ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ไม่ว่าจะมีเสียงค้าน เสียงโพลออกมาอย่างไร ทั้งสวนดุสิตโพลและนิด้าโพล ฯลฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ก็ยังคงรับบท “มิสเตอร์กาสิโน OK” สนับสนุนการสร้างบ่อนการพนันถูกกฎหมายในสยามประเทศอย่างต่อเนื่อง
เรียกว่า ดันทุรังชนิดที่สามารถกล่าวได้ว่า ให้ความสำคัญกับเรื่องการสร้างบ่อนกาสิโนมากกว่า “การปฏิรูปตำรวจ” ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรจะทำเป็นอันดับแรกเสียด้วยซ้ำไป
ก่อนที่สุดท้ายจะถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งให้ “หุบปาก” เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับความเป็นข้าราชการซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมายของชาติ
อย่างไรก็ตาม ไม่น่าแปลกใจอะไรนักที่บทสรุปสุดท้ายของฉากละครน้ำ เน่าจะจบลงในลักษณะนี้ เพราะเป็นที่คาดการณ์ตั้งแต่แรกแล้วว่า การผลักดันเรื่องกาสิโนเป็นเพียงภาพยนตร์คั่นเวลาเพื่อยื้อกระบวนการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น โดย พล.ต.อ.สมยศยอมถูกด่าด้วยความเต็มใจ และเมื่อเห็นท่าว่ากระทบกับภาพลักษณ์และเสถียรภาพของรัฐบาลหนักขึ้นเรื่อย พล.อ.ประยุทธ์จะรับบทพระเอกขี่ม้าขาวเพื่อตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม
เพียงแต่ว่า นี่เป็นเพียงการพักโฆษณาเท่านั้น เพราะงานนี้มี “ความล้ำลึก” ยิ่งนัก เมื่อมีการเปิดเผยว่ามี “พลเอก” เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยมีเดิมพันคือการแสวงหางบประมาณก้อนโตเพื่อระดมทุนจัดตั้งพรรคการเมืองที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างดังขรมทั้งแผ่นดิน
“อ๊อด” ยอมเจ็บเรื่องกาสิโน ดีกว่าเดินหน้าถอดยศแม้ว
ใครที่ได้เห็น มิสเตอร์กาสิโน ok ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมกางชาร์ตแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของกาสิโนตามแนวชายแดนรอบประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ด้วยแล้ว เชื่อว่า ต้องเกิดคำถามว่า นี่มันใช่หน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ทำไมผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมายถึงได้มาสนับสนุนการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายในประเทศไทย
พล.ต.อ.สมยศทำตัวประหนึ่งเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล คสช.อย่างไรอย่างนั้น
เหมือนดังที่ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ “ประธานสภาพัฒนาการเมือง(สพม.) ระบุว่า “ข้าราชการที่มีหน้าที่ในการปราบบ่อนการพนันไม่ควรออกมาพูดเลย ถ้าผมมีอำนาจอย่าง ท่านประยุทธ์ ต้องปลดเลย ข้าราชการแบบนี้ใช้ไม่ได้ เพราะท่านเป็น ผบ.ตร.กำลังสวมหัวโขน มีหน้าที่ในการปราบบ่อน ไม่ควรที่จะมานำเสนอแบบนี้ เอาง่ายๆ ทุกวันนี้บ่อนผิดกฎหมายปราบปรามได้หมดแล้วหรือยัง ที่พูดว่าทำให้บ่อนถูกกฎหมายเสีย แล้วบ่อนผิดกฎหมายจะหมดไป มันคนละเรื่องเลย ดังนั้น ถ้ามีบ่อนถูกกฎหมายขึ้นมา เชื่อว่า จะยิ่งทำให้บ้านเราจมดิ่งไปอีก”
เฉกเช่นเดียวกับ “พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย” สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในฐาะประธานกลุ่ม สปช.รักชาติที่เดินเครื่องหนุนการสร้างบ่อนกาสิโนแบบสุดใจขาดดิ้นด้วยกัน
จนทำให้เกิดความสงสัยว่า พล.ต.อ.สมยศมีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.อาณันย์ในทางใดหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่า สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่นที่ คสช.ตั้งมากับมือที่ใช้นามสกุลวัชโรทัยผู้นี้เคยเป็นอดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศคืออดีตนายตำรวจติดตาม นายมนตรี พงษ์พานิช ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า คนบ้านนี้มีสายสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ “นายหญิง” แห่งระบอบทักษิณเพียงใด
ที่สำคัญ พล.ต.อ.สมยศยอมรับจากปากของตัวเองว่า ได้มีการหารือเรื่องการเปิดบ่อนกาสิโนกับทางกลุ่ม สปช.รักชาติทั้ง 12 คน
“ผมไม่สนใจผลโพลที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเปิดบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมาย เพราะผลการสำรวจดังกล่าวมีกลุ่มตัวอย่างเป็นแค่เพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ไม่ใช่การสำรวจความคิดเห็นของคนทั้งประเทศ”พล.ต.อ.สมยศกล่าว
“ยังไม่สามารถวัดผลอะไรได้ เพราพกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจยังมีอยู่น้อย”พ.ต.อาณันย์กล่าว
เป็น 2 ความคิดเห็นที่ช่างตรงกันราวกับนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า
“ผมได้ข้อมูลมาว่าเรื่องดังกล่าวมีใบสั่งให้ออกมาเคลื่อนไหว โดยรับคำสั่งจากพลเอกท่านหนึ่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากสมาชิก สปช.ท่านใดที่กล้าออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศที่จะมีการตั้งขันในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจาก สปช.ใกล้จะหมดวาระในอีก 2 เดือนจากนี้ จึงทำให้มีสมาชิกบางคนที่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ตัวเองโดยไม่คิดถึงปัญหาของสังคมที่จะเกิดขึ้น ผมอยากตั้งคำถามว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าคนที่สามารถผลักดันให้เกิดกาสิโนในประเทศไทยได้สำเร็จจะได้รับเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปตั้งพรรคการเมืองพรรคใหม่นั้น จริงหรือไม่”นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านสังคมให้ข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารับฟังเป็นอย่างยิ่ง
พลันที่ข้อมูลหลุดออกมาจากปากนายสิระ สังคมก็ฮือฮาและแสวงหาความจริงกันจ้าละหวั่นว่า “พลเอก” คนนั้นคือใคร เพราะถ้าจะว่าไปแล้วคนระดับพลเอกที่มีอำนาจและมีบารมีเพียงพอที่จะสั่งให้ สปช.หนุนบ่อนกาสิโนเพื่อแลกกับการได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศนั้นมีไม่กี่คนในประเทศนี้
และเมื่อทอดสายตาดูเหตุ ดูผล ดูภูมิหลังแล้ว เผลอๆ จะมีเพียงแค่ “คนเดียว” เสียด้วยซ้ำไป
กล่าวสำหรับมิสเตอร์กาสิโน ok นั้น ก่อนที่จะมีประกาศิตจาก “พี่ตู่” พล.ต.อ.สมยศประกาศชัดเจนว่า ยังคงยืนยันที่จะเดินทางเปิดเว็บไซต์ “สมยศฟอร์กาสิโน” เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อไป โดยมั่นใจว่า จะเข้าถึงประชาชนได้มากกว่าการทำโพล แถมเปิดประเด็นใหม่ด้วยว่า กลุ่มคนที่คัดค้านคือเจ้าของบ่อนพนันในประเทศเพื่อนบ้านที่เสียผลประโยชน์กว่า 30 แห่ง
ที่เด็ดไปกว่านั้น พล.ต.อ.สมยศปฏิเสธเสียงดังฟังชัดด้วยว่า ไม่ได้ผลักดันเรื่องนี้เพื่อมากลบกระแสข่าวการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยยืนยันว่า ดำเนินการทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนโดยไม่ได้มาเล่าให้ใครฟัง
พล.ต.อ.สมยศบอกว่า ต้องทำด้วยความรอบคอบ
และมิได้เปิดปากให้ได้ทราบว่า เรื่องการถอดยศจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่
เรียกว่า สถานการณ์ก่อนหน้านี้ กองเชียร์บ่อนกาสิโนทั้งฝั่งตำรวจและฝั่ง สปช.เดินเครื่องสนับสนุนกันเต็มอัตราศึกเลยทีเดียว ส่วนจะใช่เป็นเพราะสาเหตุดังที่นายสิริโพล่งออกมาหรือไม่ ไม่ทราบได้ รู้แต่เพียงว่า มีนายพลเอกบางคนปฏิเสธข้อมูลดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็จะไม่ให้กองเชียร์บ่อนกาสิโนยังคงคึกคักกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไร เพราะในช่วงแรกๆ เมื่อทอดสายตาไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทั้งเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ก็มิได้มีท่าทีคัดค้านชนิดหัวชนฝาแต่ประการใด
เป็นท่าทีที่ต้องบอกว่า เปิดช่องให้มิสเตอร์กาสิโน ok อย่าง พล.ต.อ.สมยศและกลุ่ม สปช.รักชาติภายใต้การนำของ พ.ต.อาณันย์ขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นคงมีคำสั่งให้ยุติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกันก็สอดรับกับบุคคลสำคัญในรัฐบาลและ คสช.หลายต่อหลายคนที่ชูรักแร้หนุนเรื่องนี้ ทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว หนึ่งใน คสช.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ตลอดรวมถึงนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นี่ไม่นับรวมถึง “พระไม่ยอม” หรือพระพยอม กัลยาโณที่เป็นศิษย์ตถาคตแต่กลับสนับสนุนเรื่องการสร้างบ่อนกาสิโน
“เวลานี้รอฟังเขา ดูอยู่ จะให้ดูดได้อย่างไร ผมเองก็ยังงงๆ อยู่ เขาพูดหมายถึงว่าเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์หรือเปล่า หรือจะเป็นการเปิดบ่อนให้คนไทยเล่น ผมก็ยังไม่รู้เลย สับสนไปมาอยู่นั่น ก็ลองฟังเขาดู”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวแสดงความคิดเห็นแบบน่ารักๆ และแทกกั๊กอย่างน่าเอ็นดูเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 พร้อมประกาศชัดด้วยว่า “ผมไม่ได้เข้าข้างใคร และไม่ได้ลอยตัว มันจะลอยตัวได้อย่างไร เพราะท้ายที่สุดรัฐบาลต้องเป็นคนรับผิดชอบ ...คงไม่ต้องมาอธิบายอะไร ผมมีสมองคิดเป็น ทุกคนมีความคิดของตัวเอง”
นายกฯ ลุงตู่นี่เด็ดสะระตี่สวีวี่วีเสียจริงๆ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็มีความเห็นไปในทำนองเดียวกัน
บิ๊กป้อมกล่าวว่า “ผมไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ ใครที่มีความคิดหรือความอ่านอะไรในเรื่องนี้ก็เสนอกันไป ทั้งหมดตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่เป็นการพูดกันเท่านั้นซึ่งต้องสร้างการรับรู้กันไป โดยส่วนตัวไม่มีความคิดเรื่องนี้ เพราะคิดแต่เรื่องอื่นก็แย่พอแล้ว ไม่สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เป็นเรื่องความคิดของบุคคลซึ่งไม่ได้คิดกันวันนี้ เรื่องนี้คิดมากี่ปีแล้วก็ไม่รู้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ส่วนที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.สนับสนุนการจัดตั้งกาสิโนนั้นเป็นแนวคิดส่วนตัวของ ผบ.ตร.”
พร้อมปฏิเสธไม่ทราบเรื่องมีพลเอกชักใยการเคลื่อนไหวเปิดบ่อนกาสิโน
“ลุงตู่” รับบทพระเอก สั่ง “บิ๊กอ๊อด” หุบปากเรียกเรตติ้ง
ความจริงเรื่องการเปิดบ่อนกาสิโนนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรมีความชัดเจนว่าจะสร้างหรือไม่สร้าง เพราะเรื่องนี้ถือมีความสำคัญและกระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาลโดยตรง
ไม่ต้องฉลาดล้ำหรือเป็นอัจฉริยะก็สมควรรับทราบได้ว่า
การสร้างกาสิโนในประเทศไทยมีผลเสียมากกว่าผลดี
รู้ทั้งรู้ว่า จะต้องโดนตำหนิ จะต้องโดนโจมตี แต่ก็ยังเฉยเมย ทำราวกับทองไม่รู้ร้อนเสียอย่างนั้น...อย่างนี้จะไม่ให้สังคมเข้าใจว่า เป็นการสร้างเรื่องเพื่อกลบกระแสการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้อย่างไร
ยิ่งเมื่อย้อนดูข้อมูลทางประวัติศาสตร์ด้วยแล้วก็จะยิ่งเห็นชัดว่า ทำไมถึงไม่ควรสร้าง ดังที่นายธีรภัทร์ให้ข้อมูลโดยยกพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเห็นโทษของบ่อนเบี้ยที่มีต่อราษฎรและประเทศ ด้วยการประกาศเลิกบ่อนเบี้ยรัตนโกสินทรศก 125 ซึ่งปรกาศเอาไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 21 หน้า 875-878 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ร.ศ.131 หรือ พ.ศ.2447
ดังความตอนหนึ่งว่า “แม้ว่าจะได้ผลประโยชน์มาใช้จ่ายในราชการแผ่นดินเป็นรายได้อันสำคัญของรัฐบาลประเภทหนึ่งก็จริง แต่ย่อมกระทำให้น้ำใจอาณาประชาราษฎร์ต้องดำเนินไปในทางต่ำช้า เลวทราม”
แหม...ในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่มีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ได้ ก็ยังต้องล้มแผนสร้างบ่อนกาสิโนไป แต่ถ้าสุดท้ายสามารถผลักดัน สานต่อและสร้างได้สำเร็จในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ ก็ให้มันรู้ไป
พล.อ.ประยุทธ์ต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นเรื่องที่รังจะทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาล คสช.ทรุดต่ำลงไป แม้จะออกตัวว่า ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล เป็นเพียง ความคิดส่วนตัวของ พล.ต.อ.สมยศ แต่ พล.ต.อ.สมยศก็คือลูกน้องสายตรง โดยประกาศชัดเจนว่า เขามีนาย 2 คนคือ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร
ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีวาระซ่อนเร้นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
“วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นเพื่อเตือนสติ พล.อ.ประยุทธ์แบบแรงๆ และไม่กลัวถูกเรียกไปปรับทัศนคติว่า
“เรื่องการผลักดันให้เปิดกาสิโนของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.นั้น ท่านก็บอกว่าจะฟัง ผบ.ตร.แล้วท่านได้ฟังเสียงประชาชนบ้างไหม ประชาชนเรียกร้องให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณตามกฎหมาย ท่านได้ยินไหม หากเรื่องแค่นี้ท่านไม่ทำแล้วจะอยู่ในอำนาจต่อไปนานๆ ได้อย่างไร ประชาชนก็จะลดความศรัทธาลงเรื่อยๆ วิกฤตศรัทธาก็จะเกิดกับรัฐบาลท่านในที่สุด”
และก็เป็นไปตามที่วัชระ เพชรทองพยากรณ์ เพราะยิ่งนานวันไป การเปิดกาสิโนได้ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จริงๆ
ขณะที่รัฐมนตรีร่วม ครม.หลายคนไม่ได้บ้าจี้ตามมิสเตอร์กาสิโน Ok ก็ออกโรงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้หลายต่อหลายคน ยกตัวอย่างเช่น หม่อมอุ๋ย-ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจที่บอกว่า “ไม่คุ้มกันหรอก รายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้น แลกกับความฉิบหายของสังคมไทย” พร้อมบอกด้วยว่า “นายทุนกลุ่มมารินา เบย์ แซนด์ สิงคโปร์ มาเข้าพบเพื่อเสนอการลงทุน แต่ได้ไล่กลับไปแล้ว
หรือ “นางกอบกาจญน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ประกาศชัดว่า “การมีหรือไม่มีกาสิโน ไม่มีผลว่าจะทำให้การท่องเที่ยวของเราจะตกหรือมากขึ้น เพราะเรามีจุดขายเยอะ บางประเทศเขาอาจจะมีกาสิโนเพราะว่าเขาไม่มีจุดขายอื่นๆ แต่เราไม่ต้องเลย เพราะเรามีของดั้งเดิมที่มีมาอยู่ช้านานแล้ว อีกทั้งตัวเลขการท่องเที่ยวของเราปีนี้อยู่ที่ 28.8 ล้านคน ซึ่งอยู่ในอันดับ 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวเข้ามา ฉะนั้น เราจึงไม่ได้มุ่งประเด็นเรื่องนี้ แต่จะมุ่งไปในสิ่งที่ดีที่เรามีอยู่มากกว่า จำเป็นต้องเป็นการท่องเที่ยวแบบวิถีไทย และตัดสินใจว่าจะคงอย่างนี้ไปอีก 2 ปีอย่างน้อย”
และในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ก็ทนต่อเสียงก่นด่าไม่ไหว โดยออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.สมยศงดจ้อเรื่องบ่อกาสิโนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558
“วันนี้ผมก็ได้แจ้งไปยังพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แล้วว่าให้หยุดพูด เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ”
เป็นไปตามบทที่เขียนไว้ทุกประการ
แต่จะอย่างไรก็ดี แม้จะสั่งให้ พล.ต.อ.สมยศหยุดพูดเรื่องกาสิโน แต่เมื่อถอดรหัสคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ก็พบว่า มีบางช่วงบางตอนฟังดู “ทะแม่งๆ” ว่าสนใจ “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” พร้อมถ้อยคำในวงเล็บว่า ไม่เน้นกาสิโนเป็นหลัก
“ถ้าเป็นลักษณะของเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์นั้น ไม่ได้เน้นในเรื่องกาสิโนเป็นหลัก แต่เน้นเรื่องการประชุม การท่องเที่ยวและสิ่งต่างๆ มากกว่า เท่าที่ผมได้ศึกษามา ซึ่งผมก็ต้องมาดูว่าแต่ละประเทศเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ผมยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น เพราะยังไม่ถึงเวลา คนทั้งประเทศเองก็ต้องฟังดูเช่นกัน ว่าเกิดหรือไม่เกิดประโยชน์หรืออย่างไร และสามารถจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ถ้าจะทำเรื่องคอมเพล็กซ์ก็ให้ว่ามา ว่าคนไทยเห็นด้วยหรือไม่ แต่เท่าที่ฟังดูตอนนี้มีการนำเรื่องของต่างประเทศเข้าเป็นเล่นล้วนๆ มาพูดกัน แต่ผ่อนภายในประเทศ ส่วนตัวผมว่ามันยังเกิดไม่ได้"
ฮั่นแน่...มันชักจะยังไงๆ เสียแล้ว
เอาเป็นว่า เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่า “ฯพณฯ พลเอก” ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการผลักดันบ่อนกาสิโนจะวางแผนเคลื่อนไหวอย่างไรเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้คือการหาทุนก้อนใหญ่เพื่อตั้งพรรคการเมืองตามเสียงร่ำ ลือ