ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟันชุดแรก 13 ราย ทั้งหมดยืนยันให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม จึงนัดตรวจหลักฐานอีกครั้ง 21 ก.ย.นี้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องเวรชี้ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีแชร์ลูกโซ่บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด หมายเลขดำ อ.2279/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอภิชรัชฏ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี พร้อมพวกรวม 13 ราย เป็นจำเลยที่ 1-13 ในความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 3, 4, 5, 6, 7 และ 25, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 83, 341 และ 343, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงฯ ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19, 21, 46 และ 48 , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 และ 14 และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 พร้อมขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงิน 351,556,314 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 13 คน มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากจำเลยทั้งหมดไม่ได้รับการประกันตัวและยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้อ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งหมดฟังแล้ว สอบถามจำเลยว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 13 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 21 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ด้านว่าที่ ร.ต.สุรพล สินธุนาวา ทนายความ เปิดเผยว่า ตนเป็นทนายความของ น.ส.มนพรรณ์ ธาราบัณฑิต จำเลยที่ 5 ในคดีนี้ที่จำเลยแต่ละคนแต่งตั้งทนายความเป็นของตัวเอง แต่จำเลยทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงได้นัดสอบคำให้การในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ในวันดังกล่าวทนายความจะต้องยื่นบัญชีพยานต่อศาล ทั้งนี้ตนเคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยไปแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งศาลยกคำร้องทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องจำเลยทั้ง 164 คน ประกอบด้วย บุคคล 160 ราย นิติบุคคล 4 ราย และอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลชุดแรก 13 ราย ประกอบด้วย 1. นายอภิชรัชฏ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี 2. นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ อายุ 34 ปี 3. นายไชธร ทองหล่อเลิศ อายุ 41 ปี 4. ว่าที่ร้อยตรีฤทธิเดช วรงค์ อายุ 39 ปี 5.นางสาวมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต อายุ 41 ปี 6. นางสาวพีรญา หาญพรม อายุ 26 ปี 7. นายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน อายุ 38 ปี 8. นางสาวนิภาพร ละมี อายุ 36 ปี 9. นายธีรวัจน์ พัชรสุยะใหญ่ อายุ 21 ปี 10. นางสาวณัฎฐ์วรัญช์ อุตมะแก้ว อายุ 24 ปี 11. นายบุน เกียท ชู หรือ นายชัยสงค์ วนัสบดีวงศ์ อายุ 36 ปี 12. นายเควิน ลัย อายุ 48 ปี 13. นายหยาง หยวนเฉา เป็นจำเลยที่ 1-13 ส่วนจำเลยชุดที่ 2 อีก 17 รายนั้น ได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งอัยการได้นัดให้มารายงานตัวในวันที่ 28 ก.ค.นี้และหากไม่มีเหตุขัดข้องคาดว่าทางอัยการก็จะยื่นฟ้องจำเลยชุดที่ 2 ต่อศาลในวันดังกล่าวต่อไป โดยผู้ต้องหาทั้งหมดจะต้องยื่นประกันตัวในชั้นศาลอีกครั้ง
ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 134 ราย คือ บุคคลธรรมดาจำนวน 130 ราย และนิติบุคคล จำนวน 4 ราย ทางอัยการได้แจ้งให้ทางพนักงานสอบสวนติดตามจับกุมตัวมาฟ้องภายในอายุความ 15 ปีต่อไป โดยมีผู้ต้องหาบางรายได้หลบหนีไปต่างประเทศ อัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบหาแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจน เพื่อทำสำนวนขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
