“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ผู้นำชาติที่ดีนั้น ใจ-ต้องมี-ธรรม กว้างไพศาลกว่า “มหาสมุทร”
ผู้นำชาติที่ดี-ต้องเป็นคนดี-ต้องมีสติปัญญา-ต้องไร้อคติ-ต้องไม่หลงตัวเอง ต้องฉลาดกับการแยกแยะ คำชมจริงใจ-กับ-คำชมสอพลอ คำติสร้างสรรค์-กับ-คำติทำลายล้าง ต้องรู้อะไรควร-อะไรไม่ควร อะไรถูก-อะไรผิด ที่สำคัญ-ต้องกล้าส่งเสริมคนดี-กีดกันคนชั่วทุกมิติ ฯลฯ
เป็นผู้นำชาติที่ดี-เหมือนยาก-แต่-ไม่ยาก ถ้าผู้นำชาติคนนั้นทำเพื่อชาติและประชาชน มิใช่ทำเพื่อตนและพวกพ้อง!
ผู้นำชาติ-จึงมีหลายชนิด ดีมาก-ดีปานกลาง-ดีน้อย-ดีน้อยมาก แต่ผู้นำชาติที่หาดีไม่เจอนั้น..ไม่มี..!
โลกนี้ไม่มีอะไรที่ “ขาวร้อย-ดำร้อย” ไม่มี “สาวสวย”และ“หนุ่มหล่อ” คนใดจะไร้ที่ติเช่นกัน
ดังนั้น จึงไม่มีมนุษย์คนไหน “ชั่วเต็มร้อย” หรือ “ดีเต็มร้อย” เชื่อเถอะ “คนโคตรดี” ต้องเคยทำผิดพลาดบ้างในบางเรื่อง “คนโคตรชั่ว” ก็ต้องเคยทำดีในบางอย่าง..จริงไหม?
ไม่มีใครบ้าจนไร้เหตุผลว่า ยุค “เหลี่ยม” เป็นผู้นำชาติไทยนั้น ควานหาเรื่องดีๆไม่พบแม้แต่กระผีกริ้น หรือ “เหลี่ยม” มีแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์ไปหมดเสียทุกอณู
ทว่า..ยุค“เหลี่ยม” น่ะ..ชอบทำเรื่องที่ขึ้นต้นเป็น “ลำไม้ไผ่” แต่พอ “เหลี่ยม”กับพวก “ลงมือเหลา” ก็กลายเป็น “บ้องกัญชา” ไปเสียดื้อๆเสมอ
“เหลี่ยม” เป็นบุคคลแรก ที่ “หาเสียง” ด้วยการนำเงินงบประมาณแผ่นดิน มาล่อซื้อคะแนนเสียง ด้วยโครงการประชานิยมมากมาย ดังนั้น ทั้งในยุคของรัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่าย จึงมีโครงการประชานิยมที่โฆษณาชวนเชื่อว่า “ทำเพื่อชาติและประชาชน”
แต่เมื่อรัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่ายลงมือทำ มักกลายเป็นการผลาญและโกงเงินรัฐเสมอ จนเป็นโครงการประชานิยมที่ได้ไม่คุ้มเสียแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะตัวอย่างโครงการประชานิยม ที่รัฐบาล “พี่คิด-น้องทำ” ที่เรียกว่า “จำนำข้าว”นั้น-ชั่วร้ายที่สุด
โครงการประชานิยมนี้ มีการผลาญและโกงเงินรัฐกว่า 6 แสนล้านบาท ทำกันแค่ 2 ปีเท่านั้น ได้ทำลาย “เศรษฐกิจกระดูกสันหลังของชาติ” พังยับเยิน จนข้าวไทยที่ติดอันดับ 1 ของโลก ทั้งคุณภาพและยอดขายมายาวนาน ต้องพ่ายต่อประเทศอื่นมาจนทุกวันนี้
นอกจากนั้น..โครงการประชานิยม ของรัฐบาลทักษิณและเครือข่าย ล้วนส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจชาติและประชาชน ทั้งในระยะสั้น-กลาง-ยาวแทบทั้งสิ้นอีกด้วย
โครงการประชานิยมมิได้เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และแก้ปัญหาเศรษฐกิจชาติ ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวมหรือเพื่อชาติอย่างแท้จริง แถมบางโครงการยังเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกลุ่มคน ที่เป็นนักการเมืองและหัวคะแนน ฯลฯ ของกลุ่มการเมืองทุนสามานย์เท่านั้น
โครงการประชานิยมของรัฐบาลเหลี่ยม จึงเป็นแค่หนึ่งใน“เครื่องมือ”หาคะแนนเสียง ของพรรคการเมืองทุนสามานย์ และเป็น “ลูกอมเคลือบยาพิษ” ที่ทุนสามานย์ทางการเมืองกลุ่มหนึ่ง หยิบยื่นให้ชาติกับประชาชนคนไทย “กินเพื่อตาย”นั่นเอง!
นั่นยังไม่รวมผลงานชั่วๆ ในการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐ จนเกิดการเมืองระบอบ “คณา-ธนา-โจราธิปไตย” ที่ทำลายประชาธิปไตยแบบตะวันตกจนพังยับเยิน แถมเหลี่ยมยังใช้อำนาจรัฐไปคอร์รัปชั่นโกงชาติอีกด้วย
ดังนั้น ในยุครัฐบาลทักษิณและเครือข่าย จึงมีผลงานคอร์รัปชั่นโกงชาติ เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วน
ตามด้วยผลงานโค่นล้มรัฐบาล “หล่อหน่อมแน้ม” ด้วยความรุนแรง ทั้งล้มการประชุมอาเซียนบวกหก ก่อการจลาจลเผาเมือง จนถึงขั้นใช้อาวุธสงครามฆ่าทหารกับประชาชน ฯลฯ
แต่ผลงานชั่วอมตะนิรันดร์กาล คือ “เหลี่ยม” สนับสนุนให้พรรคพวกตน ปฏิบัติการ “ล้มเจ้า” อย่างเป็นขบวนการ หวังจะโค่นล้มพระมหากษัตริย์ไทย ที่ปวงชนชาวไทยรักเทิดทูนยิ่งชีวิต
โดยเหลี่ยมกับพวกหวังล้มล้างรัฐไทยปัจจุบัน แล้วสร้างรัฐไทยใหม่ เลียนแบบตะวันตกทั้งดุ้นนั่นเอง!
ยุค “เหลี่ยม” เป็นผู้นำชาติไทย มีทั้งอำนาจรัฐและเงินล้นฟ้า ฯพณฯ เหลี่ยมได้ใช้สื่อรัฐและจ้างสื่อเอกชนขายตัว โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้รัฐบาลและตนเองสะบั้นหั่นแหลก
นายกฯมหาเศรษฐีรายนี้ ยังเป็นผู้ริเริ่มรายการ “นายกฯ-คุยกับประชาชน” โดยใช้สื่อของรัฐเพื่อ “โฆษณาเกินจริง” อยู่ข้างเดียว เพราะนายกฯผู้นี้จ้อเก่งไม่แพ้ใครในใต้หล้า จ้อเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยชนิด “ลิงทั้งฝูงหลับตกต้นไม้” ได้เป็นชั่วโมงๆ
ทว่า..แม้ “เหลี่ยม” จะชักแม่น้ำทั้งห้า-ยกทะเลทั้งหก-อ้างมหาสมุทรทั้งโลก มาโฆษณาตัวเองเกินจริงต่อคนไทยว่า ตน-มีผลงานเลอเลิศประเสริฐศรีมากมายนะ ตน-ทำให้ประชาชีมั่งมีศรีสุขนะ ตน-ทำชาติไทยเจริญรุ่งเรืองชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน ฯลฯ
ทุกเช้าวันเสาร์..ท่านผู้นำชาติ “เหลี่ยม” จะโม้อุตลุด โม้ว่า..ไม่เคยคอร์รัปชั่นอีกด้วย แต่สื่อมวลชนที่ดีและรักชาติ ได้รายงานข่าวการคอร์รัปชั่น ของเหลี่ยมกับพวกอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความชั่วเหลี่ยมจนหมดเปลือก โดยเหลี่ยมที่โลภไม่รู้จักพอ พยายามจะใช้ “ใบบัว-ปิดช้างตายทั้งตัว” ตลอด
หลังสิ้นอำนาจ-ความจริงก็โผล่ เหลี่ยมถูกยึดเงินเข้ารัฐ 46,000 กว่าล้านบาท เพราะแจงที่ไปที่มาของเงินมหาศาลนี้ไม่ได้ นั่นยังไม่รวมทรัพย์สินเงินทองที่ไม่โปร่งใสอีกมากมาย
เมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว ต้องถือว่ารัฐบาลเหลี่ยมกับเครือข่าย ได้สร้างผลงานชั่วช้าสามานย์ไว้มากมาย ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในชาติไทย จนเกิดการชุมนุมผู้คนขับไล่ รัฐบาลชั่วๆ ของเหลี่ยมอย่างยืดเยื้อยาวนาน จนเกิดการรัฐประหารโค่นล้ม รัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่าย ถึง 2 ครั้ง 2 ครา
คำถาม-ผลงานรัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย..ดีหรือเลวมากกว่ากัน? คำตอบ-ฟันธงเปรี้ยงได้เลยว่า “เหลี่ยม” ทำเรื่องชั่วทางการเมือง ให้ไว้กับชาติมากมายเหลือเกิน จนกลบเรื่องดีๆ ที่มีแค่น้อยนิด ของ “เหลี่ยม” จมหายไปในธรณีเลยล่ะ
เรียกว่า.. “เหลี่ยม” ทำชั่ว-ทำผิด ฯลฯ จนยากที่จะกลับมาตายบนแผ่นดินไทยเสียแล้ว!
บทเรียนจริงของการเมืองไทย ที่ผ่านมาในหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะในยุครัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่าย เผยให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ผู้นำชาติไทยหน้าไหนก็ตาม อย่าบังอาจมองข้ามหยามหมิ่น สถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชนอย่างเด็ดขาด เพราะ “อำนาจ” นั้นไม่จีรังยั่งยืนเท่า-ความดี
บัดนี้-ประชาชนคนไทยชาญฉลาด รู้เท่าทันความกะล่อนของผู้นำชาติแล้ว ดังนั้น จงอย่าพูดดูถูกความรู้ของผู้คนที่รักชาติ จงอย่าบิดพลิ้วในการขจัดต้นเหตุปัญหาชาติ ที่ก่อวิกฤตชาติร้ายแรงอยู่ในทุกวันนี้ ที่สำคัญต้องทำเพื่อชาติและประชาชน อย่าทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง อย่าใช้อำนาจรัฐไปกอบโกยผลประโยชน์ชาติอย่างผิดๆ เด็ดขาด
ผู้นำชาติไทยบางคนทำเลวมากกว่าทำดี จึงต้องหนีออกจากแผ่นดินถิ่นเกิด ไปตายอยู่ในต่างแดนอย่างน่าเวทนา แต่อีกหลายคนเป็นผู้นำชาติที่ดี จึงได้รับการเคารพสรรเสริญ จากคนไทยทั้งชาติมิรู้ลืมตราบทุกวันนี้ เช่น
นายกฯ พลเรือน อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ และ นายกฯ ทหาร พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่ผู้นำชาติในวันนี้และวันหน้า ต้องถือเป็นแบบอย่างของ “คนทำงาน” ที่ทำเพื่อชาติอย่างแท้จริงด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ดังนั้น ถ้าจะเป็นผู้นำชาติที่ดี ต้องซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติ ด้วยการลงมือแก้ไขต้นเหตุปัญหาชาติให้สำเร็จ อย่าใช้อำนาจพิเศษและเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการแก้ปัญหาทั่วๆไป ที่มิใช่แก่นแกนปัญหาชาติเด็ดขาด
โอกาสทอง-ทางการเมืองของชาตินั้น มิใช่ฤดูกาลที่ผ่านไปแล้วหวนกลับมาได้
โอกาสทอง-ที่จะได้เป็นผู้นำชาติไทย สำหรับคนๆหนึ่งมิใช่เกิดขึ้นง่ายๆ จึงต้องใช้อำนาจที่มีทำความดีให้ชาติ ผู้นำชาติต้องมิใช่คนทำให้ “เสียของ” และกลายเป็น “ของเสีย” ของชาติเสียเอง
โอกาสทองแบบนี้-เป็นโอกาสทองของการทำดี อยากให้คนทั้งชาติสรรเสริญ “ท่านผู้นำที่ดีของชาติ” ชั่วนิรันดร์กาล..ไหมล่ะ?
บทเรียนจริงจาก “เหลี่ยม” สอน“ผู้นำบางคน” ว่า ทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว..นะโว้ย..!
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ผู้นำชาติที่ดีนั้น ใจ-ต้องมี-ธรรม กว้างไพศาลกว่า “มหาสมุทร”
ผู้นำชาติที่ดี-ต้องเป็นคนดี-ต้องมีสติปัญญา-ต้องไร้อคติ-ต้องไม่หลงตัวเอง ต้องฉลาดกับการแยกแยะ คำชมจริงใจ-กับ-คำชมสอพลอ คำติสร้างสรรค์-กับ-คำติทำลายล้าง ต้องรู้อะไรควร-อะไรไม่ควร อะไรถูก-อะไรผิด ที่สำคัญ-ต้องกล้าส่งเสริมคนดี-กีดกันคนชั่วทุกมิติ ฯลฯ
เป็นผู้นำชาติที่ดี-เหมือนยาก-แต่-ไม่ยาก ถ้าผู้นำชาติคนนั้นทำเพื่อชาติและประชาชน มิใช่ทำเพื่อตนและพวกพ้อง!
ผู้นำชาติ-จึงมีหลายชนิด ดีมาก-ดีปานกลาง-ดีน้อย-ดีน้อยมาก แต่ผู้นำชาติที่หาดีไม่เจอนั้น..ไม่มี..!
โลกนี้ไม่มีอะไรที่ “ขาวร้อย-ดำร้อย” ไม่มี “สาวสวย”และ“หนุ่มหล่อ” คนใดจะไร้ที่ติเช่นกัน
ดังนั้น จึงไม่มีมนุษย์คนไหน “ชั่วเต็มร้อย” หรือ “ดีเต็มร้อย” เชื่อเถอะ “คนโคตรดี” ต้องเคยทำผิดพลาดบ้างในบางเรื่อง “คนโคตรชั่ว” ก็ต้องเคยทำดีในบางอย่าง..จริงไหม?
ไม่มีใครบ้าจนไร้เหตุผลว่า ยุค “เหลี่ยม” เป็นผู้นำชาติไทยนั้น ควานหาเรื่องดีๆไม่พบแม้แต่กระผีกริ้น หรือ “เหลี่ยม” มีแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์ไปหมดเสียทุกอณู
ทว่า..ยุค“เหลี่ยม” น่ะ..ชอบทำเรื่องที่ขึ้นต้นเป็น “ลำไม้ไผ่” แต่พอ “เหลี่ยม”กับพวก “ลงมือเหลา” ก็กลายเป็น “บ้องกัญชา” ไปเสียดื้อๆเสมอ
“เหลี่ยม” เป็นบุคคลแรก ที่ “หาเสียง” ด้วยการนำเงินงบประมาณแผ่นดิน มาล่อซื้อคะแนนเสียง ด้วยโครงการประชานิยมมากมาย ดังนั้น ทั้งในยุคของรัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่าย จึงมีโครงการประชานิยมที่โฆษณาชวนเชื่อว่า “ทำเพื่อชาติและประชาชน”
แต่เมื่อรัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่ายลงมือทำ มักกลายเป็นการผลาญและโกงเงินรัฐเสมอ จนเป็นโครงการประชานิยมที่ได้ไม่คุ้มเสียแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะตัวอย่างโครงการประชานิยม ที่รัฐบาล “พี่คิด-น้องทำ” ที่เรียกว่า “จำนำข้าว”นั้น-ชั่วร้ายที่สุด
โครงการประชานิยมนี้ มีการผลาญและโกงเงินรัฐกว่า 6 แสนล้านบาท ทำกันแค่ 2 ปีเท่านั้น ได้ทำลาย “เศรษฐกิจกระดูกสันหลังของชาติ” พังยับเยิน จนข้าวไทยที่ติดอันดับ 1 ของโลก ทั้งคุณภาพและยอดขายมายาวนาน ต้องพ่ายต่อประเทศอื่นมาจนทุกวันนี้
นอกจากนั้น..โครงการประชานิยม ของรัฐบาลทักษิณและเครือข่าย ล้วนส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจชาติและประชาชน ทั้งในระยะสั้น-กลาง-ยาวแทบทั้งสิ้นอีกด้วย
โครงการประชานิยมมิได้เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และแก้ปัญหาเศรษฐกิจชาติ ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวมหรือเพื่อชาติอย่างแท้จริง แถมบางโครงการยังเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกลุ่มคน ที่เป็นนักการเมืองและหัวคะแนน ฯลฯ ของกลุ่มการเมืองทุนสามานย์เท่านั้น
โครงการประชานิยมของรัฐบาลเหลี่ยม จึงเป็นแค่หนึ่งใน“เครื่องมือ”หาคะแนนเสียง ของพรรคการเมืองทุนสามานย์ และเป็น “ลูกอมเคลือบยาพิษ” ที่ทุนสามานย์ทางการเมืองกลุ่มหนึ่ง หยิบยื่นให้ชาติกับประชาชนคนไทย “กินเพื่อตาย”นั่นเอง!
นั่นยังไม่รวมผลงานชั่วๆ ในการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐ จนเกิดการเมืองระบอบ “คณา-ธนา-โจราธิปไตย” ที่ทำลายประชาธิปไตยแบบตะวันตกจนพังยับเยิน แถมเหลี่ยมยังใช้อำนาจรัฐไปคอร์รัปชั่นโกงชาติอีกด้วย
ดังนั้น ในยุครัฐบาลทักษิณและเครือข่าย จึงมีผลงานคอร์รัปชั่นโกงชาติ เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วน
ตามด้วยผลงานโค่นล้มรัฐบาล “หล่อหน่อมแน้ม” ด้วยความรุนแรง ทั้งล้มการประชุมอาเซียนบวกหก ก่อการจลาจลเผาเมือง จนถึงขั้นใช้อาวุธสงครามฆ่าทหารกับประชาชน ฯลฯ
แต่ผลงานชั่วอมตะนิรันดร์กาล คือ “เหลี่ยม” สนับสนุนให้พรรคพวกตน ปฏิบัติการ “ล้มเจ้า” อย่างเป็นขบวนการ หวังจะโค่นล้มพระมหากษัตริย์ไทย ที่ปวงชนชาวไทยรักเทิดทูนยิ่งชีวิต
โดยเหลี่ยมกับพวกหวังล้มล้างรัฐไทยปัจจุบัน แล้วสร้างรัฐไทยใหม่ เลียนแบบตะวันตกทั้งดุ้นนั่นเอง!
ยุค “เหลี่ยม” เป็นผู้นำชาติไทย มีทั้งอำนาจรัฐและเงินล้นฟ้า ฯพณฯ เหลี่ยมได้ใช้สื่อรัฐและจ้างสื่อเอกชนขายตัว โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้รัฐบาลและตนเองสะบั้นหั่นแหลก
นายกฯมหาเศรษฐีรายนี้ ยังเป็นผู้ริเริ่มรายการ “นายกฯ-คุยกับประชาชน” โดยใช้สื่อของรัฐเพื่อ “โฆษณาเกินจริง” อยู่ข้างเดียว เพราะนายกฯผู้นี้จ้อเก่งไม่แพ้ใครในใต้หล้า จ้อเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยชนิด “ลิงทั้งฝูงหลับตกต้นไม้” ได้เป็นชั่วโมงๆ
ทว่า..แม้ “เหลี่ยม” จะชักแม่น้ำทั้งห้า-ยกทะเลทั้งหก-อ้างมหาสมุทรทั้งโลก มาโฆษณาตัวเองเกินจริงต่อคนไทยว่า ตน-มีผลงานเลอเลิศประเสริฐศรีมากมายนะ ตน-ทำให้ประชาชีมั่งมีศรีสุขนะ ตน-ทำชาติไทยเจริญรุ่งเรืองชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน ฯลฯ
ทุกเช้าวันเสาร์..ท่านผู้นำชาติ “เหลี่ยม” จะโม้อุตลุด โม้ว่า..ไม่เคยคอร์รัปชั่นอีกด้วย แต่สื่อมวลชนที่ดีและรักชาติ ได้รายงานข่าวการคอร์รัปชั่น ของเหลี่ยมกับพวกอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความชั่วเหลี่ยมจนหมดเปลือก โดยเหลี่ยมที่โลภไม่รู้จักพอ พยายามจะใช้ “ใบบัว-ปิดช้างตายทั้งตัว” ตลอด
หลังสิ้นอำนาจ-ความจริงก็โผล่ เหลี่ยมถูกยึดเงินเข้ารัฐ 46,000 กว่าล้านบาท เพราะแจงที่ไปที่มาของเงินมหาศาลนี้ไม่ได้ นั่นยังไม่รวมทรัพย์สินเงินทองที่ไม่โปร่งใสอีกมากมาย
เมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว ต้องถือว่ารัฐบาลเหลี่ยมกับเครือข่าย ได้สร้างผลงานชั่วช้าสามานย์ไว้มากมาย ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในชาติไทย จนเกิดการชุมนุมผู้คนขับไล่ รัฐบาลชั่วๆ ของเหลี่ยมอย่างยืดเยื้อยาวนาน จนเกิดการรัฐประหารโค่นล้ม รัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่าย ถึง 2 ครั้ง 2 ครา
คำถาม-ผลงานรัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย..ดีหรือเลวมากกว่ากัน? คำตอบ-ฟันธงเปรี้ยงได้เลยว่า “เหลี่ยม” ทำเรื่องชั่วทางการเมือง ให้ไว้กับชาติมากมายเหลือเกิน จนกลบเรื่องดีๆ ที่มีแค่น้อยนิด ของ “เหลี่ยม” จมหายไปในธรณีเลยล่ะ
เรียกว่า.. “เหลี่ยม” ทำชั่ว-ทำผิด ฯลฯ จนยากที่จะกลับมาตายบนแผ่นดินไทยเสียแล้ว!
บทเรียนจริงของการเมืองไทย ที่ผ่านมาในหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะในยุครัฐบาลเหลี่ยมและเครือข่าย เผยให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ผู้นำชาติไทยหน้าไหนก็ตาม อย่าบังอาจมองข้ามหยามหมิ่น สถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชนอย่างเด็ดขาด เพราะ “อำนาจ” นั้นไม่จีรังยั่งยืนเท่า-ความดี
บัดนี้-ประชาชนคนไทยชาญฉลาด รู้เท่าทันความกะล่อนของผู้นำชาติแล้ว ดังนั้น จงอย่าพูดดูถูกความรู้ของผู้คนที่รักชาติ จงอย่าบิดพลิ้วในการขจัดต้นเหตุปัญหาชาติ ที่ก่อวิกฤตชาติร้ายแรงอยู่ในทุกวันนี้ ที่สำคัญต้องทำเพื่อชาติและประชาชน อย่าทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง อย่าใช้อำนาจรัฐไปกอบโกยผลประโยชน์ชาติอย่างผิดๆ เด็ดขาด
ผู้นำชาติไทยบางคนทำเลวมากกว่าทำดี จึงต้องหนีออกจากแผ่นดินถิ่นเกิด ไปตายอยู่ในต่างแดนอย่างน่าเวทนา แต่อีกหลายคนเป็นผู้นำชาติที่ดี จึงได้รับการเคารพสรรเสริญ จากคนไทยทั้งชาติมิรู้ลืมตราบทุกวันนี้ เช่น
นายกฯ พลเรือน อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ และ นายกฯ ทหาร พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่ผู้นำชาติในวันนี้และวันหน้า ต้องถือเป็นแบบอย่างของ “คนทำงาน” ที่ทำเพื่อชาติอย่างแท้จริงด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ดังนั้น ถ้าจะเป็นผู้นำชาติที่ดี ต้องซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติ ด้วยการลงมือแก้ไขต้นเหตุปัญหาชาติให้สำเร็จ อย่าใช้อำนาจพิเศษและเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการแก้ปัญหาทั่วๆไป ที่มิใช่แก่นแกนปัญหาชาติเด็ดขาด
โอกาสทอง-ทางการเมืองของชาตินั้น มิใช่ฤดูกาลที่ผ่านไปแล้วหวนกลับมาได้
โอกาสทอง-ที่จะได้เป็นผู้นำชาติไทย สำหรับคนๆหนึ่งมิใช่เกิดขึ้นง่ายๆ จึงต้องใช้อำนาจที่มีทำความดีให้ชาติ ผู้นำชาติต้องมิใช่คนทำให้ “เสียของ” และกลายเป็น “ของเสีย” ของชาติเสียเอง
โอกาสทองแบบนี้-เป็นโอกาสทองของการทำดี อยากให้คนทั้งชาติสรรเสริญ “ท่านผู้นำที่ดีของชาติ” ชั่วนิรันดร์กาล..ไหมล่ะ?
บทเรียนจริงจาก “เหลี่ยม” สอน“ผู้นำบางคน” ว่า ทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว..นะโว้ย..!