xs
xsm
sm
md
lg

ตร.หาหลักฐานโทรศัพท์"สมยศ" ตรวจคลิปเสียง "เสธ.นุ-ผัวก้อย"เข้าให้ปากคำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-กองปราบปรามเร่งสืบสวนปมสังหาร "สมยศ สุธางค์กูร" ยันยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องพนัน เงินวิ่งเต้นคดี และที่ดินพระราม 9 เผยเรียก เสธ.นุ-นายเล็ก สอบปากคำแล้ว พบให้การเป็นประโยชน์ พร้อมเร่งตรวจสอบคลิปเสียงที่เจ้าตัวบันทึกไว้ หาหลักฐานเพิ่ม ผบ.ตร.เผยเจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าตัวคนร้าย ตำรวจเชิญภรรยา-ลูก ให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังพบขัดแย้งกับคำให้การ "ก้อย" คนสนิท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาการ รอง ผบช.ก. เรียกประชุมคดีสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อายุ 62 ปี โดยมี พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย ผกก.4 บก.ป.และชุดสืบสวน บก.ป.เข้าร่วม

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ภายหลังได้เข้าร่วมประชุมกับคณะทำงานที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งมี พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.เป็นประธานร่วมกับชุดสืบสวน บช.น. กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) รวมทั้งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ยังคงยืนยันตามที่ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ระบุไว้ว่าขณะนี้มุ่งประเด็นการสังหารนายสมยศไปที่ 3 ประเด็น คือ ฆ่าหักล้างหนี้สินจากการเล่นการพนัน, ความขัดแย้งเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 และกรณีที่มีผู้เสียหายทราบเพียงว่าชื่อนางม้อ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ตั้งแต่ปี 2556 เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายสมยศ หลังจากถูกหลอกลวงว่าสามารถวิ่งเต้นล้มคดีได้ โดยจ่ายเงินไปแล้ว 15 ล้านบาท แต่ภายหลังนายสมยศ กลับวิ่งเต้นคดีให้ไม่ได้

ส่วนประเด็นปลีกย่อยอื่นๆ ยังไม่พบว่ามีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะเป็นชนวนเหตุของการสังหาร แต่ยืนยันว่าไม่ได้ตัดทิ้งในทุกประเด็น

สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวน บช.น.จะเป็นเจ้าภาพหลักในการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี สำหรับ บก.ป.จะคอยเสริมเท่านั้น

***ยังไม่เรียกใครสอบปากคำเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเรียกพยานสำคัญในคดีมาสอบปากคำ พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ขณะนี้มีเพียงการพบปะกับบุคคลที่มีรายชื่อเกี่ยวพันกับคดีนี้เท่านั้น ยังไม่มีการเรียกผู้ใดมาเพื่อสอบปากคำ และพนักงานสอบสวนจะประสานข้อมูลต่อ บช.น.ว่ายังมีความจำเป็นจะต้องสอบปากคำพยานรายใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่

***ตอบไม่ได้มือปืนอยู่ซุ้มใด

เมื่อถามว่ามือปืนที่ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มมือปืนซุ้มใดหรือไม่ พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า คงจะเร็วเกินไปที่จะระบุว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นมือปืนหรือไม่ และเป็นมือปืนในซุ้มใด เพราะยังต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นก่อน สำหรับอาวุธปืนที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุนั้นพบว่าใช้กระสุนปืนเป็นขนาด .38

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความชัดเจนในเรื่องเส้นทางการก่อเหตุและหลบหนีของคนร้ายแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามประสานงานร่วมกับตำรวจนครบาล ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหาตามภาพสเก็ตช์ไว้แล้วคงต้องขอเวลาในการสืบสวนติดตามอีกระยะหนึ่ง

***เร่งตรวจคลิปเสียงที่บันทึกไว้

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจได้เชิญ เสธ.นุ นายทหารนอกราชการที่เป็นคนเคลียร์เรื่องเงิน ระหว่างนายสมยศ และนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก ชุมพร รวมถึงเชิญตัวนายเล็กมาซักถามแล้ว เบื้องต้นทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และให้ความร่วมมือดี โดยตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติของนายเล็ก และยังไม่ตัดประเด็นการสังหารใดทิ้ง แต่ยังคงให้น้ำหนักเรื่องความขัดแย้งเรื่องการพนัน และการวิ่งเต้นคดี ที่มีมูลค่าเงินสูง และมีข้อมูลว่ามีการต่อรองกัน

"ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบบันทึกของนายสมยศอย่างละเอียด และตรวจคลิปเสียงที่นายสมยศบันทึกไว้ขณะคุยโทรศัพท์กับบุคคลอื่นๆ ส่วนข้อมูลที่นางศุภนิดา และนางรัศมี ภรรยาของนายสมยศ ที่ให้การขัดแย้งกัน ตำรวจอยู่ระหว่างหาพยานคนกลาง และพยานหลักฐานมายืนยัน"

ส่วนของการตรวจพิสูจน์กระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบว่าเป็นอาวุธปืนขนาด .38 พบหัวกระสุน เป็นขนาดของปืนลูกโม่ ในตัวของผู้ตาย 3 นัด และตกอยู่ในรถ 1 นัด ซึ่งระยะของวิถีกระสุน ที่พบในรถกดลงค่อนข้างมาก สันนิษฐานได้ว่า คนร้ายยิงในระยะใกล้ ซึ่งหลักฐานจากหัวกระสุน ก็จะนำไปเปรียบเทียบกับอาวุธปืนว่า มาจากกระบอกใด และผู้ต้องหาเคยใช้ก่อเหตุในคดีใดหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด แพทย์รพ.ตำรวจ ได้เปิดเผยผลการผ่าพิสูจน์ศพนายสมยศ พบว่ามีกระสุนขนาด 9 มม. อยู่ในร่างกายผู้ตายด้วย

***หาหลักฐานมัดคนจ้างวาน

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนคดีนี้ จะทำควบคู่กันไป ทั้งการสอบและการสืบหาพยานหลักฐานที่จะมัดตัวคนร้าย ทั้งชุดของกลุ่มมือปืน 2 คน ที่ศาลได้อนุมัติหมายจับไปแล้ว และกลุ่มของผู้ใช้จ้างวาน

***ผบ.ตร.เผยกำลังไล่ล่าตัวคนร้าย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีคนร้ายสังหารนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิตว่า ตนได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่เป็นมือปืนลอบยิง นายสมยศ แล้ว 2 คน ตามภาพสเกตช์ ทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายอยู่ โดยคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเนื่องจากอาจทำให้เสียรูปคดี อีกทั้งจะทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นอันเป็นชนวนของการลอบสังหารใดทิ้ง ทั้งเรื่องธุรกิจการงาน การขัดแย้งผลประโยชน์ หรือเรื่องอื่นๆ ทุกประเด็นตำรวจยังคงให้ความสำคัญและเร่งขยายผลไปถึงผู้จ้างวานโดยเร็วที่สุด

“การเชิญตัวบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมครั้งนี้มาให้ข้อมูลนั้น เป็นไปตามดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่เห็นว่าใครน่าจะเกี่ยวข้องหรือมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางคดีมาซักถาม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยตามหมายจับได้หรือไม่นั้นขอไม่เปิดเผย แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างเต็มที่” ผบ.ตร.กล่าว

***เชิญภรรยา-ลูกสอบปมสังหารเพิ่ม

รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกันนี้ ที่ สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนางรัศมี สุธางค์กูร อายุ 53 ปี ภรรยา และน.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร อายุ 25 ปี ลูกสาว เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นวันที่สอง ต่อพ.ต.อ.จิรภัทร ปานลักษณ์ พงส.ผทค.สน.คลองตัน โดยเรียกมาให้ข้อมูลประเด็นปมสังหารนายสมยศในรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นจากเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา

นางรัศมีกล่าวว่า ตนได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งให้ข้อมูลในประเด็นเดิม แต่ลงรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ซักถามข้อมูลแต่ละประเด็นเท่าๆ กัน และตนยังได้เตรียมเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ เป็นสมุดบัญชีธนาคาร โฉนดที่ดิน และกรมธรรม์วงเงินประมาณ 600,000 บาท ซึ่งตนให้ข้อมูลเท่าที่ตนพอจะทราบ ไม่ได้เอาไปเทียบว่าขัดแย้งกับคำให้การของใครเนื่องจากไม่ได้ติดตามสื่อเลย

สำหรับนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก สามีของนางศุภนิดา นรรัตน์ หรือก้อย คนสนิทนายสมยศ ตนเคยเจอประมาณ 3-4 ครั้ง ตอนเล่นการพนัน ส่วน เสธ.นุ ตนยังไม่เคยเจอ

ด้าน พ.ต.อ.จิรภัทร กล่าวว่า การเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดหลักฐานต่างๆ ให้สมบูรณ์ ซึ่งยังไม่สามารถตัดประเด็นใดทิ้งไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น