ASTVผู้จัดการรายวัน-“ฉัตรชัย”นัดประชุมผู้บริหารพาณิชย์วันนี้ เตรียมพิจารณาเป้าหมายส่งออกใหม่ จ่อปรับลดเหลือ 0%จากเป้าเดิม 1.2% มั่นใจมาตรการที่จะดำเนินการ ทำส่งออกครึ่งปีหลังกลับมาเป็นบวกได้ หลังผ่าน 6 เดือนส่งออกยังลบ 4.84%รับปากติดตามการประชุมบอร์ดการค้าระหว่างประเทศ หลังตั้งไปแล้ว ยังเงียบฉี่
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (5 ส.ค.) ได้นัดประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ โดยจะมีการพิจารณาการทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2558 ใหม่ หลังจากที่ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปหารือร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และให้ประเมินร่วมกับผู้ส่งออกในกลุ่มสินค้าต่างๆ แล้ว ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าการส่งออกในปีนี้น่าจะไม่ขยายตัว หรือเติบโตในระดับ 0%จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.2%
“ผมให้ไปประเมินว่าการส่งออกที่ขยายตัวติดลบในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะอะไร แล้วให้ประเมินอีกว่าแผนผลักดันการส่งออกที่จะดำเนินการในช่วง 6 เดือนหลัง จะทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตอนนี้ ส่งออกยังขยายตัวติดลบ แต่ถ้าเราทำงาน และทำให้ส่งออกช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นได้ ตัวเลขรวมทั้งปี ก็น่าจะดีขึ้นและอาจจะทำได้ที่ 0% ไม่น่าจะติดลบ”
ทั้งนี้ การส่งออกของไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวติดลบ 4.84% ก็ยังดีกว่าหลายประเทศที่ส่งออกติดลบมากกว่าไทย และที่สำคัญ ไทยยังสามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดต่างๆ เอาไว้ได้ ซึ่งจะต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้ได้ต่อไป ซึ่งถือเป็นแผนที่กระทรวงฯ จะให้ความสำคัญ
สำหรับกรณีที่เอกชนเรียกร้องให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาการส่งออก และจัดทำมาตรการในการผลักดันการส่งออกนั้น จะมีการติดตามให้ เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งไปแล้ว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวอีกว่า มีกำหนดการที่จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ปากีสถาน ระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 ส.ค.2558 โดยจะหารือถึงการผลักดันมูลค่าการค้าสองฝ่ายให้เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 และผลักดันให้เกิดความร่วมมือในสาขาที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ อาหาร เกษตรและประมง ยานยนต์และชิ้นส่วน และสิ่งทอ โดยไทยจะใช้ปากีสถานเป็นแหล่งวัตถุดิบอัญมณีและประมง และเป็นตลาดส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน
โดยในระหว่างการประชุม ไทยจะนำคณะนักธุรกิจประมาณ 20 ราย ในสาขาอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ทำความเย็น เครื่องสูบน้ำ เครื่องบำบัดน้ำเสีย เดินทางไปเจรจาการค้า และประชุมร่วมภาคธุรกิจควบคู่ไปกับการประชุมระดับรัฐมนตรีด้วย
ทางด้านการผลักดันการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว กระทรวงฯ ได้เชิญนางบุนเพ็ง มูนโพไซ รัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป.ลาว มาบรรยายพิเศษในหัวข้อเขตเศรษฐกิจพิเศษ สปป.ลาว โอกาสการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ในวันที่ 10 ส.ค.2558 เพื่อผลักดันให้เกิดการเข้าไปลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้การค้า การลงทุนชายแดนมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น.
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (5 ส.ค.) ได้นัดประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ โดยจะมีการพิจารณาการทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2558 ใหม่ หลังจากที่ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปหารือร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และให้ประเมินร่วมกับผู้ส่งออกในกลุ่มสินค้าต่างๆ แล้ว ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าการส่งออกในปีนี้น่าจะไม่ขยายตัว หรือเติบโตในระดับ 0%จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.2%
“ผมให้ไปประเมินว่าการส่งออกที่ขยายตัวติดลบในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะอะไร แล้วให้ประเมินอีกว่าแผนผลักดันการส่งออกที่จะดำเนินการในช่วง 6 เดือนหลัง จะทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตอนนี้ ส่งออกยังขยายตัวติดลบ แต่ถ้าเราทำงาน และทำให้ส่งออกช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นได้ ตัวเลขรวมทั้งปี ก็น่าจะดีขึ้นและอาจจะทำได้ที่ 0% ไม่น่าจะติดลบ”
ทั้งนี้ การส่งออกของไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวติดลบ 4.84% ก็ยังดีกว่าหลายประเทศที่ส่งออกติดลบมากกว่าไทย และที่สำคัญ ไทยยังสามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดต่างๆ เอาไว้ได้ ซึ่งจะต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้ได้ต่อไป ซึ่งถือเป็นแผนที่กระทรวงฯ จะให้ความสำคัญ
สำหรับกรณีที่เอกชนเรียกร้องให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาการส่งออก และจัดทำมาตรการในการผลักดันการส่งออกนั้น จะมีการติดตามให้ เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งไปแล้ว
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวอีกว่า มีกำหนดการที่จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ปากีสถาน ระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 ส.ค.2558 โดยจะหารือถึงการผลักดันมูลค่าการค้าสองฝ่ายให้เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 และผลักดันให้เกิดความร่วมมือในสาขาที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ อาหาร เกษตรและประมง ยานยนต์และชิ้นส่วน และสิ่งทอ โดยไทยจะใช้ปากีสถานเป็นแหล่งวัตถุดิบอัญมณีและประมง และเป็นตลาดส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน
โดยในระหว่างการประชุม ไทยจะนำคณะนักธุรกิจประมาณ 20 ราย ในสาขาอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ทำความเย็น เครื่องสูบน้ำ เครื่องบำบัดน้ำเสีย เดินทางไปเจรจาการค้า และประชุมร่วมภาคธุรกิจควบคู่ไปกับการประชุมระดับรัฐมนตรีด้วย
ทางด้านการผลักดันการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว กระทรวงฯ ได้เชิญนางบุนเพ็ง มูนโพไซ รัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป.ลาว มาบรรยายพิเศษในหัวข้อเขตเศรษฐกิจพิเศษ สปป.ลาว โอกาสการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ในวันที่ 10 ส.ค.2558 เพื่อผลักดันให้เกิดการเข้าไปลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้การค้า การลงทุนชายแดนมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น.