พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ส่งประเด็นการปฏิรูปทั้ง 37 ประเด็น ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณา ว่า ครม.กำลังหารือกันอยู่ ต้องคุยกันก่อนว่าจะบรรจุเข้าไปในแผนปฏิรูปอย่างไร มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติไปขับเคลื่อนอย่างไร แต่ตนคงไม่ไปคุมเขามาก เพราะจะเป็นเรื่องของรัฐบาลหน้า ที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ให้เขาทำไป
เมื่อถามว่าวันนี้ยังไม่ได้มติออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปหารือกัน เพราะจะต้องไปปรับให้ตรงกัน ทำไมจะต้องเป็นมติกันนักหนาก็ไม่รู้ โดยไม่ต้องรอการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย เพราะเขาก็ทำงานกันตลอด
" การทำงานไม่ใช่ประชุมแล้วสั่งแล้วเสร็จทันที สั่งการต้องพูดคุย แล้วไปทำกัน ไม่ใช่ในห้องเพียงอย่างเดียว เพราะมีคณะที่จะต้องหารือกัน นี่แหละการทำงาน ต่างประเทศเขาทำงานกันแบบนี้ นายกฯ สั่งนโยบายริเริ่ม ครม.ไปขับเคลื่อน รัฐมนตรีไปทำ แล้วนำไปสู่การปฏิบัติในระดับในแบบนี้ ทุกอย่างมีกฎหมายดักไว้หมด ปัดโธ่ ผมพูดวันนี้แล้วเสร็จวันนี้ที่ไหนเล่า แค่นี้ก็เร่งเต็มที่อยู่แล้วทุกเรื่อง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**วางยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมจะให้นำแนวทางปฏิรูปของรัฐบาล ไปพูดคุยกับทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก่อนที่ สปช. จะมีการร่างแนวทางการปฏิรูปมายังรัฐบาล เพื่อนำไปปรับปรุง เพราะเวลาที่ สปช.ส่งมา รัฐบาลต้องนำมาปรับให้เข้ากับแนวทางของรัฐบาลอยู่ดี ดังนั้นทางที่ดีส่งของเราไปให้ สปช.ก่อน
นอกจากนี้ จะมีการกำหนดช่วงระยะเวลาการปฏิรูป โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี มี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เข้ามาดูในเรื่องนี้ จะพิจารณากำหนดระยะเวลาการปฏิรูปใน 20 ปี แบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะละ 5 ปี ซึ่งทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ จะเป็นคนคิด
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว จะรวบรวมแนวทางการปฏิรูป 11 ด้าน ที่ คสช.เป็นผู้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ และบวกกับ 36 เรื่อง ของสปช. ข้อเสนอแนะของฝ่ายราชการต่างๆ รวมกันออกมาเป็นยุทธศาสตร์ชาติใน 20 ปีข้างหน้า ทำเหมือนกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 และ 12 โดยในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เขียนไว้อยู่มาตราหนึ่ง ว่า คณะรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นใครจะต้องบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามแนวทางนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และตามยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้น จึงต้องมาตั้งยุทธศาสตร์ชาติกันก่อน แต่ทั้งหมดจะมีการเปิด ช่องให้กับรัฐบาลหน้าที่จะเข้ามาได้คิดยุทธศาสตร์ชาติบางส่วนของเขาเองบ้าง เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ถ้าไม่พอใจสามารถแก้แผนได้ เพื่อความเหมาะสม
รองนายกฯ กล่าวว่า อะไรที่เป็นแผนยุทธศาสตร์ชาติ อาจจะต้องทำเป็นประกาศพระราชโองการ นำเข้าสู่การพิจารณาของสภาด้วย เพื่อกำหนดให้ทำตามว่า ถ้าใครเป็นรัฐบาล ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ให้แก้ยุทธศาสตร์ชาติ เหมือนแก้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ จะไม่ใช่เป็นการที่ว่า รัฐบาลชุดนี้ไปเขียนบังคับให้รัฐบาลชุดหน้าทำ มันไม่เป็นธรรม เพราะเขามาโดยเลือกตั้ง ก็ต้องมีสิทธิ เพียงแต่รัฐบาลนี้ต้องทำเป็นกรอบไว้ให้ก่อน ตรงนี้เป็นกรอบที่นายกรัฐมนตรีอยากให้ความชัดเจนว่า แผนยุทธศาสตร์ 20 ปีนั้น 5 ปีแรก จะทำอะไร ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ชาติจะแบ่งเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย ความ มั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ และด้านกฎหมาย
** ซัด"วันชัย"พูดซ้ำซาก แผ่นเสียงตกร่อง
นายวิษณุ ยังกล่าวถึง กรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสปช. ระบุ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ พยายามล็อบบี้ สปช. ให้ลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ทราบเรื่อง อ่านจากข่าว แต่นายวันชัย พูดทุกวันอยู่แล้ว ซ้ำกันไปซ้ำกันมาเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง เพราะไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกเหตุว่าจะคว่ำ หรือไม่คว่ำ แต่พูดทุกวันอยู่ได้ ทั้งที่ยังปรับแก้ไม่เสร็จ คิดว่าต้องรอสักพักให้ได้ปรับแก้ให้เสร็จเสียก่อน และพอเสร็จ จะมีการนำร่างรัฐธรรมนูญเปิดเผยให้ประชาชนดู โดยจะมีเวลาประมาณ 20 วัน ก่อนวันที่ สปช.จะลงมติ จึงอยากให้รอฟังตรงนั้นก่อน
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูทางกมธ.ยกร่างฯ ก็พยายามจะแก้เพื่อให้เป็นที่พอใจแก่ทุกฝ่าย ส่วนกรณีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ทักท้วงเรื่องสัดส่วนคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ทางกมธ.ยกร่างฯ ได้แก้ให้แล้ว แต่ตามหลักการ หากแก้ของ ก.ต. จะต้องกลับไปดูในส่วนของคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)ว่า จะต้องแก้ด้วยหรือไม่ เพื่อให้สอดรับกัน
ส่วนที่ สปช.จะรวบรวมแนวทางปฏิรูปเสนอรัฐบาลนั้น ยอมรับกังวลว่า จะไม่ตรงกับทิศทางของครม. หากไม่ตรงจะทำให้ทำงานยาก โดยการประชุมครม. วันนี้ (30 มิ.ย.) จะมีมติออกมาในเรื่องนี้ และประสานกลับไปยัง สปช. คาดว่า คงจะได้ทำงานใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกมธ.ยกร่างฯ กล่าวยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯ ไม่มีการเดินสายล็อบบี้สมาชิก สปช. เพื่อให้ลงมติเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ มีแค่เพียงการพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนสมาชิก สปช. จะตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นสิทธิ และขึ้นอยู่กับวิจารณ์ของแต่ละคน
เมื่อถามว่าวันนี้ยังไม่ได้มติออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปหารือกัน เพราะจะต้องไปปรับให้ตรงกัน ทำไมจะต้องเป็นมติกันนักหนาก็ไม่รู้ โดยไม่ต้องรอการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย เพราะเขาก็ทำงานกันตลอด
" การทำงานไม่ใช่ประชุมแล้วสั่งแล้วเสร็จทันที สั่งการต้องพูดคุย แล้วไปทำกัน ไม่ใช่ในห้องเพียงอย่างเดียว เพราะมีคณะที่จะต้องหารือกัน นี่แหละการทำงาน ต่างประเทศเขาทำงานกันแบบนี้ นายกฯ สั่งนโยบายริเริ่ม ครม.ไปขับเคลื่อน รัฐมนตรีไปทำ แล้วนำไปสู่การปฏิบัติในระดับในแบบนี้ ทุกอย่างมีกฎหมายดักไว้หมด ปัดโธ่ ผมพูดวันนี้แล้วเสร็จวันนี้ที่ไหนเล่า แค่นี้ก็เร่งเต็มที่อยู่แล้วทุกเรื่อง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**วางยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมจะให้นำแนวทางปฏิรูปของรัฐบาล ไปพูดคุยกับทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก่อนที่ สปช. จะมีการร่างแนวทางการปฏิรูปมายังรัฐบาล เพื่อนำไปปรับปรุง เพราะเวลาที่ สปช.ส่งมา รัฐบาลต้องนำมาปรับให้เข้ากับแนวทางของรัฐบาลอยู่ดี ดังนั้นทางที่ดีส่งของเราไปให้ สปช.ก่อน
นอกจากนี้ จะมีการกำหนดช่วงระยะเวลาการปฏิรูป โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี มี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เข้ามาดูในเรื่องนี้ จะพิจารณากำหนดระยะเวลาการปฏิรูปใน 20 ปี แบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะละ 5 ปี ซึ่งทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ จะเป็นคนคิด
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว จะรวบรวมแนวทางการปฏิรูป 11 ด้าน ที่ คสช.เป็นผู้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ และบวกกับ 36 เรื่อง ของสปช. ข้อเสนอแนะของฝ่ายราชการต่างๆ รวมกันออกมาเป็นยุทธศาสตร์ชาติใน 20 ปีข้างหน้า ทำเหมือนกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 และ 12 โดยในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เขียนไว้อยู่มาตราหนึ่ง ว่า คณะรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นใครจะต้องบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามแนวทางนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และตามยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้น จึงต้องมาตั้งยุทธศาสตร์ชาติกันก่อน แต่ทั้งหมดจะมีการเปิด ช่องให้กับรัฐบาลหน้าที่จะเข้ามาได้คิดยุทธศาสตร์ชาติบางส่วนของเขาเองบ้าง เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ถ้าไม่พอใจสามารถแก้แผนได้ เพื่อความเหมาะสม
รองนายกฯ กล่าวว่า อะไรที่เป็นแผนยุทธศาสตร์ชาติ อาจจะต้องทำเป็นประกาศพระราชโองการ นำเข้าสู่การพิจารณาของสภาด้วย เพื่อกำหนดให้ทำตามว่า ถ้าใครเป็นรัฐบาล ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ให้แก้ยุทธศาสตร์ชาติ เหมือนแก้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ จะไม่ใช่เป็นการที่ว่า รัฐบาลชุดนี้ไปเขียนบังคับให้รัฐบาลชุดหน้าทำ มันไม่เป็นธรรม เพราะเขามาโดยเลือกตั้ง ก็ต้องมีสิทธิ เพียงแต่รัฐบาลนี้ต้องทำเป็นกรอบไว้ให้ก่อน ตรงนี้เป็นกรอบที่นายกรัฐมนตรีอยากให้ความชัดเจนว่า แผนยุทธศาสตร์ 20 ปีนั้น 5 ปีแรก จะทำอะไร ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ชาติจะแบ่งเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย ความ มั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ และด้านกฎหมาย
** ซัด"วันชัย"พูดซ้ำซาก แผ่นเสียงตกร่อง
นายวิษณุ ยังกล่าวถึง กรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสปช. ระบุ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ พยายามล็อบบี้ สปช. ให้ลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ทราบเรื่อง อ่านจากข่าว แต่นายวันชัย พูดทุกวันอยู่แล้ว ซ้ำกันไปซ้ำกันมาเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง เพราะไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกเหตุว่าจะคว่ำ หรือไม่คว่ำ แต่พูดทุกวันอยู่ได้ ทั้งที่ยังปรับแก้ไม่เสร็จ คิดว่าต้องรอสักพักให้ได้ปรับแก้ให้เสร็จเสียก่อน และพอเสร็จ จะมีการนำร่างรัฐธรรมนูญเปิดเผยให้ประชาชนดู โดยจะมีเวลาประมาณ 20 วัน ก่อนวันที่ สปช.จะลงมติ จึงอยากให้รอฟังตรงนั้นก่อน
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูทางกมธ.ยกร่างฯ ก็พยายามจะแก้เพื่อให้เป็นที่พอใจแก่ทุกฝ่าย ส่วนกรณีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ทักท้วงเรื่องสัดส่วนคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ทางกมธ.ยกร่างฯ ได้แก้ให้แล้ว แต่ตามหลักการ หากแก้ของ ก.ต. จะต้องกลับไปดูในส่วนของคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)ว่า จะต้องแก้ด้วยหรือไม่ เพื่อให้สอดรับกัน
ส่วนที่ สปช.จะรวบรวมแนวทางปฏิรูปเสนอรัฐบาลนั้น ยอมรับกังวลว่า จะไม่ตรงกับทิศทางของครม. หากไม่ตรงจะทำให้ทำงานยาก โดยการประชุมครม. วันนี้ (30 มิ.ย.) จะมีมติออกมาในเรื่องนี้ และประสานกลับไปยัง สปช. คาดว่า คงจะได้ทำงานใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกมธ.ยกร่างฯ กล่าวยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯ ไม่มีการเดินสายล็อบบี้สมาชิก สปช. เพื่อให้ลงมติเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ มีแค่เพียงการพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนสมาชิก สปช. จะตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นสิทธิ และขึ้นอยู่กับวิจารณ์ของแต่ละคน
