xs
xsm
sm
md
lg

เดินหน้าแผนปฏิรูปภาษี หวังปิดทางการใช้งบเพื่อประชานิยม มอบท้องถิ่นดูแลทั้งหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สปช.ด้านเศรษฐกิจแจงแผนเดินหน้าปฏิรูปภาษี หวังปิดทางการใช้งบเพื่อประชานิยม ส่วนการขยายฐานภาษี มอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีอำนาจจัดเก็บและพัฒนา

นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวระหว่างเปิดงานสัมมนา “ปฏิรูปเศรษฐกิจไทยสู่ประเทศพัฒนาแล้ว” โดยระบุว่า เสนอ สปช.พิจารณาการปฏิรูปด้านภาษีด้วยการแก้ไขประมวลรัษฎากรทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยการนำรายได้และรายจ่ายของบริษัทเท่านั้น เพราะปัจจุบันนำบริษัทในเครือและนิติบุคคลอื่นมารวมกัน รวมทั้งเงินได้บุคคลธรรมดา เช่น การหักค่าใช้จ่ายเงินได้จากการจ้างแรงงาน ถูกกำหนดให้เป็นอัตราเหมาจ่าย ทำให้ไม่สะท้อนรายได้แท้จริง และการปรับอัตราภาษีใหม่ เพื่อให้แข่งขันได้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยยึดรูปแบบของสิงคโปร์มีการปรับใช้ รวมทั้งการปฏิรูปค่าลดหย่อนด้านต่างๆ

รวมทั้งการยกร่างภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อต้องการแบ่งผู้รับบริการทั้งนิติบุคคลกับบุคคลธรรมดา การกำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มแบบขั้นบันได สถาบันการเงินควรเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเดียว การเพิ่มหมวดมาตราป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี พร้อมทั้งผลักดันภาษีสิ่งแวดล้อม ภาษีลาภลอย และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะหากนำที่ดินว่างเปล่าออกมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเต็มศักยภาพ และการเสนอจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์กลาง การมอบหมาย อปท.ในพื้นที่จัดเก็บภาษี เนื่องจากเป็นผู้รับมลภาวะที่ปล่อยในพื้นที่ ท้องถิ่นจึงควรเป็นผู้จัดเก็บ

รวมทั้งการออก พ.ร.บ.ว่าด้วยการคลังภาครัฐ เพื่อป้องกันการใช้งบประมาณไปในทางประชานิยม หรือการใช้เงินแบบกึ่งการคลัง ด้วยการใช้หน่วยงานอื่นใช้เงินแทนงบประมาณ โดยมีระบบป้องกันและกำกับดูแลสถาบันการเงินของรัฐ คุมเข้มเหมือนธนาคารพาณิชย์ เช่น การใช้เงินเพื่อรับจำนำข้าวเปลือกหลาย 100,000 ล้านบาท และด้านกระจายงบประมาณออกไปตามพื้นที่ เสนอให้กระจายอำนาจรัฐออกเป็น 2 ส่วน คือ อำนาจรัฐระดับชาติ และอำนาจรัฐระดับท้องถิ่น ด้วยการแยกระบบกำกับดูแล หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานบริการให้ชัดเจน เพื่อให้ อปท.มีศักยภาพทั้งด้านรายได้และรายจ่าย

นายเกริกไกร จีระแพทย์ ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ กล่าวว่า การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจต้องมุ่งมั่นออกไปเจรจาตลาดโลกทั้งจีน อินเดีย เพื่อดึงกำลังซื้อสินค้า โดยต้องแก้ไขกฎหมายด้านการแข่งขัน เพื่อสนับสนุนภาคเอกชน ขณะที่การผลิตไทยต้องแกร่งมากขึ้น จากเดิมเป็นผู้รับจ้างการผลิต เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ไอที หากไม่ปรับตัวนายทุนจะย้ายไปประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ไทยจะต้องเก่งด้านเกษตรแปรรูป นวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม ผลิตสินค้าใหม่ป้อนสู่ตลาด โดยพื้นฐานทุกด้านมาจากการศึกษาที่ดีจะทำให้เศรษฐกิจเทคโนโลยีเติบโตตามไปด้วยการปฏิรูปด้านต่างๆ เหล่านี้ต้องเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น