xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ชี้รัฐประเมินพลาด ขึ้นภาษีก๊าซ ทำ ศก.พัง แฉมีผู้ให้ผลประโยชน์ทุกรัฐบาลเพื่อเปิดบ่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“มาร์ค” ห่วงรัฐบาลดำเนินนโยบายผิดพลาดจากการประเมินไทยเกิดปัญหาเพราะภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งที่ความจิรงมาจากประชาชนขาดกำลังซื้อ เตือนขึ้นภาษีสรรพสามิตแอลพีจี เอ็นจีวี ซ้ำเติมประชาชน เช่นเดียวกับการทุ่มเมกะโปรเจกต์ก็แก้ปัญหาไม่ได้ เหตุเงินกระจุกตัวอยู่ที่คนกลุ่มเดียว แนะเร่งหามาตรการชดเชยให้เกษตรกรเพื่อช่วยกำลังซื้อชาวบ้านเพิ่ม ส่วนการทำประชามติร่าง รธน.ต้องเปิดพื้นที่ให้คนเห็นต่างแสดงความเห็น จี้ “บิ๊กตู่” พูดให้ชัดเอาไม่เอากาสิโน แฉมีผู้ยื่นผลประโยชน์ให้ทุกรัฐบาลผลักดันบ่อนเสรี

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่ามีความน่าเป็นห่วงเพราะไปประเมินว่าเกิดจากเศรษฐกิจโลก ความจริงปัญหาหลักอยู่ที่ประชาชนขาดกำลังซื้อเป็นปัญหาภายในประเทศ ด้งนั้น การที่รัฐบาลกำหนดนโยบายที่จะขึ้นภาษีสรรพสามิตแอลพีจีภาคขนส่งและเอ็นจีวี ในขณะที่ประชาชนไม่มีกำลังซื้ออยู่แล้วถือเป็นนโยบายที่ผิดพลาดซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนด้านขนส่งจะเพิ่มขึ้น

ดังนั้น รัฐบาลต้องนึกถึงเป้าหลักในภาพรวมของเศรษฐกิจก่อน จำเป็นต้องทบทวนนโยบายพลังงานใหม่ เพราะเศรษฐกิจไทยไม่ได้ซบเซาจากปัญหาเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก แต่เป็นปัญหาจากปัจจัยภายในประเทศที่ขาดกำลังซื้อ และส่วนหนึ่งมาจากนโยบายพลังงานที่ผิดพลาดด้วย

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลคิดลงทุนภาครัฐและลงทุนขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะใช้เวลาและเงินไปกระจุกอยู่ที่คนกลุ่มหนึ่งไม่ได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และไม่เชื่อว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะลงทุนจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าได้ โดยรัฐบาลควรมุ่งที่รถไฟระบบทางคู่ ส่วนการทำรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย ควรใช้วิธีร่วมทุนกับจีนแทนการกู้เงิน เพราะมีความเสี่ยงต่อสถานะการเงินของประเทศ และควรทำให้เป็นโครงการรถไปของอาเซียนเพราะหลายประเทศได้รับประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นห่วง คือ ในขณะนี้ไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขการกู้เงินต่อสาธารณะทำให้ไม่ทราบว่ารัฐบาลเตรียมการอย่างไร เช่นเดียวกับสาย กทม.-เชียงใหม่ ก็ควรให้มีความชัดเจนว่าจะมีการลงทุนอย่างไรด้วย ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยมีการนำกรอบเจรจาไทย-จีน เกี่ยวกับเรื่องนี้เข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติมาแล้ว เมื่อมีข้อตกลงเกิดขึ้นก็ควรนำกลับมาให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อให้ สนช.ได้ร่วมพิจารณาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ว่า เมื่อ คสช.แก้รัฐธรรมนูญให้มีประชามติจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กติกาที่ใช้ในอนาคต สิ่งที่อยากจะเสนอแนะไม่ว่าการลงคะแนนของ สปช.จะเป็นอย่างไร ต้องปูทางเตรียมพร้อมไปสู่การทำประชามติเพราะทั่วโลกจะจับตามองอย่างแน่นอน และมีการประเมินว่าการทำประชามติเป็นการค้นหาเจตนารมณ์ของประชาชนจริงหรือไม่ จึงเลี่ยงไม่ได้ว่านอกจากมาตรฐานการสุจริตการลงคะแนนแล้ว ยังต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเห็นต่างกันสามารถแสดงความเห็นได้เพื่อให้ประชาชนที่จะไปลงคะแนนได้ตัดสินใจได้ แต่การใช้อำนาจและกติกาบางอย่างยังไม่สามารถเปิดให้ทำอย่างนั้นได้ จึงลำบากที่จะทำให้การทำประชามติเป็นที่ยอมรับได้ว่าเป็นการตัดสินใจของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น คสช.และรัฐบาลควรจะมีโรดแมปย่อยที่ไม่ใช่แค่จัดพิมพ์แล้วส่งไปให้คนอ่านเพื่อทำประชามติ แต่จะต้องมีการผ่อนคลายกฎกติกาให้มีการแสดงความเห็นทางการเมืองโดยสุจริตในรูปแบบไหนอย่างไร เมื่อไหร่

“เป็นไปไม่ได้ที่ประเทศจะปรับจากระยะที่สองเข้าสู่ระยะที่สามหรืออยู่ดีๆไปทำประชามติโดยไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้ บทบาทของสื่อคืออะไร บทบาทของคนที่อยากแสดงความเห็นคืออะไร กิจกรรมทางการเมืองอะไรบ้างที่ทำได้ อะไรที่ยังไม่อยากให้ทำเพราะกระทบต่อความมั่นคงต้องมีความละเอียดอ่อนมิเช่นนั้นจะเกิดความตรึงเครียดในสังคมและ คสช.จะอยู่ในฐานะที่ลำบาก”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการตั้งคำถามในการทำประชามติหลายประเด็นเพราะเสียดายเงิน ตนคิดว่าประเด็นที่มีความสำคัญเท่ากับเรื่องรัฐธรรมนูญมันมีน้อย และการทำให้เกิดหลายประเด็นจะสร้างความยุ่งยากซับซ้อนให้กับคนมาใช้สิทธิ และทำให้การเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น ถามเรื่องกาสิโน ซึ่งจะทำให้เกิดการหาเสียงตามมา ตนเห็นว่าหากไม่มีประเด็นอะไรที่เป็นเรื่องเดียวกันหรือสอดคล้องกับเรื่องการนำรัฐธรรมนูญไปใช้ไม่อยากให้เกิดขึ้น

ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเปิดโอกาสตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีกาสิโนได้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าใครจะเป็นคนเสนอคำถาม และจะใช้กลไกในการอนุมัติให้ถามเรื่องอะไร แต่ถ้าเห็นว่าประเด็นนี้มีความสำคัญเทียบเท่ากับรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องแปลก

“จุดยืนของผมต่อเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่วันนี้อยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีมีจุดยืนให้ชัด ไม่เห็นความจำเป็นที่สังคมต้องมาถกเถียงเรื่องนี้ยืดเยื้อ ในภาวะที่ มีเรื่องสำคัญกว่านี้มาก เช่น ภัยแล้ง เศรษฐกิจ ปากท้องที่ควรจะมาช่วยกันหาทางแก้ไข เรื่องนี้ประเด็นไม่ได้ซับซ้อน ถ้าท่านทำเรื่องนี้ให้มันจบเสียสังคมจะได้หันไปสนใจเรื่องอื่น”

ส่วนที่ สปช.ออกมาเปิดเผยว่ากลุ่ม สปช.รักชาติ รับใบสั่งให้มาเคลื่อนไหวผลักดันเรื่องตั้งกาสิโนเพื่อแลกกับตำแหน่งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธสาสตร์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรีบออกมาชี้แจง แต่เรื่องนี้ไม่ควรออกมาทำในช่วงนี้ และอยากให้จบเสีย และเชื่อว่าแนวคิดนี้มีคนอยากทำและมีผู้เสนอผลประโยชน์ให้ทำตลอดเวลาเกือบทุกรัฐบาล ยกเว้นรัฐบาลของตนที่มีจุดยืนชัดเจนไม่ทำ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีจุดยืนชัดเจนว่าไม่ทำ จะได้ไม่มีใครมาเสนอผลประโยชน์

“ที่แปลกใจคือ สปช.แทนที่จะมองว่าปัญหาทั้งหมดควรไปปฏิรูปสังคมและปฏิรูปตำรวจแต่กลับกลายเป็นว่ามาทำให้มันถูกกฎหมายและหากินกัน แต่เชื่อว่าสมาชิก สปช.ส่วนใหญ่ คงไม่ได้คิดเหมือนกับกลุ่มนี้ แต่อยากให้ส่งเสียงกันหน่อย รวมถึงกระแสข่าวว่ามีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อนำไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมอยากให้นายกฯเร่งหาข้อยุติ จะได้ไม่มีข้อครหาว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองจนเกิดความหงุดหงิดต่อสื่อมวลชนอีก เพราะถ้านายกฯ บอกว่าไม่เอาทุกอย่างก็จบ และหวังว่านายกฯ จะตัดสินใจตามค่านิยม 12 ประการที่ให้คนไทยยึดถือ”


กำลังโหลดความคิดเห็น