ASTVผู้จัดการรายวัน-ทอท.รื้อพัฒนา สุวรรณภูมิ เฟส3,4 ปรับแผนแม่บท พัฒนาคู่ ดอนเมือง (Duo Airport) คาดปี62-63รองรับผู้โดยสารรวมได้ถึง 130ล้านคน/ปี เผยแผนลงทุน 5 ปี 1.3-1.4 แสนล. เตรียมหารือคลัง-ธนารักษ์ ปลดล็อค ข้อกม.พัฒนาเชิงพาณิชย์หารายได้เพิ่ม
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพกร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรองรับผู้โดยสาร ประกอบด้วย การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)ระยะ 2 ซึ่งขณะนี้ทอท.ได้ปรับแผนการดำเนินงานโดยในปี 2558ทอท.จะเริ่มงานจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างสำหรับ 3 กลุ่มงาน ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 9 เดือน และจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมี.ค. 2559ใช้เวลา 33 เดือน ทดสอบระบบ 3 เดือน แล้วเสร็จ ในปี 2562 รองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคนต่อปี
ส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ประกอบด้วย การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 และ การปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 จะแล้วเสร็จในเดือนส.ค. 2558 และกำหนดเปิดให้บริการได้ประมาณปลายเดือนก.ย.2558การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เพื่อเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 6.5 ล้านคนต่อปีเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ขณะนี้งานก่อสร้างส่วนใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลืออีก 2 งาน คืองานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้มีความคืบหน้าประมาณ 70% ซึ่งยังเร็วกว่าแผนงานอยู่ และคาดว่าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศจะแล้วเสร็จประมาณเดือน14 ก.พ.2559
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่่า ทอท.อยู่ระหว่างปรับแผนแม่บท การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิควบคู่กับการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการใช้ 2 สนามบิน หรือ Duo Airport เนื่องจากแผนแม่บทเดิมเป็นนโยบายสนามบินเดี่ยว (Single Airport) ที่มีการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2,3,4
โดยจะทบทวนแผนแม่บทแล้วเสร็จในเดือนม.ค.2559 และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าทั้ง2 สนามบินจะสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้ 120-130 ล้านคนต่อปี และใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแผนเดิมที่พัฒนาเฉพาะที่สุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ สุวรรณภูมิเฟส2 ยังเดินหน้าตามเดิมโดยจะปรับลดเงินลงทุนจาก 6.2 หมื่นล้านบาทเหลือประมาณ 5.2-5.5 หมื่นล้านบาท โดยมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 รองรับผู้โดยสารได้ถึง 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งในระยะแรกเสร็จในปี 2562 จะรับได้ก่อน15 ล้านคนต่อปี ส่วนที่จะปรับใหม่คือ เฟส 3,4 โดยจะก่อสร้างเป็นอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือ Multi-Function Terminal วงเงิน 27,684.392 ล้านบาท แทน ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 20 ล้านคนต่อปี แล้วเสร็จในปี2563 ทำให้สุวรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารได้ถึง 80 ล้านคนติ่ปี และหากมีการพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลักออกไปทางตะวันออกจะเพิ่มการรองรับของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 ได้เต็ม 30 ล้านคนต่อปี สุวรรณภูมิจะรับได้เพิ่มเป็น 95 ล้านคนต่อปี
ส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง จะพัฒนาทางเดินเชื่อมอาคารผู้โดยสารภายในประเทศหลังเดิมที่จะมีการปรับปรุงใหม่ และสร้างอาคาร รูปแบบ Jucntion Terminal มีทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง แล้วเสร็จประมาณปี 61-62 เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารรวมได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี
"ตอนนี้จะเริ่มในส่วนของสุวรรณภูมิเฟส2 ก่อนเพราะผ่านEIA แล้ว ที่เหลือรอทบทวนแผนแม่บท โดยในช่วง 5 ปีนั้ ทอท.จะลงทุนประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นพัฒนาสุวรรณภูมิประมรณ 1.1 แสนล้านบาท (เฟส2 ประมาณ 5.2-5.5 หมื่นล้านบาท รันเวย์ที่3 ประมาณ 2หมื่นล้านบาท (ค่าก่อสร้าง1หมื่นล้านบาท ค่าชดเชยเสียง 1หมื่นล้านบาท) อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ประมาณ 2.7
หมื่นล้านบาท) และที่เหลือ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท พัฒนาดอนเมืองและสนามบินภูมิภาค"นายนิตินัยกล่าว
นอกจากนี้ ทอท.มีแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อเพิ่มรายได้ Non Aero ซึ่งปัจจุบันมีรายได้เติบโตประมาณ 18% ต่อปี โดยมีสัดส่วนที่40% เมื่อเทียบกับรายได้ Aero โดยเร็วๆนี้จะมีการหารือร่วม กับกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ ทหารอากาศ และกรมการบินพลเรือน (บพ.) เพื่อหาทางปลดล็อคการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่มีการเวนคืนมาก่อสร้างสนามบินเช่น
พื้นที่แปลง37 ของสุวรรณภูมิ เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นคลังเห็นด้วยกับการพัฒนาเพื่อให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มและทอท.สามารถพัฒนาพื้นที่ได้เต็มที่ ส่วนที่ดอนเมืองจะพัฒนาคลังสินค้า 1,2 โดยเพิ่มกิจกรรมขนส่งสินค้าเน่าเสียหายส่วนคลัง 3,4 กำลังศึกษาความเป็นไปได้การร่วมทุนพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง
สำหรับผลการดำเนินงานด้านการให้บริการ ท่าอากาศยาน 6 แห่ง ช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2558 (เดือนต.ค.2557 – พ.ค. 2558) ปริมาณการจราจรทางอากาศผ่าน ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.มีเที่ยวบิน 471,499 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน12.43 %แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 243,213 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 7.49% และเที่ยวบินภายในประเทศ 228,286 เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 18.23% และมีผู้โดยสาร 72,158,970 คน เพิ่มขึ้น 19.58 %แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 41,657,818 คน เพิ่มขึ้น 16.50 %และผู้โดยสารภายในประเทศ 30,501,152 คน เพิ่มขึ้น20.06 %โดยมีผู้โดยสารชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย และอินเดีย เดินทางมาใช้บริการมากสุดตามลำดับ ส่วนผลประกอบการด้านการเงินช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – มีนาคม 2558) ทอท.
มีรายได้รวม 23,234.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น11.04 %มีรายจ่ายทั้งหมด 12,190.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น7.11 %มีกำไรสุทธิ 8,803.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพกร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรองรับผู้โดยสาร ประกอบด้วย การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)ระยะ 2 ซึ่งขณะนี้ทอท.ได้ปรับแผนการดำเนินงานโดยในปี 2558ทอท.จะเริ่มงานจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างสำหรับ 3 กลุ่มงาน ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 9 เดือน และจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมี.ค. 2559ใช้เวลา 33 เดือน ทดสอบระบบ 3 เดือน แล้วเสร็จ ในปี 2562 รองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคนต่อปี
ส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ประกอบด้วย การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 และ การปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 จะแล้วเสร็จในเดือนส.ค. 2558 และกำหนดเปิดให้บริการได้ประมาณปลายเดือนก.ย.2558การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เพื่อเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 6.5 ล้านคนต่อปีเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ขณะนี้งานก่อสร้างส่วนใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลืออีก 2 งาน คืองานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้มีความคืบหน้าประมาณ 70% ซึ่งยังเร็วกว่าแผนงานอยู่ และคาดว่าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศจะแล้วเสร็จประมาณเดือน14 ก.พ.2559
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่่า ทอท.อยู่ระหว่างปรับแผนแม่บท การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิควบคู่กับการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการใช้ 2 สนามบิน หรือ Duo Airport เนื่องจากแผนแม่บทเดิมเป็นนโยบายสนามบินเดี่ยว (Single Airport) ที่มีการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2,3,4
โดยจะทบทวนแผนแม่บทแล้วเสร็จในเดือนม.ค.2559 และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าทั้ง2 สนามบินจะสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้ 120-130 ล้านคนต่อปี และใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแผนเดิมที่พัฒนาเฉพาะที่สุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ สุวรรณภูมิเฟส2 ยังเดินหน้าตามเดิมโดยจะปรับลดเงินลงทุนจาก 6.2 หมื่นล้านบาทเหลือประมาณ 5.2-5.5 หมื่นล้านบาท โดยมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 รองรับผู้โดยสารได้ถึง 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งในระยะแรกเสร็จในปี 2562 จะรับได้ก่อน15 ล้านคนต่อปี ส่วนที่จะปรับใหม่คือ เฟส 3,4 โดยจะก่อสร้างเป็นอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือ Multi-Function Terminal วงเงิน 27,684.392 ล้านบาท แทน ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 20 ล้านคนต่อปี แล้วเสร็จในปี2563 ทำให้สุวรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารได้ถึง 80 ล้านคนติ่ปี และหากมีการพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลักออกไปทางตะวันออกจะเพิ่มการรองรับของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 ได้เต็ม 30 ล้านคนต่อปี สุวรรณภูมิจะรับได้เพิ่มเป็น 95 ล้านคนต่อปี
ส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง จะพัฒนาทางเดินเชื่อมอาคารผู้โดยสารภายในประเทศหลังเดิมที่จะมีการปรับปรุงใหม่ และสร้างอาคาร รูปแบบ Jucntion Terminal มีทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง แล้วเสร็จประมาณปี 61-62 เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารรวมได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี
"ตอนนี้จะเริ่มในส่วนของสุวรรณภูมิเฟส2 ก่อนเพราะผ่านEIA แล้ว ที่เหลือรอทบทวนแผนแม่บท โดยในช่วง 5 ปีนั้ ทอท.จะลงทุนประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นพัฒนาสุวรรณภูมิประมรณ 1.1 แสนล้านบาท (เฟส2 ประมาณ 5.2-5.5 หมื่นล้านบาท รันเวย์ที่3 ประมาณ 2หมื่นล้านบาท (ค่าก่อสร้าง1หมื่นล้านบาท ค่าชดเชยเสียง 1หมื่นล้านบาท) อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ประมาณ 2.7
หมื่นล้านบาท) และที่เหลือ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท พัฒนาดอนเมืองและสนามบินภูมิภาค"นายนิตินัยกล่าว
นอกจากนี้ ทอท.มีแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อเพิ่มรายได้ Non Aero ซึ่งปัจจุบันมีรายได้เติบโตประมาณ 18% ต่อปี โดยมีสัดส่วนที่40% เมื่อเทียบกับรายได้ Aero โดยเร็วๆนี้จะมีการหารือร่วม กับกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ ทหารอากาศ และกรมการบินพลเรือน (บพ.) เพื่อหาทางปลดล็อคการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่มีการเวนคืนมาก่อสร้างสนามบินเช่น
พื้นที่แปลง37 ของสุวรรณภูมิ เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นคลังเห็นด้วยกับการพัฒนาเพื่อให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มและทอท.สามารถพัฒนาพื้นที่ได้เต็มที่ ส่วนที่ดอนเมืองจะพัฒนาคลังสินค้า 1,2 โดยเพิ่มกิจกรรมขนส่งสินค้าเน่าเสียหายส่วนคลัง 3,4 กำลังศึกษาความเป็นไปได้การร่วมทุนพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง
สำหรับผลการดำเนินงานด้านการให้บริการ ท่าอากาศยาน 6 แห่ง ช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2558 (เดือนต.ค.2557 – พ.ค. 2558) ปริมาณการจราจรทางอากาศผ่าน ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.มีเที่ยวบิน 471,499 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน12.43 %แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 243,213 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 7.49% และเที่ยวบินภายในประเทศ 228,286 เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 18.23% และมีผู้โดยสาร 72,158,970 คน เพิ่มขึ้น 19.58 %แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 41,657,818 คน เพิ่มขึ้น 16.50 %และผู้โดยสารภายในประเทศ 30,501,152 คน เพิ่มขึ้น20.06 %โดยมีผู้โดยสารชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย และอินเดีย เดินทางมาใช้บริการมากสุดตามลำดับ ส่วนผลประกอบการด้านการเงินช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – มีนาคม 2558) ทอท.
มีรายได้รวม 23,234.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น11.04 %มีรายจ่ายทั้งหมด 12,190.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น7.11 %มีกำไรสุทธิ 8,803.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน