xs
xsm
sm
md
lg

“บรรยิน” โร่พบ ผบ.ตร.ยันสนิทเสี่ยรับเหมามาก ลั่นเป็นอุบัติเหตุ ถ้าคิดฆ่าจ้างคนอื่นทำง่ายกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ เข้าพบผบ.ตร.
ASTVผู้จัดการ - “พ.ต.ท.บรรยิน” อดีต รมช.พาณิชย์ โผล่พบ ผบ.ตร. แสดงความบริสุทธิ์ใจ ยันเสี่ยรับเหมา “ชูวงษ์” เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ถ้าคิดฆ่าไปจ้างวานคนอื่นทำไม่มีหลักฐานสาวถึงดีกว่า โอดขอโอกาสชี้แจงบ้าง หลังญาติสงสัยมีเงื่อนงำ เผยสนิทกับผู้ตายมาก ไม่เคยขัดแย้ง ยันวันเกิดเหตุเสี่ยไม่ได้คาดเข็ดขัด โบ้ยปมเรื่องหุ้นให้ถามผู้หญิงที่รับโอนไป สัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ไหน



วันนี้ (16 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเสียชีวิต เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอความเป็นธรรม ภายหลังญาติของนายชูวงษ์ติดใจการเสียชีวิตว่า ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตนจึงต้องมาพบกับ ผบ.ตร.เพื่อให้ข้อเท็จจริงในส่วนของตน เพราะที่ผ่านมาตนยังไม่มีโอกาสชี้แจง ผบ.ตร. ฟังแต่ญาตินายชูวงษ์ที่มาพบฝ่ายเดียว ตนจึงต้องมาบ้าง

พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า รายละเอียดและข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏอยู่ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจอยู่แล้ว โดยวันเกิดเหตุหลังจากเรียนหลักสูตรวิทยาการตลาดทุน (วตท.) จบในวันที่ 25 มิ.ย. และในวันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ นายชูวงษ์ และตนได้นัดกันไปตีกอล์ฟ โดยมีนายชัช ชลวร นายประพันธ์ คูณมี และ นายประยุทธ มหากิจศิริ ร่วมตีกอล์ฟด้วย ส่วนสาเหตุที่ตนไปขับรถแทนคนขับรถของนายชูวงษ์ เพราะนายชูวงษ์จำวันนัดตีกอล์ฟผิด ไม่ได้เอาถุงกอล์ฟมาด้วยจึงให้คนขับรถไปเอาถุงกอล์ฟที่บ้าน ส่วนนายชูวงษ์ติดรถตนไปที่สนามกอล์ฟ

“วันนั้นผมไปพบคุณชูวงษ์ที่บริษัทในตอนเช้า ไปคุยกันเรื่องงานก่อสร้างที่คุณชูวงษ์รับทำบ้านให้ผม และได้เจอกับคนขับรถของคุณชูวงษ์ ผมก็ถามว่าลูกพี่ไม่ได้เอาถุงกอล์ฟมาหรือ คนขับรถบอกว่าไม่ได้เอามา ผมก็เลยไปคุยเรื่องงาน หลังจากคุยเสร็จถึงได้ทราบว่าคุณชูวงษ์เข้าใจผิดเรื่องนัดวันตีกอล์ฟผิด เพราะคิดว่าเป็นวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. คุณชูวงษ์จึงไม่มีถุงกอล์ฟ เลยเสนอให้คุณชูวงษ์นั่งรถไปกับผมก่อนแล้วให้คนขับรถเอาถุงกอล์ฟไปส่งที่สนามกอล์ฟ ก็แค่นั้น พอคนขับรถของคุณชูวงษ์เอาถุงกอล์ฟมาส่ง และได้สั่งให้คนขับรถไปรอที่บ้าน เพราะบ้านอยู่ห่างจากสนามกอล์ฟไม่ไกลเท่าไหร่ คุณชูวงษ์พูดกับผมว่าเดี๋ยวขากลับขอกลับด้วย ผมจะไปไล่คนขับรถเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคุณชูวงษ์ที่จะต้องสั่งการกันเอง” พ.ต.ท.บรรยินกล่าว

พ.ต.ท.บรรยินกล่าวต่อไปว่า เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทางเดินรถ 4 เลน ฝั่งละ 2 เลน ตนขับอยู่เลนที่ 2 ปรากฏว่าได้มีรถแซงข้ามเลนมาตนจึงหักหลบกะทันหัน ตอนแรกก็หักมาเจอเสาไฟฟ้าและได้หักหลบอีกทีจนมาชนฟุตปาธกระดอนขึ้นมาและลอยขึ้นมากระแทก ก่อนรถไหลวิ่งไปชนต้นไม้

“บางคนบอกว่าทำไมรถเสียหายไม่เยอะ แต่มีคนเสียชีวิตได้อย่างไร อยากบอกว่ารถไม่ได้ชนตรงๆ เป็นการชนที่รถลอยและไปเสียบอยู่ตรงนั้น สื่อมวลชนไปดูได้ว่าต้นไม้ที่เกิดเหตุมันเอียง ถ้าผมมีเจตนาจะให้นายชูวงษ์ตายก็คงหักหลบเอาด้านที่นายชูวงษ์นั่งอยู่เข้ามากกว่านี้” พ.ต.ท.บรรยินกล่าว

ผูู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดเหตุได้เห็นนายชูวงษ์หรือไม่ว่าอยู่ในสภาพใด พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า ตนรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ฟื้นขึ้นมาหลังจากสลบไป มีคนมาเคาะกระจกเรียก และพอตื่นขึ้นมาก็เห็นนายชูวงษ์หน้าคว่ำ และหัวอยู่ระหว่างคอนโซลกับเกียร์ ตนได้เรียกให้คนช่วยดึงนายชูวงษ์ แต่ไม่มีใครกล้า จึงให้แจ้งหน่วยกู้ภัย ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่านายชูวงษ์ยังมีชีวิตอยู่ เพราะทางหน่วยกู้ภัยบอกว่าชีพจรของนายชูวงษ์ยังเต้นอยู่ ระหว่างที่นั่งรถมานายชูวงษ์ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

เมื่อถามว่า ก่อนเกิดเหตุมีการดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า นายชัชเอาทุเรียนมาให้กินก่อนออกรอบ เมื่อตีกอล์ฟเสร็จได้กินทุเรียนกันอีกรอบ และมีคนในกลุ่มพูดว่าถ้ากินทุเรียนแล้วห้ามดื่มแอลกอฮอล์เนื่องจากมีอันตราย ตนเป็นคนขับรถจึงไม่ดื่ม แต่นายชูวงษ์ได้ดื่มไวน์ไป 2 แก้ว หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลได้มีการตรวจแอลกอฮอล์และไม่พบ อย่างไรก็ตาม ระหว่างอยู่ในรถตนคาดเข็มขัดนิรภัย แต่นายชูวงษ์ไม่ได้คาด

เมื่อถามถึงกรณีญาติติดใจสาเหตุการตายของนายชูวงษ์ พ.ต.ท.บรรยินมีความคิดเห็นอย่างไร พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า มองว่าญาติของนายชูวงษ์คงมีความรู้สึกว่ามีการโอนหุ้นก่อนเสียชีวิต ตนอยากจะบอกว่าการโอนหุ้นมีผลตั้งแต่การโอนอยู่แล้ว การตายที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และคิดว่าทำไมญาติจึงได้สงสัยเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่าตนรู้เรื่องของนายชูวงษ์เยอะเนื่องจากมีความสนิทสนมกันมาก ขนาดภรรยาถึงขั้นเอ่ยปากว่าในแต่ละวันนายชูวงษ์คุยกับตนมากกว่าภรรยาเสียอีก ตนรู้ทุกเรื่องว่านายชูวงษ์ทำอะไรบ้าง เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหลายพูดตรงๆ ว่านายชูวงษ์ปิดบังไม่ให้ภรรยารู้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้หญิง 2 คนที่มีการโอนหุ้นเป็นใคร พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า นายชูวงษ์รู้ดีที่สุด ทางญาติก็รู้ว่าใครเป็นใคร พี่สาวของนายชูวงษ์เองก็รู้ ส่วนญาติที่ระบุว่าไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อนนั้น คือ นายชูวงษ์ ไม่ต้องการให้ญาติรู้ เพราะต้องการปกปิดทรัพย์สินของเขาเอง และการที่นายชูวงษ์เอาหุ้นไปให้คนอื่นถือ เพราะไม่ต้องการให้มีใครรู้ว่าถือทรัพย์สินอะไร เท่าไหร่ เหมือนต้องการเอาไปฝากไว้

เมื่อถามว่า และเหตุผลที่เอาทรัพย์สินไปฝากคืออะไร เพราะมีครอบครัวและญาติ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า นายชูวงษ์ต้องการมีทรัพย์สินส่วนตัว ส่วนนายชูวงษ์กับผู้หญิง 2 คนนั้นมีความลึกซึ้งอย่างไรนั้นก็ลองประเมินเอาเองว่าลึกซึ้งหรือไม่ ตนก็รู้จักกับผู้หญิง 2 คนนี้ แต่รู้จักหลังจากเขารู้จักกับนายชูวงษ์ ตนก็มาพบ ผบ.ตร. และได้มีการเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดแบบนี้ให้ฟัง ทาง ผบ.ตร.ก็รับฟัง และตั้งแต่เกิดเหตุมาตนไม่เคยพูดอะไร

“ส่วนกรณีที่มีสื่อมวลชนเสนอข่าวว่าผมยืมเงินคุณชูวงษ์มา 5 ล้านบาทนั้น อยากจะบอกว่าการเสียชีวิตของคุณชูวงษ์มีแต่ผมที่เสียประโยชน์ ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย อย่างกรณี 5 ล้าน ก็เป็นการวางมัดจำที่ดินที่ จ.พิษณุโลก ร่วมกันซื้อ แต่ใช้ชื่อนายชูวงษ์คนเดียว แต่ทางญาติกลับไปพูดว่าผมยืมเงินนายชูวงษ์ 5 ล้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง” พ.ต.ท.บรรยินกล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า ตนไม่ต้องการอย่างอื่น อยากให้กระบวนการทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย เพราะหลักฐานทุกอย่างพนักงานสอบสวนได้มีการตรวจสอบหมดแล้ว สามารถตรวจสอบได้เต็มที่ แต่อย่าสร้างประเด็นขึ้นมาว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ ตนไม่เคยก้าวก่ายทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้ตนได้มอบตัวและตกเป็นผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้พาพยานที่ไปตีกอล์ฟด้วยกันไปให้ปากคำที่ สน.อุดมสุข ตนไม่ได้มีเจตนาหลบหนี ทางตำรวจจึงอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว

“อยากจะฝากไปทางญาติว่า ผมกับคุณชูวงษ์สนิทกันมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาหรือเรื่องขัดแย้งกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะทำอย่างนั้น และที่สำคัญ ถ้าจะทำอย่างนั้นจริง ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ผมจะเอาตัวไปเป็นผู้ต้องหาร่วมทำไม ถ้าผมคิดจะฆ่าคุณชูวงษ์ ไปจ้างใครมาทำร้ายเขาโดยไม่มีหลักฐานถึงผม คิดว่าง่ายกว่าด้วยซ้ำ” พ.ต.ท.บรรยินกล่าว และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจ ได้ไปร่วมงานศพทุกคืน และเป็นคนจัดการเรื่องของชำร่วยในงานศพเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท นอกจากนี้ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจว่ายินดีจะชดใช้เงินให้กับทางญาติของนายชูวงษ์จำนวน 1 ล้านบาท หากทางญาติต้องการ แต่ยังไม่มีการติดต่อขอรับเงินในส่วนนี้

มีรายงานผลชันสูตรศพ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 51 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พบบาดแผลช้ำบวมศีรษะด้านซ้ายและด้านขวา มีบาดแผลที่คางถลอก 2 ข้าง ไหล่ซ้าย หน้าแข้งทั้งสองข้าง บ่าช้ำม่วง ศีรษะพบรอยช้ำบริเวณด้านหลังซ้ายประมาณ 40 ตารางเซนติเมตร กะโหลกศีรษะสภาพปกติ สมองบวม มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นในด้านซ้าย กระดูกสันหลังส่วนคอหัก กระดูกซี่โครงด้านหน้าทั้งซ้ายและขวาหักหลายซี่ ปอดช้ำ หัวใจคั่งเลือด เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจหนาตัว พบมีเลือดคั่งในตับ ม้าม ไต

ทั้งนี้ แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองชั้นใน สมองบวมจากการกระทบกระแทกของแข็ง

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ (16 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบเอกสารทางธุรกรรมของนายชูวงษ์ที่สำนักงาน พร้อมกับทำการสอบปากคำพนักงานโบรกเกอร์โอนหุ้นจำนวน 4 ราย เพื่อตรวจสอบหาความผิดปกติในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะลายเซ็นในเอกสารการโอนหุ้นที่นายชูวงษ์ได้เซ็นไว้นั้นว่าเป็นลายเซ็นของนายชูวงษ์จริงหรือไม่ ตามที่ญาติและครอบครัวของผู้ตายติดใจสงสัยในประเด็นดังกล่าว

เบื้องต้นจากการตรวจสอบในวันนี้ ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ ส่วนกรณีของลายเซ็นนั้นจากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลายเซ็นดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับลายเซ็นของผู้ตายจริง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ซึ่งอาจต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ขณะที่ในส่วนของบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ได้รับการโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาท จากนายชูวงษ์ นั้น ล่าสุด ได้มีการออกหมายเรียกให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบที่ไปที่มาของการโอนหุ้นดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ก.ค. ที่จะถึงนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น