ซุนวู-บอกว่า “รู้เขารู้เรา-ร้อยศึกบ่พ่าย”...!!!
ผู้นำคนใด-ทำงานโดยไม่รู้หรือไม่มี “เป้าหมาย” ที่ถูกต้อง แม้จะกระทำเรื่องมากมายเพียงใด แต่หากมิใช่การแก้ต้นเหตุปัญหา ย่อมมิได้ก่อผลสัมฤทธิ์ที่ดีต่อชาติและประชาชนเท่าที่ควรแน่นอน
เพราะเป็นการ “ซุก-สะสม-สร้าง” ภัยใหม่ให้กับชาติอีกด้วย!
ผู้นำชาติที่ดีต้องชาญฉลาดรู้ว่า สิ่งที่ได้ทำมามากมายนั้น เป็นเรื่องปกติที่ผู้นำชาติทุกคนต้องแก้ไข ตามระบบราชการทั่วไปต้องทำอยู่แล้ว โดยผู้นำชาติใช้ “อำนาจพิเศษ” ทำให้เรื่องที่ราชการทำกันแบบ “เช้าชามเย็นชาม” ให้จบเร็วขึ้นแบบลัดขั้นตอนจากปกติเท่านั้นใช่หรือไม่?
ถ้าใช่-เรื่องมากมายเหล่านี้เป็นแค่ปัญหาสามัญ มิใช่ต้นเหตุปัญหา “เป็น-ตาย”ของชาติ!
“ผู้นำชาติ” หลายคน ทั้งที่มาจากการเลือกตั้ง และจากการรัฐประหาร จึงแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติไม่ได้มาโดยตลอด เช่น แก้ปัญหาความยากจนของคนส่วนใหญ่ในชาติไม่ได้ ทำให้ช่องว่างคนรวยกับคนจนถ่างกว้างมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว ฯลฯ
รวมทั้งแก้ปัญหาการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งไม่ได้ แก้การใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภาไม่ได้ แก้รัฐบาลใช้อำนาจรัฐทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ สุดท้ายขจัดการเมืองสกปรกโสมมของระบอบ “คณา-ธนา-โจรา” อันมิใช่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ได้อีกด้วย
ที่สำคัญผู้นำชาติไทยไม่เคยเข้าใจเลยว่า ชาติไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และรัฐประหารซ้ำซากยาวนานกว่า 83 ปีนั้น มิได้ทำให้นักการเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้า-ประชาชน ฯลฯ ของไทยมีคุณภาพที่ดีขึ้นแต่อย่างใดเลย ตรงกันข้าม กลับทำให้นักการเมืองไทยเสื่อมทรามลง จนไร้ทั้งคุณธรรมและความสามารถ รวมทั้งไร้ซึ่งความรักชาติอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นักการเมืองและวงการเมืองของไทย จึงเต็มไปด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติ จนถึงขั้นทำลายความมั่นคงอย่างหนัก ต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชน จนจมปลักอยู่ในวิกฤตชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ มาจนทุกวันนี้
เราลองมา “รู้เขา-รู้เรา” รู้เรื่อง “เหลี่ยมกับพวก” และ “บิ๊กตู่กับพวก” กันหน่อยดีไหม...เช่น
รู้ว่าเหลี่ยม-มี “เป้าหมายหลัก” ที่ชัดเจน ชนิดไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด นั่นคือ เหลี่ยมกับพวกต้องการจะยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ ด้วยวิธีใช้เงินจากการฉ้อฉลจนร่ำรวยมาซื้อเสียงการเลือกตั้ง-เข้ายึดอำนาจรัฐ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการคอร์รัปชัน และโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ เลียนแบบการเมืองของชาติตะวันตกทั้งดุ้น
เหลี่ยมรู้ว่า-ไม่ว่าทหารจะทำรัฐประหารสักกี่ครั้งก็ตาม โดยเฉพาะรัฐประหารล่าสุดของ “บิ๊กตู่” สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ชาวไทยทุกคนล้วนรู้ว่า การเลือกตั้งในชาติไทยไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงมิใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะเต็มไปด้วยการโกงเลือกตั้งสารพัด
โดยเฉพาะบุคลากรที่ดูแลการเลือกตั้ง ยังไร้ประสิทธิภาพ และยังปล่อยให้ใช้เงินซื้อเสียงได้ โอกาสที่เหลี่ยมจะชนะการเลือกตั้งจึง-สูงมาก
ยิ่งกฎหมายลงโทษคนซื้อเสียงเลือกตั้ง และคอร์รัปชันโกงชาติ-มีโทษเบาเช่นนี้ ชาติไทยจึงเหมาะอย่างยิ่งต่อการลงทุนในธุรกิจการเมืองของเหลี่ยมและพวกทุนสามานย์เหมือนเดิม
เหลี่ยมยังรู้อีกว่า-นโยบาย “ปรองดอง” ของ “บิ๊กตู่” นั้น เป็นประโยชน์ต่อเหลี่ยมและพวกอย่างยิ่งยวด เพราะเรื่องกลุ่มคนชั่วทำผิดกฎหมาย ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของคนสองฝ่ายขัดแย้ง จนทหารต้องออกมา “หย่าศึก” ทำให้การทำผิดมากมายหลายเรื่องของเหลี่ยมกับเครือข่ายไม่ถูกลงโทษ และไม่ถูกแฉโพยอย่างเป็นระบบทั้งสื่อรัฐและเอกชน เพราะมีใครบางคนไม่อยากให้ “ขัดแย้ง” กันนั่นเอง
“ปรองดอง” จึงกลายเป็นเรื่องหลัก ส่วนความผิดทางกฎหมายกลายเป็นเรื่องรอง!
เหลี่ยมกับพรรคพวกที่ทำผิดบางส่วน จึงยังลอยนวลได้และหลบลง “ใต้ดิน” เพื่อ “สะสมกำลังรอคอยโอกาส” ที่จะตอบโต้ “บิ๊กตู่” และคณะรัฐประหาร ยามเมื่อเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง
ห้วงนี้-พลพรรคเหลี่ยมจึง “แกล้งตาย” โดยเฉพาะ “แดงจ๋า” ระดับหัวกะทิ ไม่จำเป็นจะไม่โผล่หน้าออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเด็ดขาด เพราะรู้ว่ายังเสียเปรียบทางการเมือง ด้วยอำนาจรัฐอยู่ในกำมือของทหาร ดังนั้น จึงต้องเรียกร้องให้เกิดการ “ปรองดอง” ตาม “บิ๊กตู่” และเรียกร้องให้ “บิ๊กตู่” นิรโทษกรรมเท่านั้น
แต่ “เป้าหมายเหลี่ยม” ไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือ ต้องกดดันให้ “บิ๊กตู่” เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนประชาธิปไตย (โกงได้) ให้กับประชาชน (พวกเหลี่ยม)
เพราะสภาพของชาติและประชาชน ยังใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งได้ ตามสูตร “เงินไม่มา-กาไม่เป็น” เหมือนเดิม เหลี่ยมยังมีเงินฉ้อฉลล้นฟ้าเหนือคู่แข่งทางการเมืองอยู่หลายขุม เพราะยังไม่มีใครหน้าไหนกล้ามา “ยึด” หรือ “อายัดเงิน” ของเหลี่ยมและพวก “เงิน” คือหนึ่งในอาวุธสำคัญยิ่ง ที่ทำให้เหลี่ยมกับพวกชนะการเลือกตั้ง และยึดอำนาจรัฐได้ครั้งแล้วครั้งไงล่ะ
บัดนี้...เหลี่ยมรู้แน่ชัดแล้วว่า-รัฐประหารครั้งนี้ของ “บิ๊กตู่” จะไม่มีการปฏิรูปแก้ต้นเหตุปัญหาใหญ่ๆ ของชาติที่จะเป็นอุปสรรคต่อการใช้เงินยึดอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติของเหลี่ยมและพวกอย่างแน่นอน
เหลี่ยมฝากกระซิบว่า “แดงจ๋า” อึดเข้าไว้... อีกไม่ช้า “บิ๊กตู่” ต้องไป และพวกเหลี่ยมต้องใหญ่อีกครั้ง...แน่นอน...ชัวร์ป้าด!
ผู้นำคนใด-ทำงานโดยไม่รู้หรือไม่มี “เป้าหมาย” ที่ถูกต้อง แม้จะกระทำเรื่องมากมายเพียงใด แต่หากมิใช่การแก้ต้นเหตุปัญหา ย่อมมิได้ก่อผลสัมฤทธิ์ที่ดีต่อชาติและประชาชนเท่าที่ควรแน่นอน
เพราะเป็นการ “ซุก-สะสม-สร้าง” ภัยใหม่ให้กับชาติอีกด้วย!
ผู้นำชาติที่ดีต้องชาญฉลาดรู้ว่า สิ่งที่ได้ทำมามากมายนั้น เป็นเรื่องปกติที่ผู้นำชาติทุกคนต้องแก้ไข ตามระบบราชการทั่วไปต้องทำอยู่แล้ว โดยผู้นำชาติใช้ “อำนาจพิเศษ” ทำให้เรื่องที่ราชการทำกันแบบ “เช้าชามเย็นชาม” ให้จบเร็วขึ้นแบบลัดขั้นตอนจากปกติเท่านั้นใช่หรือไม่?
ถ้าใช่-เรื่องมากมายเหล่านี้เป็นแค่ปัญหาสามัญ มิใช่ต้นเหตุปัญหา “เป็น-ตาย”ของชาติ!
“ผู้นำชาติ” หลายคน ทั้งที่มาจากการเลือกตั้ง และจากการรัฐประหาร จึงแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติไม่ได้มาโดยตลอด เช่น แก้ปัญหาความยากจนของคนส่วนใหญ่ในชาติไม่ได้ ทำให้ช่องว่างคนรวยกับคนจนถ่างกว้างมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว ฯลฯ
รวมทั้งแก้ปัญหาการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งไม่ได้ แก้การใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภาไม่ได้ แก้รัฐบาลใช้อำนาจรัฐทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ สุดท้ายขจัดการเมืองสกปรกโสมมของระบอบ “คณา-ธนา-โจรา” อันมิใช่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ได้อีกด้วย
ที่สำคัญผู้นำชาติไทยไม่เคยเข้าใจเลยว่า ชาติไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และรัฐประหารซ้ำซากยาวนานกว่า 83 ปีนั้น มิได้ทำให้นักการเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้า-ประชาชน ฯลฯ ของไทยมีคุณภาพที่ดีขึ้นแต่อย่างใดเลย ตรงกันข้าม กลับทำให้นักการเมืองไทยเสื่อมทรามลง จนไร้ทั้งคุณธรรมและความสามารถ รวมทั้งไร้ซึ่งความรักชาติอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นักการเมืองและวงการเมืองของไทย จึงเต็มไปด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติ จนถึงขั้นทำลายความมั่นคงอย่างหนัก ต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชน จนจมปลักอยู่ในวิกฤตชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ มาจนทุกวันนี้
เราลองมา “รู้เขา-รู้เรา” รู้เรื่อง “เหลี่ยมกับพวก” และ “บิ๊กตู่กับพวก” กันหน่อยดีไหม...เช่น
รู้ว่าเหลี่ยม-มี “เป้าหมายหลัก” ที่ชัดเจน ชนิดไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด นั่นคือ เหลี่ยมกับพวกต้องการจะยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ ด้วยวิธีใช้เงินจากการฉ้อฉลจนร่ำรวยมาซื้อเสียงการเลือกตั้ง-เข้ายึดอำนาจรัฐ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการคอร์รัปชัน และโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ เลียนแบบการเมืองของชาติตะวันตกทั้งดุ้น
เหลี่ยมรู้ว่า-ไม่ว่าทหารจะทำรัฐประหารสักกี่ครั้งก็ตาม โดยเฉพาะรัฐประหารล่าสุดของ “บิ๊กตู่” สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ชาวไทยทุกคนล้วนรู้ว่า การเลือกตั้งในชาติไทยไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงมิใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะเต็มไปด้วยการโกงเลือกตั้งสารพัด
โดยเฉพาะบุคลากรที่ดูแลการเลือกตั้ง ยังไร้ประสิทธิภาพ และยังปล่อยให้ใช้เงินซื้อเสียงได้ โอกาสที่เหลี่ยมจะชนะการเลือกตั้งจึง-สูงมาก
ยิ่งกฎหมายลงโทษคนซื้อเสียงเลือกตั้ง และคอร์รัปชันโกงชาติ-มีโทษเบาเช่นนี้ ชาติไทยจึงเหมาะอย่างยิ่งต่อการลงทุนในธุรกิจการเมืองของเหลี่ยมและพวกทุนสามานย์เหมือนเดิม
เหลี่ยมยังรู้อีกว่า-นโยบาย “ปรองดอง” ของ “บิ๊กตู่” นั้น เป็นประโยชน์ต่อเหลี่ยมและพวกอย่างยิ่งยวด เพราะเรื่องกลุ่มคนชั่วทำผิดกฎหมาย ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของคนสองฝ่ายขัดแย้ง จนทหารต้องออกมา “หย่าศึก” ทำให้การทำผิดมากมายหลายเรื่องของเหลี่ยมกับเครือข่ายไม่ถูกลงโทษ และไม่ถูกแฉโพยอย่างเป็นระบบทั้งสื่อรัฐและเอกชน เพราะมีใครบางคนไม่อยากให้ “ขัดแย้ง” กันนั่นเอง
“ปรองดอง” จึงกลายเป็นเรื่องหลัก ส่วนความผิดทางกฎหมายกลายเป็นเรื่องรอง!
เหลี่ยมกับพรรคพวกที่ทำผิดบางส่วน จึงยังลอยนวลได้และหลบลง “ใต้ดิน” เพื่อ “สะสมกำลังรอคอยโอกาส” ที่จะตอบโต้ “บิ๊กตู่” และคณะรัฐประหาร ยามเมื่อเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง
ห้วงนี้-พลพรรคเหลี่ยมจึง “แกล้งตาย” โดยเฉพาะ “แดงจ๋า” ระดับหัวกะทิ ไม่จำเป็นจะไม่โผล่หน้าออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเด็ดขาด เพราะรู้ว่ายังเสียเปรียบทางการเมือง ด้วยอำนาจรัฐอยู่ในกำมือของทหาร ดังนั้น จึงต้องเรียกร้องให้เกิดการ “ปรองดอง” ตาม “บิ๊กตู่” และเรียกร้องให้ “บิ๊กตู่” นิรโทษกรรมเท่านั้น
แต่ “เป้าหมายเหลี่ยม” ไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือ ต้องกดดันให้ “บิ๊กตู่” เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนประชาธิปไตย (โกงได้) ให้กับประชาชน (พวกเหลี่ยม)
เพราะสภาพของชาติและประชาชน ยังใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งได้ ตามสูตร “เงินไม่มา-กาไม่เป็น” เหมือนเดิม เหลี่ยมยังมีเงินฉ้อฉลล้นฟ้าเหนือคู่แข่งทางการเมืองอยู่หลายขุม เพราะยังไม่มีใครหน้าไหนกล้ามา “ยึด” หรือ “อายัดเงิน” ของเหลี่ยมและพวก “เงิน” คือหนึ่งในอาวุธสำคัญยิ่ง ที่ทำให้เหลี่ยมกับพวกชนะการเลือกตั้ง และยึดอำนาจรัฐได้ครั้งแล้วครั้งไงล่ะ
บัดนี้...เหลี่ยมรู้แน่ชัดแล้วว่า-รัฐประหารครั้งนี้ของ “บิ๊กตู่” จะไม่มีการปฏิรูปแก้ต้นเหตุปัญหาใหญ่ๆ ของชาติที่จะเป็นอุปสรรคต่อการใช้เงินยึดอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติของเหลี่ยมและพวกอย่างแน่นอน
เหลี่ยมฝากกระซิบว่า “แดงจ๋า” อึดเข้าไว้... อีกไม่ช้า “บิ๊กตู่” ต้องไป และพวกเหลี่ยมต้องใหญ่อีกครั้ง...แน่นอน...ชัวร์ป้าด!
