ASTVผู้จัดการรายวัน-"ธีระชัย"ค้านกระทรวงการคลัง ขายหุ้นโปะหนี้จำนำข้าว ชี้ได้เงินไม่มาก ไม่คุ้ม แถมทำให้ภาพลักษณ์ประเทศดูมีฐานะร่อแร่ แนะควรศึกษาให้ดี "มาร์ค"ขอให้คลังแจงขายหุ้นตัวไหน คุ้มค่าหรือไม่ ห่วงแปรรัฐวิสาหกิจไปเป็นเอกชนกระทบคนไทย ไม่เชื่ออับจนถึงต้องขายสมบัติใช้หนี้ ด้าน "ประสงค์"ระบุไม่มีนโยบายขายหุ้น ทอท. ทิ้ง เหตุเป็นกิจการสาธารณูปโภคและความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 พ.ค.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala” ว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น เพื่อใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าว
"ข่าวว่ากระทรวงการคลังจะขายหุ้นในมือ เพื่อโปะขาดทุนจำนำข้าว แนวคิดนี้ ผมเคยเขียนไว้ในเฟซบุ๊กในปี 2557 ตั้งแต่ก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาล แต่ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม ทำให้ผมเปลี่ยนใจแล้ว บัดนี้ ผมไม่เห็นด้วย เพราะ
1.เนื่องจากจะได้เงินไม่มาก จึงไม่คุ้มกับผลกระทบต่อภาพลักษณ์ นักวิเคราะห์สากลอาจจะพานเข้าใจผิดว่าฐานะประเทศร่อแร่เต็มที
2.ประชาชนจะเข้าใจไขว้เขวได้ว่ากระทรวงการคลังไม่จริงใจที่จะเรียกให้ผู้ที่ก่อความเสียหายต้องชดใช้ก่อน
3.การบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังสามารถทำได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
4.การจะขายหุ้นใดหรือไม่ เมื่อใด ควรพิจารณาต่างหากจากการบริหารขาดทุนจำนำข้าว การเอาสองเรื่องมาปนกัน ก่อความเข้าใจผิด
5.การจะขายหุ้น ควรจะมีการศึกษา และมีการตั้งคำถามใหญ่ ว่า รัฐบาลควรจะถือหุ้นอยุ่ในธุรกิจเอกชนหรือไม่ การถือต่อไป มีข้อดีข้อเสียอย่างไร รัฐบาลยังควรมีรัฐวิสาหกิจ หรือให้เอกชนทำกันเองทั้งหมดเหมือนบางประเทศ ต้องตอบโจทย์ในภาพใหญ่เสียก่อน
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังมีแผนที่จะขายหุ้นของรัฐบาลจำนวนแสนล้าน เพื่อนำมาใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนว่า ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะขายหุ้นตัวใด เพราะต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่ตามมา ซึ่งไม่มีอะไรได้มาฟรี ถ้าขายหุ้นตอนนี้ เท่ากับว่ากระทรวงการคลังจะไม่ได้รับเงินปันผลจากหุ้นตัวนั้นทุกปี จึงต้องคำนวนความคุ้มค่าหรือไม่ และการขายหุ้นจะกระทบต่อสถานะทำให้รัฐวิสาหกิจต้องกลายเป็นของเอกชนหรือไม่ ฉะนั้น ถ้าเป็นกรณีหลังจะอ้างว่าขายเพื่อนำไปล้างหนี้ไม่ได้ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในกิจการที่เป็นรัฐวิสาหกิจด้วย
ทั้งนี้ การกู้เงินมาใช้หนี้หรือการขายสมบัติมาใช้หนี้ คิดว่าไม่ควรทำ เพราะคนรุ่นนี้ ต้องมีความรับผิดชอบกับการกู้ยืมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การผลักภาระไปให้ลูกหลานอย่างเดียว โดยในข้อเท็จจริง รัฐยังสามารถขาดดุลได้มากว่านี้ แต่การเลือกใช้วิธีกู้เงินหรือขายสมบัติมาชำระหนี้ ไม่ใช่เพื่อให้เกิดภาพว่ามีการใช้หนี้แล้ว แต่หนี้จริงไม่ได้ใช้ เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนกันออกไป
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า สำหรับ ทอท. กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ตนได้สอบถามสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายขายหุ้น ทอท. เนื่องจากกิจการของ ทอท. เป็นกิจการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคและความมั่นคงที่รัฐจะต้องให้การดูแล ประกอบกับหุ้น ทอท. มีผลประกอบการที่ดีและมีการจ่ายเงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังมาโดยตลอด
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่ากระทรวงการคลัง กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษ เพื่อล้างหนี้วงเงินกว่า 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ เป็นหนี้จากโครงการรับจำนำข้าวกว่า 5.2 แสนล้านบาท และที่เหลือเป็นหนี้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หนี้ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และหนี้กองทุนประกันสังคม โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน โดยหนึ่งในแนวทางแก้ปัญหา คือ การเตรียมพิจารณาขายหุ้นในกิจการของเอกชนที่รัฐถือหุ้นอยู่ หนึ่งในนั้น คือ ทอท. ได้ส่งผลให้ราคาหุ้นของทอท.ร่วงลงถึง 15 บาทใน 3 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 พ.ค.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala” ว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น เพื่อใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าว
"ข่าวว่ากระทรวงการคลังจะขายหุ้นในมือ เพื่อโปะขาดทุนจำนำข้าว แนวคิดนี้ ผมเคยเขียนไว้ในเฟซบุ๊กในปี 2557 ตั้งแต่ก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาล แต่ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม ทำให้ผมเปลี่ยนใจแล้ว บัดนี้ ผมไม่เห็นด้วย เพราะ
1.เนื่องจากจะได้เงินไม่มาก จึงไม่คุ้มกับผลกระทบต่อภาพลักษณ์ นักวิเคราะห์สากลอาจจะพานเข้าใจผิดว่าฐานะประเทศร่อแร่เต็มที
2.ประชาชนจะเข้าใจไขว้เขวได้ว่ากระทรวงการคลังไม่จริงใจที่จะเรียกให้ผู้ที่ก่อความเสียหายต้องชดใช้ก่อน
3.การบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังสามารถทำได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
4.การจะขายหุ้นใดหรือไม่ เมื่อใด ควรพิจารณาต่างหากจากการบริหารขาดทุนจำนำข้าว การเอาสองเรื่องมาปนกัน ก่อความเข้าใจผิด
5.การจะขายหุ้น ควรจะมีการศึกษา และมีการตั้งคำถามใหญ่ ว่า รัฐบาลควรจะถือหุ้นอยุ่ในธุรกิจเอกชนหรือไม่ การถือต่อไป มีข้อดีข้อเสียอย่างไร รัฐบาลยังควรมีรัฐวิสาหกิจ หรือให้เอกชนทำกันเองทั้งหมดเหมือนบางประเทศ ต้องตอบโจทย์ในภาพใหญ่เสียก่อน
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังมีแผนที่จะขายหุ้นของรัฐบาลจำนวนแสนล้าน เพื่อนำมาใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนว่า ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะขายหุ้นตัวใด เพราะต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่ตามมา ซึ่งไม่มีอะไรได้มาฟรี ถ้าขายหุ้นตอนนี้ เท่ากับว่ากระทรวงการคลังจะไม่ได้รับเงินปันผลจากหุ้นตัวนั้นทุกปี จึงต้องคำนวนความคุ้มค่าหรือไม่ และการขายหุ้นจะกระทบต่อสถานะทำให้รัฐวิสาหกิจต้องกลายเป็นของเอกชนหรือไม่ ฉะนั้น ถ้าเป็นกรณีหลังจะอ้างว่าขายเพื่อนำไปล้างหนี้ไม่ได้ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในกิจการที่เป็นรัฐวิสาหกิจด้วย
ทั้งนี้ การกู้เงินมาใช้หนี้หรือการขายสมบัติมาใช้หนี้ คิดว่าไม่ควรทำ เพราะคนรุ่นนี้ ต้องมีความรับผิดชอบกับการกู้ยืมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การผลักภาระไปให้ลูกหลานอย่างเดียว โดยในข้อเท็จจริง รัฐยังสามารถขาดดุลได้มากว่านี้ แต่การเลือกใช้วิธีกู้เงินหรือขายสมบัติมาชำระหนี้ ไม่ใช่เพื่อให้เกิดภาพว่ามีการใช้หนี้แล้ว แต่หนี้จริงไม่ได้ใช้ เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนกันออกไป
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า สำหรับ ทอท. กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ตนได้สอบถามสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายขายหุ้น ทอท. เนื่องจากกิจการของ ทอท. เป็นกิจการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคและความมั่นคงที่รัฐจะต้องให้การดูแล ประกอบกับหุ้น ทอท. มีผลประกอบการที่ดีและมีการจ่ายเงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังมาโดยตลอด
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่ากระทรวงการคลัง กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษ เพื่อล้างหนี้วงเงินกว่า 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ เป็นหนี้จากโครงการรับจำนำข้าวกว่า 5.2 แสนล้านบาท และที่เหลือเป็นหนี้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หนี้ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และหนี้กองทุนประกันสังคม โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน โดยหนึ่งในแนวทางแก้ปัญหา คือ การเตรียมพิจารณาขายหุ้นในกิจการของเอกชนที่รัฐถือหุ้นอยู่ หนึ่งในนั้น คือ ทอท. ได้ส่งผลให้ราคาหุ้นของทอท.ร่วงลงถึง 15 บาทใน 3 วัน