ตรวจสอบทรัพย์สิน “หลวงพ่อคูณ” และวัดบ้านไร่เสร็จแล้ว พบมีเงินฝากธนาคาร 6 บัญชี รวมกว่า 46.7 ล้านบาท และวัตถุมงคล 4 รุ่นมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท เผยรวบรวมแบ่งทรัพย์สินเป็น 6 หมวดสมบูรณ์ พร้อมส่งรายงานกรรมการชุดใหญ่ และประกาศให้สาธารณชนทราบ 24 มิ.ย.นี้
วานนี้ (22 มิ.ย.) นายธวัช เรืองหร่าย รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และวัดบ้านไร่ ตามคำสั่งของ “คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่” ที่แต่งตั้งโดย พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาว่า อดีตคณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้สำรวจรวบรวมทรัพย์สินต่างๆ ของพระเทพวิทยาคม และวัดบ้านไร่เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางธนาคารต่างๆ ได้ส่งรายละเอียดบัญชีเงินฝากมาให้คณะกรรมการฯ ซึ่งมีทั้งหมด 6 บัญชี
ประกอบด้วย 1.บัญชี 90 มีเงินจากการจำหน่ายวัตถุมงคล รุ่น 90 ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุดกว่า 20 ล้านบาท 2.บัญชีสุคโต เป็นบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคลรุ่นสุคโต เพื่อนำไปดำเนินโครงการสร้างบ้านถวายพ่อ มีเงินอยู่กว่า 10 ล้านบาท 3.บัญชีสุขในหัวใจ มีเงินอยู่กว่า 5 ล้านบาท 4.บัญชีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ มีจำนวน 2 บัญชี แยกเป็นบัญชีเงินฝากประจำ มีเงิน 4 ล้านบาท และบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก มีเงินกว่า 7 ล้านบาท และ 6. บัญชีส่วนตัวของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ มีเงินคงเหลือกว่า 7 แสนบาท รวมเงินในบัญชีทั้งสิ้นกว่า 46.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทรัพย์สินรายการต่าง ๆ ได้มีการแยกหมวดหมู่ไว้ทั้งหมดจำนวน 6 หมวดอย่างชัดเจน ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ กำหนด เช่น หมวดที่ดินของวัด ในส่วนที่ดินบริเวณสระน้ำ 90 ไร่ หลวงพ่อคูณ ได้มอบให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ มีเพียงที่ดินอันเป็นที่ตั้งของวัดบ้านไร่ 43 ไร่ เท่านั้นที่เป็นทรัพย์สินของวัดบ้านไร่
ขณะที่หมวดทรัพย์สินของมีค่า มีทั้งหมดกว่า 250 รายการ รวมทั้งวัตถุมงคลจำนวน 4 รุ่น รวมมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ส่วนหมวดยานพาหนะ มี รถยนต์ทั้งสิ้น 4 คัน ประกอบด้วยรถตู้ รถกอล์ฟ รถขนขยะ รถดูดสิ่งปฏิกูล หมวดอาคารสถานที่ มีทั้งหมด 34 รายการ เช่น พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ อุโบสถ 2 ชั้นพร้อมศาลาการเปรียญ โรงครัว และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และหมวดการเงิน มีบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวน 6 บัญชีรวมกว่า 46.7 ล้านบาทเป็นต้น
ส่วนหนี้สินของวิหารเทพวิทยาคม หรือ วิหารกลางน้ำกว่า 100 ล้านบาท ที่บริหารโดย นายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ นั้น ยืนยันเป็นคนละส่วนกับทรัพย์สินของวัดบ้านไร่
"ทรัพย์สินต่างๆ ของหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ทั้งหมด ยืนยันว่ายังอยู่ครบถ้วนไม่ได้หายไปไหน ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ จะนำรายงานบัญชีทรัพย์สินทั้ง 6 หมวด ส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ ที่แต่งตั้งโดย พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมกันพิจารณาและประกาศให้สาธารณะชนทราบต่อไป" นายธวัช กล่าว
วานนี้ (22 มิ.ย.) นายธวัช เรืองหร่าย รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และวัดบ้านไร่ ตามคำสั่งของ “คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่” ที่แต่งตั้งโดย พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาว่า อดีตคณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้สำรวจรวบรวมทรัพย์สินต่างๆ ของพระเทพวิทยาคม และวัดบ้านไร่เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางธนาคารต่างๆ ได้ส่งรายละเอียดบัญชีเงินฝากมาให้คณะกรรมการฯ ซึ่งมีทั้งหมด 6 บัญชี
ประกอบด้วย 1.บัญชี 90 มีเงินจากการจำหน่ายวัตถุมงคล รุ่น 90 ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุดกว่า 20 ล้านบาท 2.บัญชีสุคโต เป็นบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคลรุ่นสุคโต เพื่อนำไปดำเนินโครงการสร้างบ้านถวายพ่อ มีเงินอยู่กว่า 10 ล้านบาท 3.บัญชีสุขในหัวใจ มีเงินอยู่กว่า 5 ล้านบาท 4.บัญชีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ มีจำนวน 2 บัญชี แยกเป็นบัญชีเงินฝากประจำ มีเงิน 4 ล้านบาท และบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก มีเงินกว่า 7 ล้านบาท และ 6. บัญชีส่วนตัวของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ มีเงินคงเหลือกว่า 7 แสนบาท รวมเงินในบัญชีทั้งสิ้นกว่า 46.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทรัพย์สินรายการต่าง ๆ ได้มีการแยกหมวดหมู่ไว้ทั้งหมดจำนวน 6 หมวดอย่างชัดเจน ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ กำหนด เช่น หมวดที่ดินของวัด ในส่วนที่ดินบริเวณสระน้ำ 90 ไร่ หลวงพ่อคูณ ได้มอบให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ มีเพียงที่ดินอันเป็นที่ตั้งของวัดบ้านไร่ 43 ไร่ เท่านั้นที่เป็นทรัพย์สินของวัดบ้านไร่
ขณะที่หมวดทรัพย์สินของมีค่า มีทั้งหมดกว่า 250 รายการ รวมทั้งวัตถุมงคลจำนวน 4 รุ่น รวมมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ส่วนหมวดยานพาหนะ มี รถยนต์ทั้งสิ้น 4 คัน ประกอบด้วยรถตู้ รถกอล์ฟ รถขนขยะ รถดูดสิ่งปฏิกูล หมวดอาคารสถานที่ มีทั้งหมด 34 รายการ เช่น พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ อุโบสถ 2 ชั้นพร้อมศาลาการเปรียญ โรงครัว และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และหมวดการเงิน มีบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวน 6 บัญชีรวมกว่า 46.7 ล้านบาทเป็นต้น
ส่วนหนี้สินของวิหารเทพวิทยาคม หรือ วิหารกลางน้ำกว่า 100 ล้านบาท ที่บริหารโดย นายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ นั้น ยืนยันเป็นคนละส่วนกับทรัพย์สินของวัดบ้านไร่
"ทรัพย์สินต่างๆ ของหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ทั้งหมด ยืนยันว่ายังอยู่ครบถ้วนไม่ได้หายไปไหน ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ จะนำรายงานบัญชีทรัพย์สินทั้ง 6 หมวด ส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ ที่แต่งตั้งโดย พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมกันพิจารณาและประกาศให้สาธารณะชนทราบต่อไป" นายธวัช กล่าว