Astv ผู้จัดการรายวัน – “โตโยต้า” กดปุ่มส่งออกปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ประเดิมปีแรกกว่า 1.86 แสนคัน ทำให้สัดส่วนการผลิตรถจากไทยเพื่อส่งออกปีนี้เพิ่มเป็น 60% จากเดิมใกล้เคียงกับขายในประเทศ ขณะที่ “จีเอ็ม” ได้ฤกษ์ส่งออกเครื่องยนต์ครั้งแรก เริ่มที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เผยค่ายรถปรับกลยุทธ์หันรุกตลาดส่งออก เพื่อกู้สถานการณ์ตลาดในไทยร่วงหนัก
นายเคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าได้ย้ายฐานการผลิตระดับโลกในโครงการไอเอ็มวี (IMV : Innovative International Multi-purpose Vehicle) โดยเฉพาะปิกอัพ 1 ตัน(โตโยต้า ไฮลักซ์) มายังประเทศไทยเมื่อปี 2545 และได้เริ่มส่งออกรถในโครงการไอเอ็มวีเมื่อปี 2547 จนถึงปัจจุบันส่งไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มีจำนวนส่งออกกว่า 2.4 ล้านคัน ด้วยมูลค่าการส่งออกสูงเป็นอันดับ 1 ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.258 ล้านล้านบาท และเมื่อรวมกับการส่งออกชิ้นส่วน โตโยต้าสามารถนำรายได้สู่ประเทศไทยทั้งสิ้นกว่า 1.854 ล้านล้านบาท
“ด้วยการลงทุนโครงการไอเอ็มวีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาทในไทย จึงทำให้ศักยภาพการผลิตเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และล่าสุดโตโยต้าในประเทศไทยได้ส่งออกปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นหลักของโครงการไอเอ็มวีไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยปีนี้จะมีการส่งออกมากปิกอัพรุ่นใหม่นี้กว่า 1.864 แสนคัน และปิกอัพรุ่นใหม่นี้ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 97% คาดว่าจะเพิ่ม 100% ในอนาคต จึงนับว่าสามารถช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก”
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า การส่งออกปิกอัพรุ่นใหม่โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จะทำให้สัดส่วนการผลิตเพื่อการส่งออกของโตโยต้าปีนี้เพิ่มเป็น 60% จากเดิมจะมีสัดส่วนใกล้เคียงกับผลิตเพื่อขายในประเทศที่ 50 : 50 ซึ่งจากการเพิ่มส่งออกโตโยต้ายังมีการผลิตรถในโรงงานระดับเต็ม 100% ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุน แม้ตลาดในประเทศจะชะลอตัวอย่างมากก็ตาม ส่วนจะปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกปีนี้หรือไม่ จากเมื่อเมื่อต้นปีตั้งไว้ที่ 3.9 แสนคัน คงต้องมาประเมินร่วมกับตลาดในประเทศใหม่อีกครั้งในเร็วๆ นี้
“แม้ตลาดในประเทศจะชะลอตัวมาก แต่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป้าหมายการส่งออกจากไทยปีนี้ไว้ที่ 1.2 ล้านคัน รวมการส่งออกชิ้นส่วนรถคิดเป็นมูลค่าทั้งหมดประมาณ 8 แสนล้านบาท โดยโตโยต้ามีสัดส่วนการส่งออกกว่า 40% ซึ่งทุกค่ายรถจากการพูดคุยกันในสมาชิกต่างเห็นในทิศทางเดียวกัน คือจะพยายามหันมาเน้นส่งออกมากขึ้น ทดแทนตลาดในประเทศที่กำลังแย่ เพื่อรักษากำลังการผลิต ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และจำนวนแรงงานไว้ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและเศรษฐกิจโดยรวม” นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิก เอนจิเนียริ่ง แอนด์แมนูเฟคเจอริง จำกัด และประธานฯ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าว
ขณะเดียวกันเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ล่าสุดได้เปิดสายการผลิตเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร เพื่อการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดา สำหรับตั้งตั้งในปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราด และจีเอ็มซี แคนยอน โดยเป็นเครื่องยนต์ที่ผลิตจากโรงงานจีเอ็ม พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย และจะเริ่มส่งออกในช่วงไตรมาสสามของปีนี้เป็นต้นไป
นายเคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าได้ย้ายฐานการผลิตระดับโลกในโครงการไอเอ็มวี (IMV : Innovative International Multi-purpose Vehicle) โดยเฉพาะปิกอัพ 1 ตัน(โตโยต้า ไฮลักซ์) มายังประเทศไทยเมื่อปี 2545 และได้เริ่มส่งออกรถในโครงการไอเอ็มวีเมื่อปี 2547 จนถึงปัจจุบันส่งไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มีจำนวนส่งออกกว่า 2.4 ล้านคัน ด้วยมูลค่าการส่งออกสูงเป็นอันดับ 1 ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.258 ล้านล้านบาท และเมื่อรวมกับการส่งออกชิ้นส่วน โตโยต้าสามารถนำรายได้สู่ประเทศไทยทั้งสิ้นกว่า 1.854 ล้านล้านบาท
“ด้วยการลงทุนโครงการไอเอ็มวีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาทในไทย จึงทำให้ศักยภาพการผลิตเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และล่าสุดโตโยต้าในประเทศไทยได้ส่งออกปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นหลักของโครงการไอเอ็มวีไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยปีนี้จะมีการส่งออกมากปิกอัพรุ่นใหม่นี้กว่า 1.864 แสนคัน และปิกอัพรุ่นใหม่นี้ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 97% คาดว่าจะเพิ่ม 100% ในอนาคต จึงนับว่าสามารถช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก”
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า การส่งออกปิกอัพรุ่นใหม่โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จะทำให้สัดส่วนการผลิตเพื่อการส่งออกของโตโยต้าปีนี้เพิ่มเป็น 60% จากเดิมจะมีสัดส่วนใกล้เคียงกับผลิตเพื่อขายในประเทศที่ 50 : 50 ซึ่งจากการเพิ่มส่งออกโตโยต้ายังมีการผลิตรถในโรงงานระดับเต็ม 100% ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุน แม้ตลาดในประเทศจะชะลอตัวอย่างมากก็ตาม ส่วนจะปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกปีนี้หรือไม่ จากเมื่อเมื่อต้นปีตั้งไว้ที่ 3.9 แสนคัน คงต้องมาประเมินร่วมกับตลาดในประเทศใหม่อีกครั้งในเร็วๆ นี้
“แม้ตลาดในประเทศจะชะลอตัวมาก แต่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป้าหมายการส่งออกจากไทยปีนี้ไว้ที่ 1.2 ล้านคัน รวมการส่งออกชิ้นส่วนรถคิดเป็นมูลค่าทั้งหมดประมาณ 8 แสนล้านบาท โดยโตโยต้ามีสัดส่วนการส่งออกกว่า 40% ซึ่งทุกค่ายรถจากการพูดคุยกันในสมาชิกต่างเห็นในทิศทางเดียวกัน คือจะพยายามหันมาเน้นส่งออกมากขึ้น ทดแทนตลาดในประเทศที่กำลังแย่ เพื่อรักษากำลังการผลิต ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และจำนวนแรงงานไว้ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและเศรษฐกิจโดยรวม” นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิก เอนจิเนียริ่ง แอนด์แมนูเฟคเจอริง จำกัด และประธานฯ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าว
ขณะเดียวกันเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ล่าสุดได้เปิดสายการผลิตเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร เพื่อการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดา สำหรับตั้งตั้งในปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราด และจีเอ็มซี แคนยอน โดยเป็นเครื่องยนต์ที่ผลิตจากโรงงานจีเอ็ม พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย และจะเริ่มส่งออกในช่วงไตรมาสสามของปีนี้เป็นต้นไป
