xs
xsm
sm
md
lg

ตอก"วิษณุ"เสียดายเงินวางศาล ชี้คุ้มค่าทวงคืนค่าเสียหาย5แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"หมอวรงค์"ตอก "วิษณุ"อย่าบ่นใช้เงินนับพันล้านเป็นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายโครงการจำนำข้าว "ยิ่งลักษณ์" และคณะ ทั้งๆ ที่ความเสียหายมากกว่า 5 แสนล้านบาท ย้ำใช้ไปเถอะ ไม่มีใครว่า เหตุจะเป็นบรรทัดฐานให้นักการเมืองเกรงกลัวการออกนโยบายที่ผิดพลาด อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งธนบุรีระบุค่าธรรมเนียมไม่ใช่ปัญหา หากรัฐต้องฟ้องคดีจำนำข้าว ด้าน "วิษณุ"แจงฟ้องค่าเสียหายส่งเดชไม่ได้

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยระบุถึงการดำเนินการเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเห็นข่าวนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์กรณีเรียกร้องค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะในโครงการรับจำนำข้าว โดยอ้างว่ารู้สึกเสียดายที่ต้องใช้เงินเป็นค่าธรรมเนียมศาลจำนวนนับพันล้านบาท ดูแล้วรู้สึกนายวิษณุพูดความจริงไม่หมด แต่เชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถ้าจะต้องเสียไปเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องร้องค่าเสียหายครั้งนี้ ไม่มีประชาชนคนไหนว่าแน่นอน เชื่อว่าอย่างน้อยจะได้เป็นบรรทัดฐาน และเป็นข้อคิดแก่รัฐบาลต่อๆ ไป ในการออกนโยบายที่นำไปสู่ความเสียหาย ทั้งๆ ที่หลายหน่วยงานเตือน ที่สำคัญความเสียหายนั้นเกิดจากการทุจริต ดังนั้น จึงขอให้รีบดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

ส่วนกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบข้าวเสื่อม 5.8 ล้านตันก่อนระบายออก และแนะเอาข้าวไปทำเส้นก๋วยเตี๋ยวและแป้ง เพราะจะได้ราคามากกว่าเอทานอลนั้น ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยคงไม่รู้เรื่องการระบายข้าว เพราะปกติแล้ว ข้าวที่เอาไปทำอาหารสัตว์ เส้นก๋วยเตี๋ยวหรือแป้งนั้น มีการซื้อขายตามปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะปลายข้าว ที่สำคัญข้าวเสื่อมสภาพมีเชื้อราก็ไม่นำไปใช้ เพราะสัตว์จะท้องเสียได้

ทั้งนี้ เห็นว่าโดยปกติ หากเกิดภาวะภัยแล้ง ราคาข้าวเปลือกควรจะขึ้นแตะที่ตันละ 1 หมื่นบาทขึ้นไป แต่ปัจจุบันยังอยู่ที่ราคาตันละ 8,400 ถึง 8,500 บาท เพราะปริมาณข้าวในโกดังหลอกหลอนตลาดข้าวอยู่

"ผมยังคงสนับสนุนให้รัฐบาลหาจังหวะระบายข้าวตลอดไป ส่วนข้าวเสื่อมสภาพที่จะไปทำแอลกอฮอล์หรือเผาเพื่อทำพลังงาน รัฐบาลต้องแน่ใจนะครับว่าข้าวพวกนี้ไม่ถูกส่งไปเพ่นพ่านตามโรงสีต่างๆ ถ้ารัฐบาลคุมไม่ได้ ข้าวเหล่านี้จะทำลายตลาดข้าวภายในประเทศทันที แต่ถ้ารัฐบาลไม่แน่ใจว่าจะคุมได้ ควรเปิดประมูลทั่วไปแก่ผู้ประกอบการทุกประเภท ตามสภาพข้าวเสื่อม โดยให้กลไกตลาดทำงานจะเป็นประโยชน์มากกว่า"นพ.วรงค์กล่าว

ก่อนหน้านี้ นพ.วรงค์เคยออกมาระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า 5 แสนล้านบาท โดยมีหลักฐานยืนยันจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีที่สรุปออกมา

นายศรีอัมพร ศาลิคุปต์ อดีตอธิบดีผู้พากษาศาลแพ่งธนบุรี กล่าวชี้ข้อกฎหมายในการคิดคำนวณค่าธรรมเนียมจะวางต่อศาล หากรัฐเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เรื่อง ค่าธรรมเนียมศาลนั้น ระบุว่า ฝ่ายโจทก์จะต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมศาล ที่คำนวณร้อยละ 2 จากจำนวนทุนทรัพย์ โดยค่าธรรมเนียมในส่วนนี้คำนวณสูงสุดจะไม่เกิน 200,000 บาท แต่ถ้าทุนทรัพย์เกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป ก็จะคิดค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.1

เมื่อถามว่าคดีนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย จะสามารถงดเว้น ในส่วนค่าธรรมเนียมศาล ได้หรือไม่ นายศรีอัมพร กล่าวว่า แม้จะเป็นคดีที่เป็นความเสียหายต่อรัฐ ซึ่งอัยการจะเป็นผู้ฟ้องร้องคดีก็ตาม แต่กระทรวงการคลังจะต้องเป็นผู้ที่จ่ายค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งนั้น ปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมศาลนั้น ตนมองว่า ไม่ใช่เหตุผลสาระสำคัญแต่อย่างใด เพราะหากคำนวณตามหลักเกณฑ์ที่ต้องเสียจริงถือว่าไม่มาก และค่าธรรมเนียมที่กระทรวงการคลังจะต้องถูกบังคับให้เสียที่ศาลนั้น ในภายหลังศาลก็จะต้องส่งคืนกระทรวงการคลังอยู่ดี ไม่ได้มีการเก็บไว้เองเพราะเป็นรายได้แผ่นดิน

"ปัญหาที่ว่าเสียค่าธรรมเนียมศาลไม่ใช่เหตุผล ก็เหมือนเป็นการควักออกกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา"อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งธนบุรีกล่าว

ด้านนายวิษณุ กล่าวชี้แจงในเรื่องนี้ว่า จำนวนเงินที่จะเรียกค่าเสียค่าเสียหายจากแต่ละคนต้องคิดให้เป๊ะ กี่พัน กี่หมื่นล้านบาท เพราะเงินที่จะวางศาล มีเงื่อนไขกำหนดไว้แล้วว่าจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ฟ้องเรียกทั้งหมด และเมื่อคดีจบ ตรงนี้จะแล้วแต่ศาลจะมีคำสั่ง ซึ่งจะมีอยู่ 3 อย่าง คือ ชนะหรือแพ้ไม่สำคัญ ศาลให้คืน ศาลยึดไป หรือศาลยึดบางส่วน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับคำพิพากษา ถึงได้บอกว่าไม่เป็นปัญหาคงไม่ได้ เป็นปัญหาเหมือนกัน เบื้องต้นจะเรียกเอากี่บาทต้องใกล้เคียงที่สุด อย่าเรียกส่งเดช เพราะตรงนี้ไปผูกกับค่าวางศาล หลักนี้มีมานาน เพื่อไม่ให้คนไปฟ้องกันเล่นๆ และเมื่อถึงเวลาฟ้องก็ไม่จำเป็นต้องฟ้องพร้อมกันทั้งหมดก็ได้ รู้ของใครก่อนก็ฟ้องก่อน

เมื่อถามว่าถ้ารัฐเป็นฝ่ายแพ้ ผู้ถูกร้องมีสิทธิฟ้องกลับหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ถ้ารัฐฟ้องด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้แกล้ง ศาลตัดสินมาเยอะแยะแล้วว่า ฟ้องกลับไม่ได้ เพราะทุกคนใช้สิทธิ์ตามศาล แต่ถ้าใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริตอยู่ดีไปฟ้องโดยไม่มีเรื่องมีราวก็ฟ้องกลับได้ และคดีแพ่งก็สามารถยอมความได้ หากเอาเงินมาจ่ายก็จบ

ขณะที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ภายในเดือนก.ค.นี้ จะต้องระบายข้าวสารเสื่อมคุณภาพ หรือข้าวเกรดซีในสต็อกรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนโกดังที่มีข้าวเกรดซีทั้งหมดปริมาณรวม 1.29 ล้านตัน ไปยังอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอล เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาตลาดมันสำปะหลังที่จะออกสู่ตลาดช่วงเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ โดยเบื้องต้นกำหนดจะเปิดประมูล 2 ครั้ง ซึ่งปริมาณแต่ละครั้ง ต้องขึ้นอยู่กับตำรวจว่าจะทำสำนวนคดีข้าวจำนวนนี้แล้วเสร็จมากน้อยเพียงใด เพราะล่าสุดกำหนดว่าต้องส่งสำนวนคดีมายังกระทรวงพาณิชย์ภายในวันที่ 3 ก.ค.2558 แต่ต้องเลื่อนออกไป เพราะจำนวนโกดังมีมากกว่า 1,000 แห่ง และกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ให้ได้

"จริงๆ แล้ว ข้าวที่ติดคดีความ ยังไม่สามารถระบายได้ แต่กระทรวงฯ ได้มีการหารือร่วมกับกฤษฎีกา เพื่อนำข้าวที่เก็บหลักฐานทางคดีเสร็จแล้ว ออกมาขายไปก่อน เพราะหากยิ่งเก็บไว้ ก็จะยิ่งเสื่อมสภาพ และจะยิ่งทำให้รัฐเสียหายมากไปกว่านี้ แต่ยืนยันได้ว่าแม้จะขายข้าวไปแล้ว ส่วนต่างที่เป็นความเสียหาย ก็จะมีการฟ้องร้องเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ชดใช้ต่อไป"พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น