ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ “ยูฟัน” บุกจับเจ้าของเต็นท์รถมือสองหน้า บขส.ภูเก็ต เครือข่ายยูฟัน พร้อมยึดของกลางรถหรู 2 คัน ทั้งเบนซ์ และออดี้ มูลค่า 10 ล้านบาท เผยในภูเก็ตยังมีผู้ที่อยู่ในข่ายที่ต้องถูกจับกุมอีก 10 คน จากทั่วประเทศที่มีในขณะนี้ 134 คน ให้ผู้ที่รู้ตัวว่าเข้าไปเกี่ยวข้องต่อคดียูฟันมามอบตัวสู้คดี ดีกว่าหลบหนีที่คดีความมีอายุถึง 15 ปี
วานนี้ (7 ก.ค.) พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ.ในฐานะรองหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด พร้อมด้วย พ.ต.อ.พีรพล อัจกลับ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ ช่วยราชการชุดสืบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน พ.ต.อ.ดร.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เข้าตรวจสอบเต็นท์จำหน่ายรถมือสอง ชื่อ ณณ ยูสคาร์ ตั้งอยู่เลขที่ 17/129 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต อยู่ติดกับทางเข้า-ออกสถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งใหม่ เพื่อจับกุมเครือขายแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน ตามหมายจับ และทำการยึดทรัพย์
ทั้งนี้ สามารถจับตัว นายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/312 หมู่ 6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ณณ ยูสคาร์ และทำการตรวจยึดทรัพย์ที่เป็นรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E 250 8 คูเป้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กล 4484 ภูเก็ต และรถยนต์ยี่ห้อออดี้ รุ่น A7 สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง อ 7767 กรุงเทพ โดยรถเบนซ์เป็นของนายเตชะสิทธิ์ ประสมทรัพย์ ผู้ต้องหาคดียูฟัน ที่ได้นำรถคันดังกล่าวมาซุกซ่อนไว้ที่เต็นท์จำหน่ายรถของ นายณัฎฐ์ฐิณณ ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป โดยมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาฟอกเงินเพิ่มเติมจากข้อหาที่มีอยู่คือ 1.ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 2.ร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ม.4, 5, 12, 15 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ม.4, 6, 25 และประมวลกฎหมายอาญา ม.343 ประกอบ ม.83 เพราะเป็นความผิดฐานฟอกเงินในคดียักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของ นายเตชะสิทธิ์ ผู้ต้องหาอีกคนมาเป็นเงิน
สำหรับการจับกุม นายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ ถือเป็นรายแรกในคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟันที่ภูเก็ต โดยนายณัฎฐ์ฐิณณ เป็นลูกข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟันของ นายเตชะสิทธิ์ และมีลูกข่ายในภูเก็ตมากกว่า 10 คน เริ่มไปดำธุรกิจยูฟันเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเปิดเต็นท์จำหน่ายรถยนต์ในภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถหรู มีทั้งรับขายฝาก รับจำนำรถ รีไฟแนนซ์ ไถ่ถอนรถยึด เป็นต้น
พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ.ในฐานะรองหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เปิดเผยว่า การจับกุมนายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ ในภูเก็ต เป็นการตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับคดียูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งได้ออกหมายจับไปแล้ว 164 ราย จับกุมได้แล้ว 30 ราย ยังหลบหนีอยู่อีก 134 ราย ตามคำสั่งของ พ.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และการจับกุมนายณัฎฐ์ฐิณณ ถือเป็นรายแรกของภูเก็ต ที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาจากรถเบนซ์ของนายเตชะสิทธิ์ ประสมทรัพย์ ซึ่งเป็นแม่ข่ายของนายณัฎฐ์ฐิณณ ที่ได้นำรถเบนซ์คันดังกล่าวมาฝากไว้กับนายณัฎฐ์ฐิณณ ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากการสอบสวนทราบว่า นายณัฎฐ์ฐิณณ ได้เข้ามาทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีลูกข่ายในภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 10 คน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภูเก็ต ยังมีผู้ที่เป็นเครือข่ายยูฟันอีกไม่ต่ำกว่า 10 คน ที่เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการจับกุม จึงอยากจะฝากไปถึงกลุ่มบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียูฟันในภูเก็ตและที่อื่น เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องติดตามจับกุมมาดำเนินดคีและยึดทรัพย์ที่ได้มาจากคดียูฟันทั้งหมดให้ครบทุกคน เพราะคดีดังกล่าวมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี และมีอายุความ 15 ปี จึงอยากให้มามอบตัวและสู่คดีดีอย่าหลบหนี
นายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ ผู้ต้องหาคดียูฟัน ได้ชี้แจงถึงรถยนต์หรูทั้ง 2 คัน ว่า รถเบนซ์นั้นเป็นของนายเตชะสิทธิ์ ประสมทรัพย์ ที่นำมาฝากจอดไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลูกน้องไปขับมาจากจังหวัดพังงา ส่วนรถยนต์ออดี้ เป็นของรุ่นน้องที่ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองในกรุงเทพฯ นำฝากไว้ แต่ถ้าขายได้ก็ให้ขายไปเลย เพราะติดงวดผ่อนไฟแนนซ์อยู่เหมือนกัน ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องต่อคดียูฟันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ให้ภรรยาของนายณัฎฐ์ฐิณณ ไปชี้แจงถึงรายละเอียดของรถที่จอดอยู่ในเต็นท์ดังกล่าวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ทุกคน พร้อมทั้งนำหลักฐานไปแสดงการเป็นเจ้าของรถเพื่อยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องต่อคดียูฟัน โดยรถที่จอดอยู่ในเต็นท์ดังกล่าวมีประมาณ 5-6 คัน
วานนี้ (7 ก.ค.) พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ.ในฐานะรองหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด พร้อมด้วย พ.ต.อ.พีรพล อัจกลับ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ ช่วยราชการชุดสืบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน พ.ต.อ.ดร.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เข้าตรวจสอบเต็นท์จำหน่ายรถมือสอง ชื่อ ณณ ยูสคาร์ ตั้งอยู่เลขที่ 17/129 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต อยู่ติดกับทางเข้า-ออกสถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งใหม่ เพื่อจับกุมเครือขายแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน ตามหมายจับ และทำการยึดทรัพย์
ทั้งนี้ สามารถจับตัว นายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/312 หมู่ 6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ณณ ยูสคาร์ และทำการตรวจยึดทรัพย์ที่เป็นรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E 250 8 คูเป้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กล 4484 ภูเก็ต และรถยนต์ยี่ห้อออดี้ รุ่น A7 สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง อ 7767 กรุงเทพ โดยรถเบนซ์เป็นของนายเตชะสิทธิ์ ประสมทรัพย์ ผู้ต้องหาคดียูฟัน ที่ได้นำรถคันดังกล่าวมาซุกซ่อนไว้ที่เต็นท์จำหน่ายรถของ นายณัฎฐ์ฐิณณ ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป โดยมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาฟอกเงินเพิ่มเติมจากข้อหาที่มีอยู่คือ 1.ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 2.ร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ม.4, 5, 12, 15 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ม.4, 6, 25 และประมวลกฎหมายอาญา ม.343 ประกอบ ม.83 เพราะเป็นความผิดฐานฟอกเงินในคดียักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของ นายเตชะสิทธิ์ ผู้ต้องหาอีกคนมาเป็นเงิน
สำหรับการจับกุม นายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ ถือเป็นรายแรกในคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟันที่ภูเก็ต โดยนายณัฎฐ์ฐิณณ เป็นลูกข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟันของ นายเตชะสิทธิ์ และมีลูกข่ายในภูเก็ตมากกว่า 10 คน เริ่มไปดำธุรกิจยูฟันเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเปิดเต็นท์จำหน่ายรถยนต์ในภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถหรู มีทั้งรับขายฝาก รับจำนำรถ รีไฟแนนซ์ ไถ่ถอนรถยึด เป็นต้น
พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ.ในฐานะรองหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เปิดเผยว่า การจับกุมนายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ ในภูเก็ต เป็นการตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับคดียูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งได้ออกหมายจับไปแล้ว 164 ราย จับกุมได้แล้ว 30 ราย ยังหลบหนีอยู่อีก 134 ราย ตามคำสั่งของ พ.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และการจับกุมนายณัฎฐ์ฐิณณ ถือเป็นรายแรกของภูเก็ต ที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาจากรถเบนซ์ของนายเตชะสิทธิ์ ประสมทรัพย์ ซึ่งเป็นแม่ข่ายของนายณัฎฐ์ฐิณณ ที่ได้นำรถเบนซ์คันดังกล่าวมาฝากไว้กับนายณัฎฐ์ฐิณณ ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากการสอบสวนทราบว่า นายณัฎฐ์ฐิณณ ได้เข้ามาทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีลูกข่ายในภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 10 คน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภูเก็ต ยังมีผู้ที่เป็นเครือข่ายยูฟันอีกไม่ต่ำกว่า 10 คน ที่เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการจับกุม จึงอยากจะฝากไปถึงกลุ่มบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียูฟันในภูเก็ตและที่อื่น เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องติดตามจับกุมมาดำเนินดคีและยึดทรัพย์ที่ได้มาจากคดียูฟันทั้งหมดให้ครบทุกคน เพราะคดีดังกล่าวมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี และมีอายุความ 15 ปี จึงอยากให้มามอบตัวและสู่คดีดีอย่าหลบหนี
นายณัฎฐ์ฐิณณ พุทธรรมรงค์ ผู้ต้องหาคดียูฟัน ได้ชี้แจงถึงรถยนต์หรูทั้ง 2 คัน ว่า รถเบนซ์นั้นเป็นของนายเตชะสิทธิ์ ประสมทรัพย์ ที่นำมาฝากจอดไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลูกน้องไปขับมาจากจังหวัดพังงา ส่วนรถยนต์ออดี้ เป็นของรุ่นน้องที่ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองในกรุงเทพฯ นำฝากไว้ แต่ถ้าขายได้ก็ให้ขายไปเลย เพราะติดงวดผ่อนไฟแนนซ์อยู่เหมือนกัน ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องต่อคดียูฟันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ให้ภรรยาของนายณัฎฐ์ฐิณณ ไปชี้แจงถึงรายละเอียดของรถที่จอดอยู่ในเต็นท์ดังกล่าวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ทุกคน พร้อมทั้งนำหลักฐานไปแสดงการเป็นเจ้าของรถเพื่อยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องต่อคดียูฟัน โดยรถที่จอดอยู่ในเต็นท์ดังกล่าวมีประมาณ 5-6 คัน
