ASTVผู้จัดการรายวัน - รมว.คลังเข้าร่วมงานพบปะนักลงทุนต่างชาติที่กรุงลอนดอน ชี้แจงเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นภายหลังสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำและภาวะภัยแล้งในประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหา
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และคณะได้จัดงานพบปะนักลงทุนต่างชาติ (Roadshow) ร่วมกับสถาบัน Asia House เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยในรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมรับประทานอาหารเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะกับคณะนักลงทุนรายใหญ่ของสหราชอาณาจักรจำนวน 12 ราย ซึ่งครอบคลุมทั้งสถาบันการเงินและบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน
หลังจากนั้น ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาให้กับนักลงทุนจำนวนประมาณ 80 ราย โดยชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นภายหลังสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เป็นต้นมาขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ และภาวะภัยแล้งในประเทศซึ่งรัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
รัฐมนตรีคลังยังได้กล่าวถึงแผนปฏิรูปเศรษฐกิจหลักที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 ด้าน คือ 1. การปฏิรูปภาษีเพื่อเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งและเป็นธรรม อาทิ การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างถาวรมาอยู่ที่ร้อยละ 20 การลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง
2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง ลดปัญหาจราจร และเชื่อมโยงระบบคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน และได้เชิญชวนให้นักลงทุนมาร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางตรงผ่านการร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน และทางอ้อมผ่านการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 3. การขยายโอกาสการค้าการลงทุนจากไทยสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน โดยปรับปรุงสิทธิประโยชน์
"บีโอไอปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทางภาษีและสิทธิประโยชน์ที่มิใช่ภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งสำนักงานข้ามชาติ (IHQ) และศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศในไทย (ITC) ผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล และจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ (National Single Window) เพื่อลดขั้นตอนการทำธุรกิจและรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลกับภูมิภาคในอนาคต" นายสมหมายกล่าวและว่า ไทยมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอสหราชอาณาจักรและภูมิภาคยุโรป กิจกรรม Roadshow ครั้งนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยประสานประโยชน์และยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป.
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และคณะได้จัดงานพบปะนักลงทุนต่างชาติ (Roadshow) ร่วมกับสถาบัน Asia House เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยในรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมรับประทานอาหารเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะกับคณะนักลงทุนรายใหญ่ของสหราชอาณาจักรจำนวน 12 ราย ซึ่งครอบคลุมทั้งสถาบันการเงินและบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน
หลังจากนั้น ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาให้กับนักลงทุนจำนวนประมาณ 80 ราย โดยชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นภายหลังสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เป็นต้นมาขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ และภาวะภัยแล้งในประเทศซึ่งรัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
รัฐมนตรีคลังยังได้กล่าวถึงแผนปฏิรูปเศรษฐกิจหลักที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 ด้าน คือ 1. การปฏิรูปภาษีเพื่อเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งและเป็นธรรม อาทิ การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างถาวรมาอยู่ที่ร้อยละ 20 การลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง
2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง ลดปัญหาจราจร และเชื่อมโยงระบบคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน และได้เชิญชวนให้นักลงทุนมาร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางตรงผ่านการร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน และทางอ้อมผ่านการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 3. การขยายโอกาสการค้าการลงทุนจากไทยสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน โดยปรับปรุงสิทธิประโยชน์
"บีโอไอปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทางภาษีและสิทธิประโยชน์ที่มิใช่ภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งสำนักงานข้ามชาติ (IHQ) และศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศในไทย (ITC) ผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล และจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ (National Single Window) เพื่อลดขั้นตอนการทำธุรกิจและรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลกับภูมิภาคในอนาคต" นายสมหมายกล่าวและว่า ไทยมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอสหราชอาณาจักรและภูมิภาคยุโรป กิจกรรม Roadshow ครั้งนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยประสานประโยชน์และยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป.
