ASTVผู้จัดการรายวัน-ลูกเมีย "ชูวงษ์" เสี่ยรับเหมา ร้อง "ประยุทธ์" สอบสวนข้อเท็จจริงการตาย หลังพบมีการโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านก่อนเสียชีวิต ตำรวจตรวจลายเซ็น ยังไม่ฟันธงจริงหรือปลอม พร้อมประสานตลาดหลักทรัพย์อายัดเงินทำธุรกรรม ออกหมายเรียกสาวรับโอนหุ้นสอบปากคำ "ศรีวราห์" ยังเชื่อเป็นอุบัติเหตุ ตั้ง "ชาญเทพ" คลี่คลายคดี "บรรยิน" บุกพบ ผบ.ตร. แสดงความบริสุทธ์ ยันถ้าคิดฆ่า จ้างคนอื่นทำไม่ดีกว่าหรือ โยนปมโอนหุ้นให้ไปถามผู้หญิง สัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายกันต์ แซ่ตั้ง ลูกชายนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่บริเวณซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์เป็นผู้ขับ พร้อมด้วยนางศิริรัตน์ ภรรยาผู้ตาย นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวผู้ตาย และทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการตายของนายชูวงษ์
ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยสาเหตุการตายว่าเป็นการประสบอุบัติเหตุ หรือตายเพราะแรงจูงใจในเรื่องทรัพย์สินเงินทองของผู้ตายหรือไม่ เพราะระยะเวลาก่อนหน้านี้ 10 วัน ทางบริษัทหลักทรัพย์แจ้งว่าผู้ตายได้โอนหุ้นในนามผู้ตายเข้าบัญชีหุ้นของผู้หญิงสองคนเป็นเงินประมาณ 300 ล้านบาท โดยทราบภายหลังว่าหญิงสาวทั้งสองคนเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.บรรยิน จึงเป็นชนวนให้เกิดความเคลือบแคลงว่าการตายเป็นการกระทำโดยประมาทหรือจงใจ จึงขอให้มีการสอบสวน เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างแก่ครอบครัวของผู้ตาย
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เพื่อให้สอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น รวมทั้งยังได้หอบหลักฐานใบโอนหุ้นไปให้พนักงานสอบสวน บก.ป. ให้ช่วยตรวจสอบ หลังพบพิรุธก่อนตายมีการหุ้นไป 2 ครั้ง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
***ผบก.ป.สั่งสอบทุกประเด็นที่ญาติสงสัย
พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบทุกประเด็นที่ทางฝั่งครอบครัวของนายชูวงษ์ตั้งข้อสงสัย ทั้งในส่วนของประเด็นการทำธุรกรรมการโอนหุ้น เอกสารต่างๆ และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป.เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
***ประสานตลาดหลักทรัพย์อายัดเงิน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในส่วนของกรณีหุ้นของนายชูวงษ์ที่มีการโอนไปให้บุคคลที่สามกว่า 300 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมการโอนหุ้น พบความเคลื่อนไหวภายหลังจากการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ได้โอนหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 ก็ได้มีการขายหุ้นตัวดังกล่าวไป 2 ครั้งมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการประสานไปยังตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้อายัดการทำธุรกรรมดังกล่าว อีกทั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่ามีการโอนขายไปให้ใคร ก่อนที่จะทำการสืบสวนหากพบความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบปากคำต่อไป
***เรียกผู้ได้รับโอนหุ้นสอบปากคำ
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบเอกสารทางธุรกรรมของนายชูวงษ์ที่สำนักงาน พร้อมกับทำการสอบปากคำพนักงานโบรกเกอร์โอนหุ้นจำนวน 4 ราย เพื่อตรวจสอบหาความผิดปกติในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะลายเซ็นในเอกสารการโอนหุ้นที่นายชูวงษ์ได้เซ็นไว้นั้นว่าเป็นลายเซ็นของนายชูวงศ์จริงหรือไม่ตามที่ญาติและครอบครัวของผู้ตายติดใจสงสัยในประเด็นดังกล่าว โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบ ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ ส่วนกรณีของลายเซ็น จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลายเซ็นดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับลายเซ็นของผู้ตายจริง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ซึ่งอาจต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ
สำหรับบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ได้รับการโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาทจากนายชูวงศ์ ล่าสุดได้มีการออกหมายเรียกให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบที่ไปที่มาของการโอนหุ้นดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ก.ค.นี้
***"ศรีวราห์"ยังเชื่อเป็นอุบัติเหตุ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สอบนิติวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจน เพราะตนเป็นผู้ดูแลเรื่องสำนวนคดีเอง และได้เรียกสำนวนคดีจาก สน.อุดมสุขมาตรวจสอบ เบื้องต้นจากการดูสำนวนคดีและจากผลนิติวิทยาศาตร์ ยังไม่พบพิรุธสาเหตุการตาย ยังน่าเชื่อว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะแพทย์ยืนยันว่าเสียชีวิตจากกระดูกต้นคอหัก ส่วนสาเหตุการหักก็ต้องทำการสอบสวนใหม่ให้ละเอียดอีกครั้ง และต้องไปสอบสวนญาติผู้ตายอีกว่าติดใจสงสัยประเด็นอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ญาติยังไม่ได้มาพบ ก็เอาข้อมูลที่สงสัยไปสอบถามทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็ต้องไปสอบปากคำทางญาติผู้ตายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการสืบสวนคลี่คลายคดี คาดว่าต้องใช้เวลาสืบสวนสอบสวนสาเหตุการตายสักระยะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสงสัยการเสียชีวิตเป็น 2 ประเด็น การตายแบบผิดธรรมชาติ และการโอนหุ้นหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า โอนหุ้นมันต้องต้องดูอีก เพราะมันคนละเรื่องกับการตาย ถ้าผู้ตายโอนหุ้นไปเพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายก็ถือว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินคดีไปอีกส่วนหนึ่ง ต้องถามว่าคนตายโอนหุ้นไปเพราะเหตุใด สุดท้ายพอทำสำนวนขึ้นมา ผู้ตายและญาติผู้ตายอาจถูกดำเนินคดีทางแพ่งได้ เพราะโอนหุ้นแยกออกไป 200 กว่าล้านบาท มันต้องมีวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากสอบสวนพบว่ามีความผิดคือโอนหุ้นไปโดยเท็จ ตาม พ.ร.บ.หุ้น ก็ต้องดำเนินดคีกับคนตายอีก
***เผยภาพกล้องวงจรปิดถูกเขียนทับ
มีรายงานข่าวว่า วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. จะเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพื่อนำหลักฐานมาร่วมคลี่คลายคดี แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุที่สนามกอล์ฟเลควูด คันทรี คลับ ถนนบางนา-ตราด กม.18 พบว่า กล้องบันทึกภาพล่าสุดได้ถึงแค่วันที่ 1 ก.ค. ภาพวันเกิดเหตุวันที่ 26 มิ.ย. ถูกข้อมูลอื่นเขียนทับไปหมดแล้ว ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายก่อนที่รถจะเกิดอุบัติเหตุสามารถจับภาพรถของผู้ตายได้ในเวลา 21.57 น. ใกล้กับที่เกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีภาพที่รถเสียหลักประสบอุบัติเหตุตามที่ พ.ต.ท.บรรยินให้การไว้ในเบื้องต้น
จากการสอบปากคำพยานระบุว่า ผู้ตายและพ.ต.ท.บรรยินไปที่สนามกอล์ฟเลควูดในวันเกิดเหตุจริง โดยทั้งสองคนไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ขณะที่เดินทางกลับก็ออกมาเพียง 2 คน ลักษณะของผู้ตายไม่มีท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนปัญหาที่ว่าน่าจะมีเงื่อนงำเพราะว่าผู้ตายมีการโอนหุ้นไปให้บุคคลหนึ่งซึ่งต้องไปสืบสวนว่าผู้ตายมีความสนิทสนมกับบุคคลดังกล่าวอย่างไร
***"บรรยิน"บุกพบ ผบ.ตร. แจงข้อเท็จจริง
วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.บรรยิน ได้เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และ ขอความเป็นธรรม ภายหลังญาติของนายชูวงษ์ ติดใจการเสียชีวิต
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า ที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตนจึงต้องมาพบกับ ผบ.ตร. เพื่อให้ข้อเท็จจริงในส่วนของตน เพราะที่ผ่านมา ตนยังไม่มีโอกาสชี้แจง ผบ.ตร. ฟังแต่ญาตินายชูวงษ์ ที่มาพบฝ่ายเดียว ตนจึงต้องมาบ้าง
"รายละเอียดและข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏอยู่ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจอยู่แล้ว โดยวันเกิดเหตุหลังจากเรียนหลักสูตรวิทยาการตลาดทุน (วตท.) จบในวันที่ 25 มิ.ย. และในวันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ นายชูวงษ์และผมได้นัดกันไปตีกอล์ฟ โดยมี นายชัช ชลวร นายประพันธ์ คูณมี และนายประยุทธ มหากิจศิริ ร่วมตีกอล์ฟด้วย ส่วนสาเหตุที่ผมไปขับรถแทนคนขับรถของนายชูวงษ์ เพราะนายชูวงษ์ จำวันนัดตีกอล์ฟผิด ไม่ได้เอาถุงกอล์ฟมาด้วย จึงให้คนขับรถไปเอาถุงกอล์ฟที่บ้าน ส่วนนายชูวงษ์ ติดรถผมไปที่สนามกอล์ฟ"
พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวต่อว่า เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทางเดินรถ 4 เลน ฝั่งละ 2 เลน ซึ่งตนขับอยู่เลนที่ 2 ปรากฏว่าได้มีรถแซงข้ามเลนมา ตนจึงหักหลบกะทันหัน ตอนแรกก็หักมาเจอเสาไฟฟ้า และได้หักหลบอีกที จนมาชนฟุตบาธกระดอนขึ้นมา และลอยขึ้นมากระแทก ก่อนรถไหลวิ่งไปชนต้นไม้ ส่วนที่บางคนบอกว่ารถเสียหายไม่เยอะ แต่มีคนเสียชีวิตได้อย่างไร ก็อยากบอกว่า รถไม่ได้ชนตรงๆ เป็นการชนที่รถลอยและไปเสียบอยู่ตรงนั้น สื่อมวลชนไปดูได้ว่าต้นไม้ที่เกิดเหตุมันเอียงๆ ถ้าตนมีเจตนาจะให้นายชูวงษ์ ตาย ก็คงหักหลบเอาด้านที่นายชูวงษ์ นั่งอยู่ เข้ามากกว่านี้ และหลังเกิดเหตุ ก็สลบไป ตื่นตอนมีคนมาเคาะกระจก เห็นนายชูวงษ์หน้าคว่ำและหัวอยู่ระหว่างคอนโซลกับเกียร์ ตนได้เรียกให้คนช่วยดึงนายชูวงษ์ แต่ไม่มีใครกล้า จึงให้แจ้งหน่วยกู้ภัย ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่านายชูวงษ์ ยังมีชีวิตอยู่ เพราะทางหน่วยกู้ภัยบอกว่าชีพจรของนายชูวงษ์ ยังเต้นอยู่ ซึ่งระหว่างที่นั่งรถมานายชูวงษ์ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
***ยันญาติรู้ว่าสาวที่ได้รับโอนหุ้นเป็นใคร
เมื่อถามถึงกรณีญาติติดใจสาเหตุการตายของนายชูวงษ์ มีความคิดเห็นอย่างไร พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า มองว่าญาติของนายชูวงษ์ คงมีความรู้สึกว่ามีการโอนหุ้นก่อนเสียชีวิต ซึ่งตนอยากจะบอกว่าการโอนหุ้นมีผลตั้งแต่การโอนอยู่แล้ว การตายที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และคิดว่าทำไมญาติจึงได้สงสัยเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่าตนรู้เรื่องของนายชูวงษ์ เยอะ เนื่องจากมีความสนิทสนมกันมาก ขนาดภรรยาถึงขั้นเอ่ยปากว่าในแต่ละวันนายชูวงษ์ คุยกับตนมากกว่าภรรยาเสียอีก ตนรู้ทุกเรื่องว่านายชูวงษ์ ทำอะไรบ้าง เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหลายพูดตรงๆ ว่านายชูวงษ์ ปิดบังไม่ให้ภรรยารู้
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้หญิง 2 คนที่มีการโอนหุ้นเป็นใคร พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า นายชูวงษ์ รู้ดีที่สุด ทางญาติก็รู้ว่าใครเป็นใคร พี่สาวของนายชูวงษ์ เองก็รู้ ส่วนญาติที่ระบุว่าไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อนนั้น คือ นายชูวงษ์ ไม่ต้องการให้ญาติรู้ เพราะต้องการปกปิดทรัพย์สินของเขาเอง และการที่นายชูวงษ์ เอาหุ้นไปให้คนอื่นถือ เพราะไม่ต้องการให้มีใครรู้ว่าถือทรัพย์สินอะไร เท่าไร เหมือนต้องการเอาไปฝากไว้ ส่วนนายชูวงษ์กับผู้หญิง 2 คนนั้นมีความลึกซึ้งอย่างไรนั้น ก็ลองประเมินเอาเองว่าลึกซึ้งหรือไม่ ซึ่งตนก็รู้จักกับผู้หญิง 2 คนนี้ แต่รู้จักหลังจากเขารู้จักกับนายชูวงษ์
***ถ้าคิดฆ่าจ้างคนอื่นทำไม่ดีกว่าหรือ
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า อยากจะฝากไปทางญาติว่าตนกับนายชูวงษ์สนิทกันมาก ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหาหรือเรื่องขัดแย้งกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างนั้น และที่สำคัญถ้าจะทำอย่างนั้นจริง ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ จะเอาตัวไปเป็นผู้ต้องหาร่วมทำไม ถ้าคิดจะฆ่านายชูวงษ์ ไปจ้างใครมาทำร้ายเขาโดยไม่มีหลักฐานถึงตน คิดว่าง่ายกว่าด้วยซ้ำ
***ผู้บริหาร EA แจง"ชูวงษ์"ไม่เกี่ยวข้องบริษัท
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ผู้บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายชูวงศ์ มีการโอนหุ้น EA จำนวน 9.5 ล้านหุ้น หุ้นละ 24 บาท รวมมูลค่า 228 ล้านบาท ให้กับ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2558 ว่า จากการตรวจสอบ พบว่า นายชูวงศ์ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บริหารของบริษัท และยืนยันอีกว่านายชูวงศ์ ไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อการบริหารงานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อบริษัททั้งสิ้น รวมทั้งส่วนของหุ้นที่โอนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้มาจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแต่อย่างใด
***แฉ"บรรยิน"ผัวพันคดีฆ่านายก อบจ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.บรรยิน เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 39 ลาออกจากราชการเมื่อ 2543 สมัครเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย ก่อนย้ายมาเป็นรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถือเป็นคนใกล้ชิดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มากที่สุดคนหนึ่ง และได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ ในปี 2550 ช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นับเป็นนักการเมืองที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงได้รับการสนับสนุนจากสมัครพรรคพวกมากมาย เนื่องจากเคยเป็นนายตำรวจเก่า เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ติดนิสัยนักเลงแบบใจถึงพึ่งได้ จึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน
แต่การเมืองภาคกลาง โดยเฉพาะที่ จ.นครสวรรค์ มีการแข่งขันกันสูง และเมื่อเกิดความขัดแย้งก็มักจบลงด้วยความรุนแรง เป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นว่าการตายในแต่ละครั้งของนักการเมืองระดับต่างๆ ของเมืองปากน้ำโพ มาจากสาเหตุอะไรและใครเกี่ยวข้องด้วย แต่ด้วยอิทธิพลต่างๆ เกือบทุกคดีจบลงด้วยความเงียบ กฎหมายมักเอื้อมไม่ถึง
ยกตัวอย่างเช่น เดือนก.ค.2553 คดีคนร้ายใช้ปืนไรเฟิลลอบยิงนายอำนาจ ศิริชัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)นครสวรรค์ เสียชีวิตระหว่างนั่งรอชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2010 คู่ชิงชนะเลิศที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งตำรวจมุ่งประเด็นความขัดแย้งในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น และผลประโยชน์ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยพ.ต.ท.บรรยิน ถูกจับตาในฐานะผู้ต้องสงสัย แต่จากการเข้าตรวจค้นบ้านของลูกน้องคนสนิท และบ้านพักของพ.ต.ท.บรรยิน ก็ไม่พบหลักฐานอะไร ทำให้การสอบสวนไม่มีความคืบหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายกันต์ แซ่ตั้ง ลูกชายนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่บริเวณซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์เป็นผู้ขับ พร้อมด้วยนางศิริรัตน์ ภรรยาผู้ตาย นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวผู้ตาย และทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการตายของนายชูวงษ์
ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยสาเหตุการตายว่าเป็นการประสบอุบัติเหตุ หรือตายเพราะแรงจูงใจในเรื่องทรัพย์สินเงินทองของผู้ตายหรือไม่ เพราะระยะเวลาก่อนหน้านี้ 10 วัน ทางบริษัทหลักทรัพย์แจ้งว่าผู้ตายได้โอนหุ้นในนามผู้ตายเข้าบัญชีหุ้นของผู้หญิงสองคนเป็นเงินประมาณ 300 ล้านบาท โดยทราบภายหลังว่าหญิงสาวทั้งสองคนเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.บรรยิน จึงเป็นชนวนให้เกิดความเคลือบแคลงว่าการตายเป็นการกระทำโดยประมาทหรือจงใจ จึงขอให้มีการสอบสวน เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างแก่ครอบครัวของผู้ตาย
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เพื่อให้สอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น รวมทั้งยังได้หอบหลักฐานใบโอนหุ้นไปให้พนักงานสอบสวน บก.ป. ให้ช่วยตรวจสอบ หลังพบพิรุธก่อนตายมีการหุ้นไป 2 ครั้ง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
***ผบก.ป.สั่งสอบทุกประเด็นที่ญาติสงสัย
พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบทุกประเด็นที่ทางฝั่งครอบครัวของนายชูวงษ์ตั้งข้อสงสัย ทั้งในส่วนของประเด็นการทำธุรกรรมการโอนหุ้น เอกสารต่างๆ และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป.เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
***ประสานตลาดหลักทรัพย์อายัดเงิน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในส่วนของกรณีหุ้นของนายชูวงษ์ที่มีการโอนไปให้บุคคลที่สามกว่า 300 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมการโอนหุ้น พบความเคลื่อนไหวภายหลังจากการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ได้โอนหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 ก็ได้มีการขายหุ้นตัวดังกล่าวไป 2 ครั้งมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการประสานไปยังตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้อายัดการทำธุรกรรมดังกล่าว อีกทั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่ามีการโอนขายไปให้ใคร ก่อนที่จะทำการสืบสวนหากพบความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบปากคำต่อไป
***เรียกผู้ได้รับโอนหุ้นสอบปากคำ
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบเอกสารทางธุรกรรมของนายชูวงษ์ที่สำนักงาน พร้อมกับทำการสอบปากคำพนักงานโบรกเกอร์โอนหุ้นจำนวน 4 ราย เพื่อตรวจสอบหาความผิดปกติในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะลายเซ็นในเอกสารการโอนหุ้นที่นายชูวงษ์ได้เซ็นไว้นั้นว่าเป็นลายเซ็นของนายชูวงศ์จริงหรือไม่ตามที่ญาติและครอบครัวของผู้ตายติดใจสงสัยในประเด็นดังกล่าว โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบ ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ ส่วนกรณีของลายเซ็น จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลายเซ็นดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับลายเซ็นของผู้ตายจริง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ซึ่งอาจต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ
สำหรับบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ได้รับการโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาทจากนายชูวงศ์ ล่าสุดได้มีการออกหมายเรียกให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบที่ไปที่มาของการโอนหุ้นดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ก.ค.นี้
***"ศรีวราห์"ยังเชื่อเป็นอุบัติเหตุ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สอบนิติวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจน เพราะตนเป็นผู้ดูแลเรื่องสำนวนคดีเอง และได้เรียกสำนวนคดีจาก สน.อุดมสุขมาตรวจสอบ เบื้องต้นจากการดูสำนวนคดีและจากผลนิติวิทยาศาตร์ ยังไม่พบพิรุธสาเหตุการตาย ยังน่าเชื่อว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะแพทย์ยืนยันว่าเสียชีวิตจากกระดูกต้นคอหัก ส่วนสาเหตุการหักก็ต้องทำการสอบสวนใหม่ให้ละเอียดอีกครั้ง และต้องไปสอบสวนญาติผู้ตายอีกว่าติดใจสงสัยประเด็นอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ญาติยังไม่ได้มาพบ ก็เอาข้อมูลที่สงสัยไปสอบถามทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็ต้องไปสอบปากคำทางญาติผู้ตายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการสืบสวนคลี่คลายคดี คาดว่าต้องใช้เวลาสืบสวนสอบสวนสาเหตุการตายสักระยะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสงสัยการเสียชีวิตเป็น 2 ประเด็น การตายแบบผิดธรรมชาติ และการโอนหุ้นหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า โอนหุ้นมันต้องต้องดูอีก เพราะมันคนละเรื่องกับการตาย ถ้าผู้ตายโอนหุ้นไปเพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายก็ถือว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินคดีไปอีกส่วนหนึ่ง ต้องถามว่าคนตายโอนหุ้นไปเพราะเหตุใด สุดท้ายพอทำสำนวนขึ้นมา ผู้ตายและญาติผู้ตายอาจถูกดำเนินคดีทางแพ่งได้ เพราะโอนหุ้นแยกออกไป 200 กว่าล้านบาท มันต้องมีวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากสอบสวนพบว่ามีความผิดคือโอนหุ้นไปโดยเท็จ ตาม พ.ร.บ.หุ้น ก็ต้องดำเนินดคีกับคนตายอีก
***เผยภาพกล้องวงจรปิดถูกเขียนทับ
มีรายงานข่าวว่า วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. จะเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพื่อนำหลักฐานมาร่วมคลี่คลายคดี แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุที่สนามกอล์ฟเลควูด คันทรี คลับ ถนนบางนา-ตราด กม.18 พบว่า กล้องบันทึกภาพล่าสุดได้ถึงแค่วันที่ 1 ก.ค. ภาพวันเกิดเหตุวันที่ 26 มิ.ย. ถูกข้อมูลอื่นเขียนทับไปหมดแล้ว ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายก่อนที่รถจะเกิดอุบัติเหตุสามารถจับภาพรถของผู้ตายได้ในเวลา 21.57 น. ใกล้กับที่เกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีภาพที่รถเสียหลักประสบอุบัติเหตุตามที่ พ.ต.ท.บรรยินให้การไว้ในเบื้องต้น
จากการสอบปากคำพยานระบุว่า ผู้ตายและพ.ต.ท.บรรยินไปที่สนามกอล์ฟเลควูดในวันเกิดเหตุจริง โดยทั้งสองคนไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ขณะที่เดินทางกลับก็ออกมาเพียง 2 คน ลักษณะของผู้ตายไม่มีท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนปัญหาที่ว่าน่าจะมีเงื่อนงำเพราะว่าผู้ตายมีการโอนหุ้นไปให้บุคคลหนึ่งซึ่งต้องไปสืบสวนว่าผู้ตายมีความสนิทสนมกับบุคคลดังกล่าวอย่างไร
***"บรรยิน"บุกพบ ผบ.ตร. แจงข้อเท็จจริง
วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.บรรยิน ได้เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และ ขอความเป็นธรรม ภายหลังญาติของนายชูวงษ์ ติดใจการเสียชีวิต
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า ที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตนจึงต้องมาพบกับ ผบ.ตร. เพื่อให้ข้อเท็จจริงในส่วนของตน เพราะที่ผ่านมา ตนยังไม่มีโอกาสชี้แจง ผบ.ตร. ฟังแต่ญาตินายชูวงษ์ ที่มาพบฝ่ายเดียว ตนจึงต้องมาบ้าง
"รายละเอียดและข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏอยู่ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจอยู่แล้ว โดยวันเกิดเหตุหลังจากเรียนหลักสูตรวิทยาการตลาดทุน (วตท.) จบในวันที่ 25 มิ.ย. และในวันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ นายชูวงษ์และผมได้นัดกันไปตีกอล์ฟ โดยมี นายชัช ชลวร นายประพันธ์ คูณมี และนายประยุทธ มหากิจศิริ ร่วมตีกอล์ฟด้วย ส่วนสาเหตุที่ผมไปขับรถแทนคนขับรถของนายชูวงษ์ เพราะนายชูวงษ์ จำวันนัดตีกอล์ฟผิด ไม่ได้เอาถุงกอล์ฟมาด้วย จึงให้คนขับรถไปเอาถุงกอล์ฟที่บ้าน ส่วนนายชูวงษ์ ติดรถผมไปที่สนามกอล์ฟ"
พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวต่อว่า เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทางเดินรถ 4 เลน ฝั่งละ 2 เลน ซึ่งตนขับอยู่เลนที่ 2 ปรากฏว่าได้มีรถแซงข้ามเลนมา ตนจึงหักหลบกะทันหัน ตอนแรกก็หักมาเจอเสาไฟฟ้า และได้หักหลบอีกที จนมาชนฟุตบาธกระดอนขึ้นมา และลอยขึ้นมากระแทก ก่อนรถไหลวิ่งไปชนต้นไม้ ส่วนที่บางคนบอกว่ารถเสียหายไม่เยอะ แต่มีคนเสียชีวิตได้อย่างไร ก็อยากบอกว่า รถไม่ได้ชนตรงๆ เป็นการชนที่รถลอยและไปเสียบอยู่ตรงนั้น สื่อมวลชนไปดูได้ว่าต้นไม้ที่เกิดเหตุมันเอียงๆ ถ้าตนมีเจตนาจะให้นายชูวงษ์ ตาย ก็คงหักหลบเอาด้านที่นายชูวงษ์ นั่งอยู่ เข้ามากกว่านี้ และหลังเกิดเหตุ ก็สลบไป ตื่นตอนมีคนมาเคาะกระจก เห็นนายชูวงษ์หน้าคว่ำและหัวอยู่ระหว่างคอนโซลกับเกียร์ ตนได้เรียกให้คนช่วยดึงนายชูวงษ์ แต่ไม่มีใครกล้า จึงให้แจ้งหน่วยกู้ภัย ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่านายชูวงษ์ ยังมีชีวิตอยู่ เพราะทางหน่วยกู้ภัยบอกว่าชีพจรของนายชูวงษ์ ยังเต้นอยู่ ซึ่งระหว่างที่นั่งรถมานายชูวงษ์ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
***ยันญาติรู้ว่าสาวที่ได้รับโอนหุ้นเป็นใคร
เมื่อถามถึงกรณีญาติติดใจสาเหตุการตายของนายชูวงษ์ มีความคิดเห็นอย่างไร พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า มองว่าญาติของนายชูวงษ์ คงมีความรู้สึกว่ามีการโอนหุ้นก่อนเสียชีวิต ซึ่งตนอยากจะบอกว่าการโอนหุ้นมีผลตั้งแต่การโอนอยู่แล้ว การตายที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และคิดว่าทำไมญาติจึงได้สงสัยเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่าตนรู้เรื่องของนายชูวงษ์ เยอะ เนื่องจากมีความสนิทสนมกันมาก ขนาดภรรยาถึงขั้นเอ่ยปากว่าในแต่ละวันนายชูวงษ์ คุยกับตนมากกว่าภรรยาเสียอีก ตนรู้ทุกเรื่องว่านายชูวงษ์ ทำอะไรบ้าง เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหลายพูดตรงๆ ว่านายชูวงษ์ ปิดบังไม่ให้ภรรยารู้
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้หญิง 2 คนที่มีการโอนหุ้นเป็นใคร พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า นายชูวงษ์ รู้ดีที่สุด ทางญาติก็รู้ว่าใครเป็นใคร พี่สาวของนายชูวงษ์ เองก็รู้ ส่วนญาติที่ระบุว่าไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อนนั้น คือ นายชูวงษ์ ไม่ต้องการให้ญาติรู้ เพราะต้องการปกปิดทรัพย์สินของเขาเอง และการที่นายชูวงษ์ เอาหุ้นไปให้คนอื่นถือ เพราะไม่ต้องการให้มีใครรู้ว่าถือทรัพย์สินอะไร เท่าไร เหมือนต้องการเอาไปฝากไว้ ส่วนนายชูวงษ์กับผู้หญิง 2 คนนั้นมีความลึกซึ้งอย่างไรนั้น ก็ลองประเมินเอาเองว่าลึกซึ้งหรือไม่ ซึ่งตนก็รู้จักกับผู้หญิง 2 คนนี้ แต่รู้จักหลังจากเขารู้จักกับนายชูวงษ์
***ถ้าคิดฆ่าจ้างคนอื่นทำไม่ดีกว่าหรือ
พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า อยากจะฝากไปทางญาติว่าตนกับนายชูวงษ์สนิทกันมาก ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหาหรือเรื่องขัดแย้งกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างนั้น และที่สำคัญถ้าจะทำอย่างนั้นจริง ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ จะเอาตัวไปเป็นผู้ต้องหาร่วมทำไม ถ้าคิดจะฆ่านายชูวงษ์ ไปจ้างใครมาทำร้ายเขาโดยไม่มีหลักฐานถึงตน คิดว่าง่ายกว่าด้วยซ้ำ
***ผู้บริหาร EA แจง"ชูวงษ์"ไม่เกี่ยวข้องบริษัท
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ผู้บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายชูวงศ์ มีการโอนหุ้น EA จำนวน 9.5 ล้านหุ้น หุ้นละ 24 บาท รวมมูลค่า 228 ล้านบาท ให้กับ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2558 ว่า จากการตรวจสอบ พบว่า นายชูวงศ์ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บริหารของบริษัท และยืนยันอีกว่านายชูวงศ์ ไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อการบริหารงานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อบริษัททั้งสิ้น รวมทั้งส่วนของหุ้นที่โอนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้มาจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแต่อย่างใด
***แฉ"บรรยิน"ผัวพันคดีฆ่านายก อบจ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.บรรยิน เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 39 ลาออกจากราชการเมื่อ 2543 สมัครเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย ก่อนย้ายมาเป็นรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถือเป็นคนใกล้ชิดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มากที่สุดคนหนึ่ง และได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ ในปี 2550 ช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นับเป็นนักการเมืองที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงได้รับการสนับสนุนจากสมัครพรรคพวกมากมาย เนื่องจากเคยเป็นนายตำรวจเก่า เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ติดนิสัยนักเลงแบบใจถึงพึ่งได้ จึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน
แต่การเมืองภาคกลาง โดยเฉพาะที่ จ.นครสวรรค์ มีการแข่งขันกันสูง และเมื่อเกิดความขัดแย้งก็มักจบลงด้วยความรุนแรง เป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นว่าการตายในแต่ละครั้งของนักการเมืองระดับต่างๆ ของเมืองปากน้ำโพ มาจากสาเหตุอะไรและใครเกี่ยวข้องด้วย แต่ด้วยอิทธิพลต่างๆ เกือบทุกคดีจบลงด้วยความเงียบ กฎหมายมักเอื้อมไม่ถึง
ยกตัวอย่างเช่น เดือนก.ค.2553 คดีคนร้ายใช้ปืนไรเฟิลลอบยิงนายอำนาจ ศิริชัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)นครสวรรค์ เสียชีวิตระหว่างนั่งรอชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2010 คู่ชิงชนะเลิศที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งตำรวจมุ่งประเด็นความขัดแย้งในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น และผลประโยชน์ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยพ.ต.ท.บรรยิน ถูกจับตาในฐานะผู้ต้องสงสัย แต่จากการเข้าตรวจค้นบ้านของลูกน้องคนสนิท และบ้านพักของพ.ต.ท.บรรยิน ก็ไม่พบหลักฐานอะไร ทำให้การสอบสวนไม่มีความคืบหน้า
