xs
xsm
sm
md
lg

"ชนม์สวัสดิ์"รับจ้าง"สมยศ"ทำคดี ตำรวจนัดสรุป บีบปมฆ่า10ก.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ทนายความ "ชนม์สวัสดิ์" ยอมรับเคยว่าจ้าง "สมยศ" ทำคดีทุจริตเลือกตั้งปี 42 แต่ทุกอย่างจบด้วยดี เคลียร์เงินคืนกันหมดแล้ว ตำรวจแย้มอาจต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม หากมีความจำเป็น พร้อมจ่อเรียก "จ่ามวล" ทหารนอกราชการมาสอบด้วย เตรียมนัดสรุปปมสังหารอีกครั้ง 10 ก.ค.นี้

พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีฆ่านายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบประเด็นปมสังหารนายสมยศที่ตั้งเอาไว้ทุกประเด็น และในวันที่ 10ก.ค.2558 เวลาประมาณ19.00น. จะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อประชุมสรุปความคืบหน้าของคดี โดยนำข้อมูลพยานและหลักฐานทั้งหมดมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการสังหารนายสมยศว่ามาจากเรื่องอะไร และประเด็นใดมีน้ำหนักมากที่สุด รวมทั้งการสืบสวนติดตามกลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุ

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ ให้นายสมยศรับเคลียร์คดีตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นวงเงิน 5 ล้านบาทนั้น ทนายความของนายชนม์สวัสดิ์ เดินทางมาให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแล้ว โดยระบุว่า นายชนม์สวัสดิ์ เคยขอความช่วยเหลือและปรึกษาเกี่ยวกับคดีจริง แต่วงเงิน 2.5 ล้านบาท ไม่ใช่จำนวน 5 ล้านบาท แต่นายสมยศ ได้เงินคืนดังกล่าวให้นายชนม์สวัสดิ์ ไปหมดแล้ว เนื่องจากรับงานไปแล้ว คาดว่าไม่น่าจะช่วยเหลือคดีได้

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากชุดคลี่คลายคดีว่านายสมยศ ได้รับว่าความดคีให้กับนายชนม์สวัสดิ์ กรณีถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งเมื่อปี 2542 ส่วนจะมีการเรียกนายชนม์สวัสดิ์มาให้ปากคำหรือไม่นั้น ตนได้มีการประชุมกำชับพนักงานสอบสวน สน.คลองตันว่าหากมีความจำเป็นต้องเรียกมาให้ปากคำ ก็ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น

ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนยังคงให้น้ำหนักในแต่ละประเด็นเท่าๆ กัน คือ เรื่องหนี้สิน การเล่นพนันกับกลุ่มของนางศุภนิดา นรรัตน์ หรือก้อย และนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก ชุมพร สามีของนางศุภนิดา ข้อพิพาทฟ้องร้องเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 เรื่องอ้างวิ่งเต้นช่วยเหลือคดียาเสพติด ความขัดแย้งกันในครอบครัว และปมธุรกิจ โดยเฉพาะการรับเคลียร์คดีสำคัญต่างๆ ได้ประสานให้ทางกองปราบปรามทำหน้าที่เรียงลำดับความสำคัญของคดีที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการจ้างวานสังหารอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ชื่อดังด้วย

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือยิงนายสมยศ และหลบหนีมาจนถึงบริเวณถนนเสรีไทย 11 จากนั้นมีรถเก๋งมารับไปหลังเกิดเหตุ ถามว่าเป็นรถคันสีขาวหรือไม่ ตนไม่ยืนยัน เนื่องจากหากมีการจับกุมคนร้ายได้ พบว่ารถที่พาหลบหนีไม่ใช่สีขาว ซึ่งอาจเป็นเหตุให้คนร้ายนำไปแก้ต่างในชั้นศาลได้

สำหรับการติดตามรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ มีรายงานแจ้งว่าน่าจะนำไปซุกซ่อนไว้บริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถาน แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เบื้องต้นได้สั่งการให้ บก.สส.บก.น.5 นำกำลังไปตรวจสอบแล้ว หากเจอให้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และประสานทั้ง 88 สน.ทั่วนครบาล เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายให้ได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้ชุดคลี่คลายคดีเร่งสืบสวนสอบสวนให้สิ้นกระแสความ และให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบช่วยประสานข้อมูลกันอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งสรุปผลรายงานความคืบหน้ามาที่ตน ทุก 24 ชม.

มีรายงานข่าวจากชุดคลี่คลายคดี แจ้งว่า เตรียมเชิญตัวคนสนิทของนายสมยศมาสอบปากคำอีก 2 ราย คือ จ่ามวล ทหารนอกราชการ คนสนิทนายสมยศ และเป็นคนโทรศัพท์ไปหานางศุภนิดา ในวันเกิดเหตุว่านายเสียแล้ว รวมถึงนายณรงค์ ที่รู้จักสนิทสนมกับนายสมยศ และเป็นคนที่นายสมยศไว้วางใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง รวมถึงเรื่องการฟ้องร้องนายสมชัย นางมุกรินทร์ นิตยา หรือเรียม น้องสาวนายสมชัย และนายปริญญา ปิยะภาค หรือปีเตอร์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ในความผิดต่างกรรมต่างวาระกับตำรวจ 6สน. และเป็นคนติดต่อเสธ ณุ หรือนายภาณุ จันทร์ศรี ให้รู้จักกับนายสมยศ ซึ่งต่อมานายสมยศได้ไว้วางใจให้เป็นตัวแทนเจรจาทวงหนี้ 25 ล้านบาท จากกลุ่มของนายสมชัยด้วย

ที่ กก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขณะนี้การสืบสวนทางคดีมีผลคืบหน้าไปมากแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการทยอยเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ รวมถึงจะมีการเรียกตัวนางรัศมี ภรรยานายสมยศ เข้ามาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ส่วนที่มีรายงานว่าไดอารี่ของนายสมยศ มีหลักฐานสำคัญที่ผู้ตายเขียนบันทึกเอาไว้ก่อนถูกสังหาร พบว่ามีรายชื่อของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อยู่ในไดอารี่เล่มดังกล่าว จากการตรวจสอบของฝ่ายสืบสวนไม่พบว่ามีชื่อของนายชนม์สวัสดิ์ตามที่เป็นข่าว และไม่ได้มีการเรียกมาพบเพื่อสอบปากคำแต่อย่างใด

พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. กล่าวว่า ภาพความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้ายเริ่มชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเบาะแส รถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่มีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และกรณี เสธ.ณุ ได้เรียกมาสอบแล้วหนึ่งครั้ง ก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งความสัมพันธ์ของ เสธ.ณุ กับผู้ตาย เป็นลักษณะของการแนะนำกันมาจากอีกคนหนึ่ง สำหรับประเด็นของการรับเคลียร์คดีมีมากกว่า 10 เรื่อง และได้หาความเชื่อมโยงกันของแต่ละเรื่อง และจะมีการสรุปความเกี่ยวข้องในวันที่ 10 ก.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น