ประเทศไทยดินแดนซึ่งเคยเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” กำลังเผชิญวิกฤตภัยแล้งรุนแรงที่สุด ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 50 ปี...แล้วไง...เป็นข่าวมานานแล้ว...มีอะไรใหม่?
มีแน่นอน...ทุกวันนี้คนเมืองกรุงยังไม่สะดุ้งสะเทือนกับปัญหาระดับน้ำในเขื่อนหลักเกือบทั่วประเทศลดต่ำลงจนใกล้ถึงจุดที่จะไม่สามารถระบายน้ำก้นอ่างเก็บน้ำออกมาได้ ถ้าฝนแท้ไม่ตก การทำฝนเทียมไม่ได้ผลตามคาดหวัง
มีใครรู้สึกรู้สา ตื่นเต้นกับเรื่องนี้บ้าง โดยเฉพาะผู้บริหารบ้านเมือง?
ก็เห็นมีอาการตื่นเต้น เมื่อมีข่าวว่าบางพื้นที่ในปทุมธานีไม่มีน้ำประปาใช้ ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ทั้งๆ ที่มีคำเตือนจากการประปาฯ ในพื้นที่ให้เก็บน้ำไว้บ้าง
เมื่อเกิดวิกฤต ทหารนำรถน้ำไปบรรเทาปัญหา ทางการเร่งผันน้ำ เปิดทางที่ชาวบ้านกั้นน้ำไว้ใช้เพื่อระบายน้ำเข้าคลองตามปกติ
คนกรุงอาจไม่ตื่นเต้นเมื่อการประปาฯ บอกว่ามีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ผู้ว่าการประปาฯ บอกว่าถ้าน้ำไม่ไหลเข้าเขื่อน ฝนไม่ตกมากพอ คนเมืองหลวงจะมีน้ำประปาใช้เพียง 30 วัน และนั่นก็ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว
คนกรุงอาจมองว่าตราบใดที่แม่น้ำเจ้าพระยายังมีน้ำไหล ไม่น่ากังวล เปิดก๊อกน้ำดู น้ำก็ไหลแรงเป็นปกตินี่ ไม่น่าจะมีปัญหามั้ง...วิกฤตต้องมีทางออก ดูปี 2554 น้ำท่วมเกือบทั่วประเทศ แต่ใจกลางเมืองไม่มีปัญหานี่
ช่วงน้ำท่วมมีน้ำเยอะ มองไปทางไหนมีแต่น้ำ แต่ดื่มไม่ได้สักหยด ถ้าเป็นภาวะแล้ง ไม่มีแม้แต่น้ำขุ่นเอามาแกว่งสารส้มชะล้าง รดน้ำพืช จะทำอย่างไร คนกรุงยังไม่เคยขาดแคลนน้ำใช้เหมือนเกษตรกรในต่างจังหวัด
คุณสมิทธ ธรรมสาโรช เจ้าเก่าเตือนว่าฝนจะยังมีน้อยช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน เพราะปัญหาสภาวะอากาศแปรปรวน พิษสงของเอลนีโญ
จะไม่มีพายุไต้ฝุ่นหรือมรสุมหอบฝนเข้าประเทศไทยอีกนาน ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเอาน้ำจากไหนมาบริการเป็นน้ำประปา เมื่อระดับในเขื่อนไม่เหลือพอ
ลองนั่งนึกดูซิว่าถ้าน้ำประปาขาดแคลนถึงขั้นต้องปิดเปิดระบบเป็นบางช่วงจนถึงแบ่งปันน้ำใช้ มหานครขนาดใหญ่อย่างกรุงเทพฯ จะวุ่นวายแค่ไหน
ถ้ายังมีทรัพยากร เครือข่ายญาติมิตร คนส่วนหนึ่งต้องหลบวิกฤตไปอยู่ภาคใต้ซึ่งมีปัญหาน้ำมากเกินไปเพราะเผชิญมรสุมหลายเดือนในแต่ละปี
กรุงเทพฯ มีคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ อาคารสูงหลายรูปแบบ มีคนอาศัยเป็นล้านๆ คน ถ้าไม่มีน้ำประปาขึ้นไปถึง จะใช้ชีวิตแบบไหน อาคารเกือบทั้งหมดมีถังน้ำสำรอง แต่ไม่มีน้ำบาดาลเพราะรัฐบาลห้ามขุดด้วยมีปัญหาแผ่นดินทรุด
โรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร สถานศึกษาต่างๆ เรือนจำ ต้องใช้น้ำเหมือนชาวบ้าน ถ้ากรุงเทพฯ มีปัญหาขาดน้ำเรื้อรัง การท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศยามนี้จะมีปัญหาเมื่อนักท่องเที่ยวไม่มาเพราะกลัวลำบาก
ปัญหาภัยแล้ง แม่น้ำเหือดแห้ง น้ำในเขื่อนไม่เหลือ ต่อให้มีเงินเป็นแสนๆ ล้านบาทก็เนรมิตหรือสร้างแม่น้ำไม่ได้ เราไม่เคยเห็นคุณค่าของน้ำ ไม่เก็บกักไว้ มีน้ำมามากก็เร่งระบายน้ำลงทะเลโดยตลอด ไม่สนใจขุดแก้มลิง
แม่น้ำลำคลอง อ่างแอ่งเก็บน้ำธรรมชาติตื้นเขินชั่วนาตาปี ไม่มีนโนบายขุดลอกอย่างจริงจัง แนวคิดของในหลวงเรื่องแก้มลิงไม่มีใครใส่ใจ เพราะเชื่อว่าประเทศไทยไม่มีวันขาดน้ำ ที่ผ่านมามีแต่ปัญหาน้ำป่าไหลหลากท่วมทุกปี
ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ทำให้เกิดความแห้งแล้ง ดินไม่อุ้มน้ำ ดินถล่ม ยิ่งไม่ขุดลอกแม่น้ำลำคลอง ขุดอ่างเก็บน้ำไว้เพื่อลดระดับน้ำท่วม ปัญหาจะมีแต่พอกพูน เพราะคนบ้านนี้เมืองนี้สุขสบายกับธรรมชาติเกินไป
เคยบอกผู้นำประเทศแล้วว่าช่วงนี้เป็นโอกาสเหมาะที่จะระดมสรรพกำลังจากภาครัฐ เอกชนเร่งเอารถขุดดิน รถขุดตักสารพัดชนิดไปขุดลอกแม่น้ำแห้งให้เป็นหลุมท้องช้างเพื่อดักน้ำไม่ให้ไหลไปหมด ขุดอ่างเก็บน้ำ คูคลอง
ต้องทำให้ช่วงที่น้ำไม่มี เพราะน้ำมาจะขุดลอกไม่ได้ ขอให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเชิญผู้นำ 3 สถาบันธุรกิจหลัก เจ้าสัว บริษัทก่อสร้าง ผู้รับเหมาให้เอาอุปกรณ์รถขุดต่างๆ เพื่อกู้วิกฤตของชาติในเวลานี้โดยเร็วที่สุด
อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการเตรียมการเพื่อเก็บน้ำไว้ เมื่อมีน้ำมา จะได้ไม่เกิดปัญหาอย่างที่เห็นทุกวันนี้ และยังไม่มีทางออกนอกจากรอคอยฝนตก
ไม่เห็นทำอะไร หรือกลัวเสียหน้า? หรือยังนึกว่าพระสยามเทวาธิราชจะรับงานแก้วิกฤตอีกครั้ง ถ้าเป็นจริงก็เพราะสงสารคนไทย สิ้นหวังกับผู้บริหารบ้านเมืองไร้วิสัยทัศน์ ขาดภูมิปัญญา เจตนาดี กุศลจิตคิดช่วยบ้านเมือง
ถ้าไม่มีน้ำใช้ เจ้าสัว คนมีฐานะดีอาจมีทางออก แต่คนทั่วไปอาศัยบนตึกสูงๆ ต้องเผชิญกับวิบากกรรมเพราะความชั่วร้าย เห็นแก่ได้ของนักการเมืองผสมกับความโง่เขลาเบาปัญญาแล้วยังเสือกไปสั่งงานเรื่องจัดการน้ำในอดีต
หน้าเดิมๆ เสือกมาก ทำให้น้ำท่วมเกือบทั่วประเทศในปี 2554 เสียหายกว่า 1.1 ล้านล้านบาทโดยการประเมินของธนาคารโลก สร้างวิกฤตเรื่องข้าวเสียหายกว่า 9 แสนล้านบาท ภัยแล้งเพราะปล่อยน้ำเยอะจะหายนะเท่าไหร่
ไม่ลงโทษแล้วยังจะมีหน้ามาขอให้สร้างความปรองดองอีก นี่หรือไทยๆ
มีแน่นอน...ทุกวันนี้คนเมืองกรุงยังไม่สะดุ้งสะเทือนกับปัญหาระดับน้ำในเขื่อนหลักเกือบทั่วประเทศลดต่ำลงจนใกล้ถึงจุดที่จะไม่สามารถระบายน้ำก้นอ่างเก็บน้ำออกมาได้ ถ้าฝนแท้ไม่ตก การทำฝนเทียมไม่ได้ผลตามคาดหวัง
มีใครรู้สึกรู้สา ตื่นเต้นกับเรื่องนี้บ้าง โดยเฉพาะผู้บริหารบ้านเมือง?
ก็เห็นมีอาการตื่นเต้น เมื่อมีข่าวว่าบางพื้นที่ในปทุมธานีไม่มีน้ำประปาใช้ ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ทั้งๆ ที่มีคำเตือนจากการประปาฯ ในพื้นที่ให้เก็บน้ำไว้บ้าง
เมื่อเกิดวิกฤต ทหารนำรถน้ำไปบรรเทาปัญหา ทางการเร่งผันน้ำ เปิดทางที่ชาวบ้านกั้นน้ำไว้ใช้เพื่อระบายน้ำเข้าคลองตามปกติ
คนกรุงอาจไม่ตื่นเต้นเมื่อการประปาฯ บอกว่ามีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ผู้ว่าการประปาฯ บอกว่าถ้าน้ำไม่ไหลเข้าเขื่อน ฝนไม่ตกมากพอ คนเมืองหลวงจะมีน้ำประปาใช้เพียง 30 วัน และนั่นก็ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว
คนกรุงอาจมองว่าตราบใดที่แม่น้ำเจ้าพระยายังมีน้ำไหล ไม่น่ากังวล เปิดก๊อกน้ำดู น้ำก็ไหลแรงเป็นปกตินี่ ไม่น่าจะมีปัญหามั้ง...วิกฤตต้องมีทางออก ดูปี 2554 น้ำท่วมเกือบทั่วประเทศ แต่ใจกลางเมืองไม่มีปัญหานี่
ช่วงน้ำท่วมมีน้ำเยอะ มองไปทางไหนมีแต่น้ำ แต่ดื่มไม่ได้สักหยด ถ้าเป็นภาวะแล้ง ไม่มีแม้แต่น้ำขุ่นเอามาแกว่งสารส้มชะล้าง รดน้ำพืช จะทำอย่างไร คนกรุงยังไม่เคยขาดแคลนน้ำใช้เหมือนเกษตรกรในต่างจังหวัด
คุณสมิทธ ธรรมสาโรช เจ้าเก่าเตือนว่าฝนจะยังมีน้อยช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน เพราะปัญหาสภาวะอากาศแปรปรวน พิษสงของเอลนีโญ
จะไม่มีพายุไต้ฝุ่นหรือมรสุมหอบฝนเข้าประเทศไทยอีกนาน ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเอาน้ำจากไหนมาบริการเป็นน้ำประปา เมื่อระดับในเขื่อนไม่เหลือพอ
ลองนั่งนึกดูซิว่าถ้าน้ำประปาขาดแคลนถึงขั้นต้องปิดเปิดระบบเป็นบางช่วงจนถึงแบ่งปันน้ำใช้ มหานครขนาดใหญ่อย่างกรุงเทพฯ จะวุ่นวายแค่ไหน
ถ้ายังมีทรัพยากร เครือข่ายญาติมิตร คนส่วนหนึ่งต้องหลบวิกฤตไปอยู่ภาคใต้ซึ่งมีปัญหาน้ำมากเกินไปเพราะเผชิญมรสุมหลายเดือนในแต่ละปี
กรุงเทพฯ มีคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ อาคารสูงหลายรูปแบบ มีคนอาศัยเป็นล้านๆ คน ถ้าไม่มีน้ำประปาขึ้นไปถึง จะใช้ชีวิตแบบไหน อาคารเกือบทั้งหมดมีถังน้ำสำรอง แต่ไม่มีน้ำบาดาลเพราะรัฐบาลห้ามขุดด้วยมีปัญหาแผ่นดินทรุด
โรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร สถานศึกษาต่างๆ เรือนจำ ต้องใช้น้ำเหมือนชาวบ้าน ถ้ากรุงเทพฯ มีปัญหาขาดน้ำเรื้อรัง การท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศยามนี้จะมีปัญหาเมื่อนักท่องเที่ยวไม่มาเพราะกลัวลำบาก
ปัญหาภัยแล้ง แม่น้ำเหือดแห้ง น้ำในเขื่อนไม่เหลือ ต่อให้มีเงินเป็นแสนๆ ล้านบาทก็เนรมิตหรือสร้างแม่น้ำไม่ได้ เราไม่เคยเห็นคุณค่าของน้ำ ไม่เก็บกักไว้ มีน้ำมามากก็เร่งระบายน้ำลงทะเลโดยตลอด ไม่สนใจขุดแก้มลิง
แม่น้ำลำคลอง อ่างแอ่งเก็บน้ำธรรมชาติตื้นเขินชั่วนาตาปี ไม่มีนโนบายขุดลอกอย่างจริงจัง แนวคิดของในหลวงเรื่องแก้มลิงไม่มีใครใส่ใจ เพราะเชื่อว่าประเทศไทยไม่มีวันขาดน้ำ ที่ผ่านมามีแต่ปัญหาน้ำป่าไหลหลากท่วมทุกปี
ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ทำให้เกิดความแห้งแล้ง ดินไม่อุ้มน้ำ ดินถล่ม ยิ่งไม่ขุดลอกแม่น้ำลำคลอง ขุดอ่างเก็บน้ำไว้เพื่อลดระดับน้ำท่วม ปัญหาจะมีแต่พอกพูน เพราะคนบ้านนี้เมืองนี้สุขสบายกับธรรมชาติเกินไป
เคยบอกผู้นำประเทศแล้วว่าช่วงนี้เป็นโอกาสเหมาะที่จะระดมสรรพกำลังจากภาครัฐ เอกชนเร่งเอารถขุดดิน รถขุดตักสารพัดชนิดไปขุดลอกแม่น้ำแห้งให้เป็นหลุมท้องช้างเพื่อดักน้ำไม่ให้ไหลไปหมด ขุดอ่างเก็บน้ำ คูคลอง
ต้องทำให้ช่วงที่น้ำไม่มี เพราะน้ำมาจะขุดลอกไม่ได้ ขอให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเชิญผู้นำ 3 สถาบันธุรกิจหลัก เจ้าสัว บริษัทก่อสร้าง ผู้รับเหมาให้เอาอุปกรณ์รถขุดต่างๆ เพื่อกู้วิกฤตของชาติในเวลานี้โดยเร็วที่สุด
อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการเตรียมการเพื่อเก็บน้ำไว้ เมื่อมีน้ำมา จะได้ไม่เกิดปัญหาอย่างที่เห็นทุกวันนี้ และยังไม่มีทางออกนอกจากรอคอยฝนตก
ไม่เห็นทำอะไร หรือกลัวเสียหน้า? หรือยังนึกว่าพระสยามเทวาธิราชจะรับงานแก้วิกฤตอีกครั้ง ถ้าเป็นจริงก็เพราะสงสารคนไทย สิ้นหวังกับผู้บริหารบ้านเมืองไร้วิสัยทัศน์ ขาดภูมิปัญญา เจตนาดี กุศลจิตคิดช่วยบ้านเมือง
ถ้าไม่มีน้ำใช้ เจ้าสัว คนมีฐานะดีอาจมีทางออก แต่คนทั่วไปอาศัยบนตึกสูงๆ ต้องเผชิญกับวิบากกรรมเพราะความชั่วร้าย เห็นแก่ได้ของนักการเมืองผสมกับความโง่เขลาเบาปัญญาแล้วยังเสือกไปสั่งงานเรื่องจัดการน้ำในอดีต
หน้าเดิมๆ เสือกมาก ทำให้น้ำท่วมเกือบทั่วประเทศในปี 2554 เสียหายกว่า 1.1 ล้านล้านบาทโดยการประเมินของธนาคารโลก สร้างวิกฤตเรื่องข้าวเสียหายกว่า 9 แสนล้านบาท ภัยแล้งเพราะปล่อยน้ำเยอะจะหายนะเท่าไหร่
ไม่ลงโทษแล้วยังจะมีหน้ามาขอให้สร้างความปรองดองอีก นี่หรือไทยๆ
