“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต สันดานผู้นำและกลุ่มทุนสามานย์ ของชาติมหาอำนาจที่ละโมบไม่รู้จักพอ ไม่เคยหยุดหาและล่าผลประโยชน์จากชาติที่อ่อนแอกว่า!...
ชาติ-คือ-คนจำนวนมากที่อยู่ในชาตินั้นๆ
คนในทุกชาติ-มีทั้งคนทำดีคนทำชั่วอยู่ปนกัน ดังนั้น ทุกชาติจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติ และต้องกีดกันมิให้คนชั่วได้ขึ้นปกครองชาติโดยเด็ดขาด
เพราะมีรูปธรรมมากมายให้เห็นแล้วว่า ชาติใดที่คนชั่วขึ้นปกครองบ้านเมือง คุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ฯลฯ ค่านิยมที่ดีในสังคมจะเสื่อมทราม สังคมเต็มไปด้วยความอยุติธรรม เต็มไปด้วยการละเมิดกฎหมาย คนทำดีได้ดีมีให้เห็นน้อยมาก แต่คนทำชั่วได้ดีมีให้เห็นถมไป
ดังนั้น ชาติที่กลุ่มทุนนิยมสามานย์บงการ หรือยึดครองอำนาจรัฐได้ จะมีแต่นักการเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้านักธุรกิจ-นักวิชาการ-สื่อมวลชนชั่วๆ ที่เป็นคนส่วนน้อย เห็น“เงินเป็นพระเจ้า”ได้เป็นใหญ่ รวยอู้ฟู่อยู่ในชาติมหาอำนาจ-ชาติระดับกลาง-ชาติเล็กๆ
กลุ่มทุนสามานย์ที่ละโมบไม่รู้จักพอ จะบงการรัฐบาลที่รับใช้พวกเขา ออกล่าทรัพยากรอันมีค่า และปกป้องผลประโยชน์ที่ปล้นจากชาติอ่อนแอกว่า เพื่อเพิ่มความร่ำรวยให้ตนและพวกพ้อง ด้วยข้ออ้างที่โกหกหลอกลวงว่า การไปปล้นทรัพยากร-ไปบงการ-ไปล้มล้าง หรือไปยึดครองชาติอ่อนแอกว่าของพวกเขา เป็นการทำเพื่อความมั่งคั่งมั่นคงของ “ชาติ” ตน
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว งบประมาณชาติ-ทหารของชาติ-ประชาชนในชาติ ล้วนถูกใช้ให้ไปรบไปตายเพื่อให้กลุ่มผู้มีอำนาจและกลุ่มทุนสามานย์ เพียงไม่กี่คนให้ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง
ยุคแรกของการล่าอาณานิคม ชาติที่มี “เรือปืน” อย่าง อังกฤษ-ฝรั่งเศส-โปรตุเกส-ฮอลันดา-สเปน จะขนทหารชาติของตนลงเรือได้น้อยมาก การปกครองอาณานิคมจึงมีทั้งใช้ คนของตนขึ้นปกครองบ้าง ใช้คนชั่วในชาตินั้นขึ้นปกครองบ้าง ให้คนชั่วจากชาติอื่นมาปกครองบ้าง ฯลฯ
เรียกว่า..พวกชาตินักล่าอาณานิคม มักจะใช้คนที่ไม่ถูกกัน-ต่างศาสนา-ต่างนิกาย-ต่างเผ่าพันธุ์ ฯลฯ มาปกครองกดขี่ข่มเหงคนในชาติ ที่ตกเป็นอาณานิคมอย่างป่าเถื่อนมาตลอด
ดังนั้น นอกจากคนจากชาติตะวันตก จะฆ่าคนในชาติที่ตนยึดครองแล้ว นักล่าอาณานิคมทั้งหลาย ยังใช้วิธีแบ่งแยกแล้วปกครอง ด้วยการทำให้คนชาติเดียวกันฆ่ากันเอง เช่น คนจีน-คนอินเดีย-คนพม่า-คนเวียดนาม-คนเขมร ฯลฯ บางส่วน ที่ยอมตนเป็นขี้ข้าต่างชาติ ใช้อาวุธของต่างชาติเข่นฆ่า คนชาติเดียวกันที่รักชาติและต่อสู้เพื่อเอกราช
ยกตัวอย่างของอินเดียที่ถูกยึดครอง อังกฤษได้ตัดแบ่งแผ่นดินอินเดีย ตั้งเป็นประเทศ “ปากีสถาน”จนเกิดความขัดแย้งถึงขั้นรบพุ่ง ระหว่างอินเดียกับปากีสถานสี่ครั้ง สงครามอินเดียกับปากีสถาน ทำให้เกิดประเทศใหม่ที่ยากจนชื่อ “บังคลาเทศ” ซึ่งเป็นแผ่นดินถิ่นเกิดของชาว “โรฮีนจา” นั่นเอง
ที่สำคัญ อังกฤษนั่นแหละ ที่ขนชาวโรฮีนจามาเป็นกองกำลัง เข่นฆ่าชาวพม่าในยุคที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ เมื่ออังกฤษจำต้องทิ้งประเทศพม่า ชาวโรฮีนจาก็ถูกทิ้งไว้ในพม่าราว “ขยะ” โดยอังกฤษตัวต้นเหตุผู้สร้างปัญหา มิได้รับผิดชอบต่อชาวโรฮีนจา ต่อพม่า-ไทย-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย และต่อโลกแต่อย่างใดทั้งสิ้นทั้งในอดีตตราบปัจจุบัน
เมื่ออเมริกาก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำมาเฟียโลก” ภายใต้การบงการของกลุ่มทุนสามานย์ ขบวนการล่าอาณานิคมชาวตะวันตกทั้งหลาย ก็ยังใช้อาวุธที่เหนือกว่าปล้นชาติอื่นๆ ที่อ่อนแอกว่าอย่างป่าเถื่อนเหมือนเดิม
หลายเหตุการณ์ใหญ่ๆที่เกิดขึ้นในโลก ล้วนเกิดจากการกระทำของมะกันกับพวก ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม-ไม่มากก็น้อยเสมอ เมื่อสาวลึกถึงเบื้องหลังจะพบว่า มีผลประโยชน์ของมะกัน และชาติตะวันตกแอบแฝงอยู่ด้วยทั้งสิ้น เช่น สงครามในอินโดจีน-อิรัก-อัฟกานิสถาน-ลิเบีย-ซีเรีย ฯลฯ
มะกันมักสร้างเรื่องโกหกอย่างหน้าด้านๆ เพื่อล้มล้างรัฐบาลชาติที่เห็นต่างกับตนเสมอ เช่น ใช้สื่อโกหกว่าอิรักมีอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นอันตรายต่อสันติภาพโลก ก่อนที่รัฐบาลมะกันและชาติตะวันตก จะใช้เงินงบประมาณของประชาชน ส่งเยาวชนจากประเทศของพวกตน ไปสู้รบ-ไปตาย-ไปฆ่าทหารและประชาชนชาวอิรัก
โดยมะกันและชาติตะวันตก ได้ส่งทหารเข้ายึดประเทศอิรัก ก่อนจะใช้คนอิรักที่เป็นขี้ข้ามะกัน เข่นฆ่าผู้นำและชาวอิรักอย่างป่าเถื่อน มะกันทำให้คนอิรักฆ่าคนอิรักในประเทศอิรัก แล้วมะกันก็ขนน้ำมันของอิรักออกขายในตลาดโลก โกยเงินไปอย่างหน้าด้านๆ โดยอ้างว่า..เป็นค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม ที่เข่นฆ่าคนอิรักและยึดชาติอิรักนั่นเอง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ มะกันยังไม่เคยค้นพบอาวุธนิวเคลียร์ ในประเทศอิรักได้เลยสักลูก แต่ผู้นำ-นักการเมือง-สื่อมวลชนมะกัน ฯลฯ ที่ให้ร้ายป้ายสีอิรัก และสนับสนุนการทำสงครามบุกยึดอิรัก ยังไม่เคยขอโทษ ไม่เคยรับผิดชอบกับการโกหกในครั้งนั้นแม้แต่น้อย
ที่สำคัญ..มะกันยังขายน้ำมันของอิรัก และบงการรัฐบาลอิรักอยู่จนทุกวันนี้!
สงครามใหญ่น้อยที่มะกันก่อขึ้นทั้งลับและเปิดเผย ได้ทำให้ผู้คนต้องตายก่อนวัยอันสมควรไปแล้วนับแสน-นับล้าน-นับล้านๆคน ฯลฯ โดยผู้คนไม่เคยรู้ต้นเหตุที่แท้จริงว่า ทุกสงครามมีอภิมหาเศรษฐี ทั้งมะกันและชาติตะวันตก ได้ทรัพย์สินเงินทองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้..การล่าอาณานิคมยังใช้ “เรือปืน” แต่เป็นเรือปืนเหนือน้ำและใต้น้ำที่ทันสมัย แถมมีเครื่องบิน-รถถัง-กองทัพมนุษย์ ที่พรั่งพร้อมด้วยอาวุธทรงอานุภาพ สามารถทำลายล้างศัตรูได้ครั้งละมหาศาล ในนาม “นิวเคลียร์” ซึ่งมะกันได้ทดลองใช้จริงมาแล้วสองลูก ในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นตายไปหลายแสนคน
ในอดีตโลกมีชาติมหาอำนาจสองฝ่าย “ค่ายโลกเสรี” นำโดยอเมริกา “ค่ายโลกคอมมิวนิสต์” มีโซเวียตและจีนเป็นแกนนำ โดยทั้งสองค่ายได้ต่อสู้ช่วงชิงความได้เปรียบ ทั้งด้านผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และทางการเมืองกันอย่างดุเดือด จนเกิดความตึงเครียดในหลายเหตุการณ์ ทำเอาคอการเมืองโลกหวั่นเกรงกันว่า จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม
แต่แล้ว..โซเวียตก็พ่ายกลเกมการเมือง ของมะกันและชาติตะวันตกแบบฉับพลัน ทำให้รัฐคอมมิวนิสต์แห่งแรกของโลก ที่ “เลนิน” สร้างไว้หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ถูกกัดกร่อนให้อ่อนแอลงทีละน้อย จนพังครืนลงอย่างไม่คาดฝัน
หลังจากนั้น..แผ่นดินของโซเวียต ได้เกิดประเทศใหม่ๆขึ้นหลายแห่ง และโซเวียตได้กลับมาใช้นามรัสเซียดังเดิม รัสเซียตั้งหลักและมีบทบาทโดดเด่น ในเวทีการเมืองโลกได้อีกครั้ง ยุค “ปูติน” ขึ้นปกครองรัสเซีย โดย “หมีขาว”ได้จับมือกับ “มังกร” เผชิญหน้ากับ “อินทรี”และพวกอยู่ในทุกวันนี้
สถานการณ์โลกยุคดิจิตอลขณะนี้ จีนแซงมะกันขึ้นเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ ติดอันดับหนึ่งของโลก และจีนกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของมะกันอีกด้วย แต่น่าตลกตรงที่ จีนก็เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของมะกัน ในขณะเดียวกันยังเป็นชาติคู่แข่งที่สำคัญของมะกัน ในการล่าทรัพยากรสำคัญๆ ทางอุตสาหกรรม-ทางพลังงาน-ทางการทหาร ฯลฯ
ความโลภไม่รู้จักพอของกลุ่มทุนสามานย์ไม่กี่คน ในชาติมหาอำนาจนั่นแหละ ยังทำให้คนอาหรับฆ่าคนอาหรับ ยังทำให้คนเอเซียฆ่าคนเอเซีย ยังคงทำให้คนอัฟริกันฆ่าคนอัฟริกัน ยังทำให้คนละตินอเมริกาฆ่าคนละตินอเมริกา แถมยังทำให้คนในชาติมหาอำนาจ ฆ่าคนในชาติมหาอำนาจด้วยกันเองอีกด้วย
โลกมนุษย์จึงไร้สันติสุข และมีแต่สงครามที่ถูกก่อขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ามิรู้จบ โดยคนโลภมากไม่รู้จักพอเพียงไม่กี่คน
มนุษย์ที่ดีทุกชาติจึงมีภารกิจสำคัญ ในการทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติ มิใช่เปิดช่องให้คนชั่วได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง
คำถาม-คือ-เมื่อไหร่? และใคร? จะทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติไทย?