็มี “มือลึกลับสีเขียว” โผล่เข้ามา “พลิกขั้ว” ทางการเมือง ด้วยการดัน “หล่อจ้อเก่ง” เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน “เทพเทือก” ได้เป็นรองนายกฯแบบ“ส้มหล่น” หลังการผสมพันทางการเมืองของ “มารคราบเทพ-กับ-จอมมารห้อย” ที่ทำเอาคนไทยพะอืดพะอมกันทั้งชาติ
รัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ผู้หน่อมแหน้มนั้น มิได้เป็นรัฐบาลทำเพื่อชาติและประชาชน แต่กลับทำเพื่อตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น เพราะทั้ง “หล่อจ้อเก่ง” และ“เทพเทือก” กับ “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” ต่างนั่ง “ฝัน” นอน “ฝัน” ตีลังกา “ฝัน” เพ้อเจ้อว่า พวกเขาจะได้สืบทอดอำนาจรัฐต่อไปเรื่อยๆ ห้วงมีอำนาจ “หล่อกับเทือก” จึงไม่แยกมิตรแยกศัตรู ไม่แยกถูกแยกผิด ไม่แยกคนดีคนชั่ว ฯลฯ
ที่สำคัญ “หล่อจ้อเก่ง” กับ “เทพเทือก” ยังหลงทิศผิดทางเอาชาติ และประชาชนไปเล่นเกมการเมือง “สมานฉันท์” กับกลุ่มคนโกงชาติ-ล้มเจ้า ทำให้กลุ่มคนชั่วส่วนใหญ่ไม่โดนลงโทษ จึงลอยนวลและเดินหน้าทำชั่วต่อได้ โดยใช้ทุกรูปแบบกดดันรัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ให้เร่งยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เหลี่ยมใช้ทั้งแกนนำ “แดงสู้แล้วรวย” กับกองกำลังอันธพาลการเมืองรับจ้าง ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ด้วยการใช้ความรุนแรงก่อจลาจล ทั้งเผาเมือง-ฆ่าทหารกับประชาชนอย่างป่าเถื่อน จนในที่สุด..รัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ผู้หน่อมแหน้ม ก็ “ยกธงขาว” ยอมแพ้เหลี่ยมกับพวก ด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการปฏิรูปชาติไทยแม้แต่น้อย
เลือกตั้งสกปรกครั้งนั้น ทำให้ “ฝัน” ชนะศึกเลือกตั้งของ “เหลี่ยม” เป็นจริง ในขณะที่ “ฝัน” ของ “หล่อจ้อเก่ง-เทพเทือก-ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” ที่หวังจะชนะศึกเลือกตั้งนั้น กลายเป็น “ฝันสลาย” ตามที่ “คอการเมืองฟันธง” ไว้ตรงเป๊ะ และไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่คอการเมืองคาดไว้แม้แต่น้อยว่า นั่นคือ หนึ่งในต้นเหตุปัญหาชาติ ที่ทำให้การเมืองไทยบานปลายมาจนทุกวันนี้..
ยุครัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” ครองเมืองนั้น ความไร้เดียงสาทางการเมืองของ “ปูจ๋า” ที่บริหารชาติแบบ “หนูไม่รู้” และ “ช่างมัน..หนูไม่แคร์” อะไรทั้งสิ้น “หนูปู” จึงผลาญและปล่อยให้มีการโกงเงินชาติ จากโครงการประชานิยมต่างๆ จนชาติเสียหายอย่างหนัก เฉพาะ “จำนำข้าวทุกเม็ด” เรื่องเดียว ทำเงินงบประมาณชาติวอดวาย ไปไม่ต่ำกว่าหกแสนล้านบาทแล้ว
รัฐบาล “พี่สั่ง-น้องโกง” ได้ทำให้ “ข้าวไทย” ที่ขายมากและมีคุณภาพดี ติดอันดับหนึ่งของโลกให้ตกต่ำลง จนพ่ายแพ้ต่อประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้
เรียกว่า..ธุรกิจข้าวไทย ที่เป็น “กระดูกสันหลังของชาติ” ถูกรัฐบาล “พี่น้อง”คู่นี้ ทำลายล้างคามือ ด้วยเวลาเพียงแค่ 2 ปีเศษเท่านั้น!
นอกจากนั้น รัฐบาล “พี่ยังคิด-น้องยังโกง” อีกสารพัดโครงการ ยังสนับสนุนให้พวกพ้อง ปฏิบัติการล้มเจ้าทั้งลับและเปิดเผยอีกด้วย
ถือได้ว่า..รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” กับเครือข่ายนั้น ปฏิบัติการคิดร้ายทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการมาตลอด
ทั้งนี้เพราะ “ฝัน” ของ “พี่เหลี่ยม” กับ “น้องปูจ๋า” ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย ทั้งคู่ต่างสะสมสันดานทุนสามานย์ไว้ครบครัน นั่นคือ รวยเงิน-เท่าไหร่ก็มิรู้จักพอ บ้าอำนาจ-มิรู้จักหยุดจักหย่อน ดังนั้น กลุ่มทุนสามานย์เหลี่ยมจึงทุ่มเงินมหาศาล ซื้อเสียงเลือกตั้งเข้าไปยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ อีกทั้งยังมุ่งจะสืบทอดอำนาจให้นานที่สุดอีกด้วย โดยการทำชั่วทั้งหมดก็เพื่อใช้อำนาจไปโกงชาตินั่นเอง
รัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย จึงถูกต่อต้านสารพัดรูปแบบ ถูกชาวไทยในนาม “พันธมิตรฯ” ชุมนุมขับไล่ ถูกคณะนายทหารทำรัฐประหาร ถูกพลิกขั้วการเมือง ถูก“หล่อจ้อเก่ง”และ“เทพเทือก”ที่เป็นฝ่ายค้าน นำมวลมหาประชาชนในนาม “กกปส.” ออกมาชุมนุมเดินขบวนไปทั่วเมือง เพื่อขับไล่รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” อย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางมวลมหาประชาชนหลายล้านคน ที่เสียสละและกล้าหาญ ได้ต่อสู้ชนิดไม่กลัวต่ออำนาจรัฐอธรรม ที่ใช้กลไกรัฐบางส่วนผสานกับอันธพาลรับจ้าง ลอบเข่นฆ่ามวลมหาประชาชน จนได้รับบาดเจ็บล้มตายกันไปอย่างมากมาย ทว่ามวลมหาประชาชนก็มิระย่อ ยังคงชุมนุมต่อสู้อย่างน่ายกย่องสรรเสริญ
ห้วงนั้น..ผู้นำการชุมนุมหลายคน “ฝัน” ถึง “ชัยชนะ” ในการโค่นล้ม รัฐบาล “ปูจ๋า” ของทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ว่า จะต้องถูก “คว่ำข้าวเม่า” ลงอย่างไม่เป็นท่าแน่นอน เพราะชัยชนะเห็นกันอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อมนี่เอง
แต่แล้ว..การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน กับทุนสามานย์ทางการเมืองอันชั่วร้าย ที่ทำร้ายทำลายชาติไทยมากว่าสิบปี กลับกลายเป็นศึกที่ยืดเยื้อยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ เล่นเอา “คอการเมืองไทย” และ “คอการเมืองโลก” งงเต๊กเป็น “ไก่ตาแตก”กันไปหมด
เพราะชุมนุมทางการเมืองใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้คนหลายล้านคนร่วมขับไล่รัฐบาลอธรรม ไม่มีวันที่รัฐบาลอธรรมประเทศไหน จะยังคงดำรงอยู่ในอำนาจชั่วๆได้อีกต่อไปแน่นอน
แต่สำหรับเมืองไทยใหญ่อุดมแห่งนี้ เป็นดินแดนของบรรดานักการเมืองสามานย์ที่ไม่รักชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่นชาติ จนติดอันดับต้นๆของโลก อีกทั้งยังเป็นดินแดนที่มีนักการเมืองชั่ว สุมหัว “ฮั้ว” กันทั้งทางการเมือง และการแสวงหาผลประโยชน์ จากโครงการทั้งของรัฐและของราษฎร์ เพื่อโกงกินเงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งรีดภาษีจากประชาชนผู้ยากไร้..
งานนี้.. “คอการเมือง” ทั้งไทยและต่างชาติ จึง “ฟันธงเปรี้ยง” ลงไปทันทีเลยว่า
สถานการณ์ที่ควรชนะแต่ยังไม่ชนะ หรือ ยังไม่ยอมใช้ยุทธวิธีเผด็จศึกเอาชนะโดยพลัน ทั้งๆ ที่มีคนจำนวนมากที่สุดในโลก ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลทุนสามานย์เหลี่ยม นั่นคือ ความผิดปกติของการต่อสู้บนท้องถนนในครั้งนั้น!
สภาพที่พิลึกกึกกือเช่นนี้ คงต้องมีเบื้องหน้า-เบื้องหลัง-เบื้องลึก-แต่ไม่ลับแน่นอน!
เอ๊ะ!..งานนี้..มีใคร-ทำอะไร-ที่ไหน? ทำไมการต่อสู้ที่คนออกมาชุมนุมมากที่สุดในโลกครั้งนี้ จึงพิชิตรัฐบาลสามานย์เหลี่ยมและเครือข่ายไม่ได้? คำถามเหล่านั้นทำให้ “คอการเมือง” ต้องเจาะข่าวกันจ้าละหวั่น เพื่อหาคำตอบมาไขความงุนงงกันยกใหญ่
งานขับไล่รัฐบาลทสามานย์เหลี่ยมครั้งนี้ มี “ขาใหญ่-ขากลาง-ขาเล็ก” ทั้งที่มีสีและไม่มีสีเข้ามาเกี่ยวข้องกันหลายกลุ่ม แต่ละคนมี “ฝัน” ทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกัน
ดังนั้น จึงต้องมีการ “เจรจาต้าอ้วย” ของคนหลายกลุ่ม ทั้งที่คุยกันแบบ “ลับสุดยอด” กับ “ลับๆล่อๆ” แต่ทุกคนมี “ความฝัน” เบื้องต้นตรงกัน นั่นคือ ต้องเร่งล้มรัฐบาล “ปูจ๋า” ลงก่อน นั่นเป็นสิ่งที่เปิดเผยออกสู่สาธารณชน แต่เรื่องที่ไม่เปิดเผยล่ะ..มีไหม?
เพราะตอนนั้นอำนาจรัฐยังอยู่ในกำมือ ของ “เหลี่ยม-กับ-ปูจ๋า” อย่างเป็นทางการ บรรดาข้าราชการในขณะนั้นจึงมีความคิด และการกระทำหลายรูปแบบ บ้างยัง “เหยียบเรือสองแคม” บ้างต้อง “ลับ-ล้วง-ลวง-พราง” เพื่อรอซ้ำเติมยามรัฐบาลอ่อนปวกเปียก บ้างเผยตัวตนต่อสู้ร่วมกับ กกปส. อย่างกล้าหาญ ฯลฯ
ส่วน “ฝัน” ของ “เทพเทือก” ตอนต้นนั้น ตรงกับ “หล่อจ้อเก่ง” และอีกหลายคนใน ปชป. เมื่อผู้คนออกมาชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ จากหมื่นเป็นแสน-เป็นล้านๆ “ฝัน” ของ “เทพเทือก” จึงค่อยๆ “ดังแล้วแยกวง”
อ่านต่อตอนสี่...
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ปราชญ์หลายคนเตือนสติ “ผู้มีอำนาจ” ว่า..
เมื่อก่อน “คุณ” ยังไม่มีอำนาจ “คุณ” เพิ่งมีอำนาจเมื่อไม่นานนี้เอง และอีกไม่นานก็จะไม่มีอำนาจอีก จึงควรรีบทำความดี..ในขณะที่ “คุณ” ยังมีอำนาจ!
ถ้า “คุณ”ไม่หลอกตัวเอง “คุณ” ย่อมรู้ว่า “ฝัน” ที่ต้องการให้เป็นจริง ล้วนหนีไม่พ้น “ฝัน” อยากเป็น “คน-ประสบความสำเร็จ” ทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว..จริงไหมล่ะ?
เรามา “ชำแหละฝัน” ของใครบางคน ที่เคยมีอำนาจกันดีไหม?
“ฝัน” ของ “หล่อจ้อเก่ง” กับ “เทพเทือก” นั้น ยังเป็น “ความฝัน” ของนักการเมืองแบบเก่าๆ ที่จมปลักอยู่ในวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม ขณะที่ผู้คนในนามพันธมิตรฯ กำลังต่อสู้ขับไล่รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม อย่างกล้าหาญจวนจะล้มมิล้มแหล่อยู่นั่นเอง ก็มี “มือลึกลับสีเขียว” โผล่เข้ามา “พลิกขั้ว” ทางการเมือง ด้วยการดัน “หล่อจ้อเก่ง” เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน “เทพเทือก” ได้เป็นรองนายกฯแบบ“ส้มหล่น” หลังการผสมพันทางการเมืองของ “มารคราบเทพ-กับ-จอมมารห้อย” ที่ทำเอาคนไทยพะอืดพะอมกันทั้งชาติ
รัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ผู้หน่อมแหน้มนั้น มิได้เป็นรัฐบาลทำเพื่อชาติและประชาชน แต่กลับทำเพื่อตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น เพราะทั้ง “หล่อจ้อเก่ง” และ“เทพเทือก” กับ “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” ต่างนั่ง “ฝัน” นอน “ฝัน” ตีลังกา “ฝัน” เพ้อเจ้อว่า พวกเขาจะได้สืบทอดอำนาจรัฐต่อไปเรื่อยๆ ห้วงมีอำนาจ “หล่อกับเทือก” จึงไม่แยกมิตรแยกศัตรู ไม่แยกถูกแยกผิด ไม่แยกคนดีคนชั่ว ฯลฯ
ที่สำคัญ “หล่อจ้อเก่ง” กับ “เทพเทือก” ยังหลงทิศผิดทางเอาชาติ และประชาชนไปเล่นเกมการเมือง “สมานฉันท์” กับกลุ่มคนโกงชาติ-ล้มเจ้า ทำให้กลุ่มคนชั่วส่วนใหญ่ไม่โดนลงโทษ จึงลอยนวลและเดินหน้าทำชั่วต่อได้ โดยใช้ทุกรูปแบบกดดันรัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ให้เร่งยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เหลี่ยมใช้ทั้งแกนนำ “แดงสู้แล้วรวย” กับกองกำลังอันธพาลการเมืองรับจ้าง ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ด้วยการใช้ความรุนแรงก่อจลาจล ทั้งเผาเมือง-ฆ่าทหารกับประชาชนอย่างป่าเถื่อน จนในที่สุด..รัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ผู้หน่อมแหน้ม ก็ “ยกธงขาว” ยอมแพ้เหลี่ยมกับพวก ด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการปฏิรูปชาติไทยแม้แต่น้อย
เลือกตั้งสกปรกครั้งนั้น ทำให้ “ฝัน” ชนะศึกเลือกตั้งของ “เหลี่ยม” เป็นจริง ในขณะที่ “ฝัน” ของ “หล่อจ้อเก่ง-เทพเทือก-ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” ที่หวังจะชนะศึกเลือกตั้งนั้น กลายเป็น “ฝันสลาย” ตามที่ “คอการเมืองฟันธง” ไว้ตรงเป๊ะ และไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่คอการเมืองคาดไว้แม้แต่น้อยว่า นั่นคือ หนึ่งในต้นเหตุปัญหาชาติ ที่ทำให้การเมืองไทยบานปลายมาจนทุกวันนี้..
ยุครัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” ครองเมืองนั้น ความไร้เดียงสาทางการเมืองของ “ปูจ๋า” ที่บริหารชาติแบบ “หนูไม่รู้” และ “ช่างมัน..หนูไม่แคร์” อะไรทั้งสิ้น “หนูปู” จึงผลาญและปล่อยให้มีการโกงเงินชาติ จากโครงการประชานิยมต่างๆ จนชาติเสียหายอย่างหนัก เฉพาะ “จำนำข้าวทุกเม็ด” เรื่องเดียว ทำเงินงบประมาณชาติวอดวาย ไปไม่ต่ำกว่าหกแสนล้านบาทแล้ว
รัฐบาล “พี่สั่ง-น้องโกง” ได้ทำให้ “ข้าวไทย” ที่ขายมากและมีคุณภาพดี ติดอันดับหนึ่งของโลกให้ตกต่ำลง จนพ่ายแพ้ต่อประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้
เรียกว่า..ธุรกิจข้าวไทย ที่เป็น “กระดูกสันหลังของชาติ” ถูกรัฐบาล “พี่น้อง”คู่นี้ ทำลายล้างคามือ ด้วยเวลาเพียงแค่ 2 ปีเศษเท่านั้น!
นอกจากนั้น รัฐบาล “พี่ยังคิด-น้องยังโกง” อีกสารพัดโครงการ ยังสนับสนุนให้พวกพ้อง ปฏิบัติการล้มเจ้าทั้งลับและเปิดเผยอีกด้วย
ถือได้ว่า..รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” กับเครือข่ายนั้น ปฏิบัติการคิดร้ายทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการมาตลอด
ทั้งนี้เพราะ “ฝัน” ของ “พี่เหลี่ยม” กับ “น้องปูจ๋า” ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย ทั้งคู่ต่างสะสมสันดานทุนสามานย์ไว้ครบครัน นั่นคือ รวยเงิน-เท่าไหร่ก็มิรู้จักพอ บ้าอำนาจ-มิรู้จักหยุดจักหย่อน ดังนั้น กลุ่มทุนสามานย์เหลี่ยมจึงทุ่มเงินมหาศาล ซื้อเสียงเลือกตั้งเข้าไปยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ อีกทั้งยังมุ่งจะสืบทอดอำนาจให้นานที่สุดอีกด้วย โดยการทำชั่วทั้งหมดก็เพื่อใช้อำนาจไปโกงชาตินั่นเอง
รัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย จึงถูกต่อต้านสารพัดรูปแบบ ถูกชาวไทยในนาม “พันธมิตรฯ” ชุมนุมขับไล่ ถูกคณะนายทหารทำรัฐประหาร ถูกพลิกขั้วการเมือง ถูก“หล่อจ้อเก่ง”และ“เทพเทือก”ที่เป็นฝ่ายค้าน นำมวลมหาประชาชนในนาม “กกปส.” ออกมาชุมนุมเดินขบวนไปทั่วเมือง เพื่อขับไล่รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” อย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางมวลมหาประชาชนหลายล้านคน ที่เสียสละและกล้าหาญ ได้ต่อสู้ชนิดไม่กลัวต่ออำนาจรัฐอธรรม ที่ใช้กลไกรัฐบางส่วนผสานกับอันธพาลรับจ้าง ลอบเข่นฆ่ามวลมหาประชาชน จนได้รับบาดเจ็บล้มตายกันไปอย่างมากมาย ทว่ามวลมหาประชาชนก็มิระย่อ ยังคงชุมนุมต่อสู้อย่างน่ายกย่องสรรเสริญ
ห้วงนั้น..ผู้นำการชุมนุมหลายคน “ฝัน” ถึง “ชัยชนะ” ในการโค่นล้ม รัฐบาล “ปูจ๋า” ของทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ว่า จะต้องถูก “คว่ำข้าวเม่า” ลงอย่างไม่เป็นท่าแน่นอน เพราะชัยชนะเห็นกันอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อมนี่เอง
แต่แล้ว..การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน กับทุนสามานย์ทางการเมืองอันชั่วร้าย ที่ทำร้ายทำลายชาติไทยมากว่าสิบปี กลับกลายเป็นศึกที่ยืดเยื้อยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ เล่นเอา “คอการเมืองไทย” และ “คอการเมืองโลก” งงเต๊กเป็น “ไก่ตาแตก”กันไปหมด
เพราะชุมนุมทางการเมืองใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้คนหลายล้านคนร่วมขับไล่รัฐบาลอธรรม ไม่มีวันที่รัฐบาลอธรรมประเทศไหน จะยังคงดำรงอยู่ในอำนาจชั่วๆได้อีกต่อไปแน่นอน
แต่สำหรับเมืองไทยใหญ่อุดมแห่งนี้ เป็นดินแดนของบรรดานักการเมืองสามานย์ที่ไม่รักชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่นชาติ จนติดอันดับต้นๆของโลก อีกทั้งยังเป็นดินแดนที่มีนักการเมืองชั่ว สุมหัว “ฮั้ว” กันทั้งทางการเมือง และการแสวงหาผลประโยชน์ จากโครงการทั้งของรัฐและของราษฎร์ เพื่อโกงกินเงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งรีดภาษีจากประชาชนผู้ยากไร้..
งานนี้.. “คอการเมือง” ทั้งไทยและต่างชาติ จึง “ฟันธงเปรี้ยง” ลงไปทันทีเลยว่า
สถานการณ์ที่ควรชนะแต่ยังไม่ชนะ หรือ ยังไม่ยอมใช้ยุทธวิธีเผด็จศึกเอาชนะโดยพลัน ทั้งๆ ที่มีคนจำนวนมากที่สุดในโลก ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลทุนสามานย์เหลี่ยม นั่นคือ ความผิดปกติของการต่อสู้บนท้องถนนในครั้งนั้น!
สภาพที่พิลึกกึกกือเช่นนี้ คงต้องมีเบื้องหน้า-เบื้องหลัง-เบื้องลึก-แต่ไม่ลับแน่นอน!
เอ๊ะ!..งานนี้..มีใคร-ทำอะไร-ที่ไหน? ทำไมการต่อสู้ที่คนออกมาชุมนุมมากที่สุดในโลกครั้งนี้ จึงพิชิตรัฐบาลสามานย์เหลี่ยมและเครือข่ายไม่ได้? คำถามเหล่านั้นทำให้ “คอการเมือง” ต้องเจาะข่าวกันจ้าละหวั่น เพื่อหาคำตอบมาไขความงุนงงกันยกใหญ่
งานขับไล่รัฐบาลทสามานย์เหลี่ยมครั้งนี้ มี “ขาใหญ่-ขากลาง-ขาเล็ก” ทั้งที่มีสีและไม่มีสีเข้ามาเกี่ยวข้องกันหลายกลุ่ม แต่ละคนมี “ฝัน” ทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกัน
ดังนั้น จึงต้องมีการ “เจรจาต้าอ้วย” ของคนหลายกลุ่ม ทั้งที่คุยกันแบบ “ลับสุดยอด” กับ “ลับๆล่อๆ” แต่ทุกคนมี “ความฝัน” เบื้องต้นตรงกัน นั่นคือ ต้องเร่งล้มรัฐบาล “ปูจ๋า” ลงก่อน นั่นเป็นสิ่งที่เปิดเผยออกสู่สาธารณชน แต่เรื่องที่ไม่เปิดเผยล่ะ..มีไหม?
เพราะตอนนั้นอำนาจรัฐยังอยู่ในกำมือ ของ “เหลี่ยม-กับ-ปูจ๋า” อย่างเป็นทางการ บรรดาข้าราชการในขณะนั้นจึงมีความคิด และการกระทำหลายรูปแบบ บ้างยัง “เหยียบเรือสองแคม” บ้างต้อง “ลับ-ล้วง-ลวง-พราง” เพื่อรอซ้ำเติมยามรัฐบาลอ่อนปวกเปียก บ้างเผยตัวตนต่อสู้ร่วมกับ กกปส. อย่างกล้าหาญ ฯลฯ
ส่วน “ฝัน” ของ “เทพเทือก” ตอนต้นนั้น ตรงกับ “หล่อจ้อเก่ง” และอีกหลายคนใน ปชป. เมื่อผู้คนออกมาชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ จากหมื่นเป็นแสน-เป็นล้านๆ “ฝัน” ของ “เทพเทือก” จึงค่อยๆ “ดังแล้วแยกวง”
อ่านต่อตอนสี่...