ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่เผยการสำรวจรวบรวมทรัพย์สินหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ใกล้แล้วเสร็จ คาด 18 มิ.ย.นี้ทางธนาคารส่งรายละเอียดบัญชีเงินต่างๆ มาให้ถือว่าสมบูรณ์ พร้อมสรุปผลส่งกรรมการชุดใหญ่ ยันยังไม่มีทรัพย์สินใดหายไปโดยเฉพาะวัตถุมงคล 150 ล้านบาท ล่าสุดค้นหัวเตียงพบตะกั่วเถื่อน ประคดและพระเก่าแก่ ชี้หลวงพ่อคูณเป็นพระผู้ให้แต่หากใครฉกมีอันเป็นไปทุกราย
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และทรัพย์สินวัดบ้านไร่ ตามที่ “คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคม และวัดบ้านไร่” แต่งตั้งโดยเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ไวยาวัจกรวัดและอดีตกรรมการวัดบ้านไร่ ไปสำรวจรวบรวมทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ทั้งหมดเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการฯ ภายในวันที่ 24 มิ.ย.นั้น
ล่าสุด นายธวัช เรืองหร่าย รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้การสำรวจรวบรวมทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ทั้งหมดใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งรักษาการกรรมการวัดบ้านไร่ได้ช่วยกันแยกหมวดหมู่ทรัพย์สินออกเป็น 6 หมวดตามที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ กำหนด เพื่อทำรายงานสรุปผลการสำรวจชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ ที่แต่งตั้งโดย พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ภายในกำหนดวันที่ 24 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ล่าสุดได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินบริเวณหัวเตียงนอนของหลวงพ่อคูณ ภายในกุฏิ พบว่า มีตะกั่วเถื่อนกว่า 1,000 เล่ม ประคดกว่า 10 เส้น สีผึ้ง และพระเครื่องเก่าแก่ที่ลูกศิษย์นำมาถวาย ซึ่งการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีทรัพย์สินของวัดและของหลวงพ่อคูณสูญหายไป เนื่องจากช่วงที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นพระผู้ให้ บางครั้งลูกศิษย์ญาติโยมขอไปท่านก็ให้ แต่หากใครหยิบฉวยไปโดยที่ไม่ได้ขอหรือท่านไม่ได้ให้ก็มักจะไม่เหลือละลายเหมือนน้ำแข็งและมีอันเป็นไป ซึ่งตนเห็นมากับตาตัวเองมาตลอด 20 ปีที่อยู่กับหลวงพ่อคูณ
นายธวัชกล่าวต่อว่า ส่วนวัตถุมงคลต่างๆ ยังอยู่ครบทุกชิ้นไม่ได้สูญหายไปไหน เฉพาะที่อยู่ในห้องเก็บวัตถุมงคลวัดบ้านไร่นั้นมีมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท และยังไม่รวมพระยอดธงอื่นๆ ที่พบในห้องกุฏิของหลวงพ่ออีก ซึ่งขอยืนยันว่าทุกอย่างไม่ได้สูญหายไปไหน
สำหรับบัญชีเงินฝากกับธนาคารต่างๆ ทางธนาคารกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทราบภายในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ซึ่งหากได้ข้อมูลรายละเอียดแต่ละบัญชีธนาคารมาทั้งหมดแล้ว ก็ถือว่าการสำรวจรวบรวมทรัพย์สินหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง และพร้อมที่จะสรุปผลส่งรายงานให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ตอนนี้ลูกศิษย์หลวงพ่อคูณทุกคนก็คิดว่าอดีตมันแก้ไขไม่ได้ ปัจจุบันเราต้องช่วยกันสร้างสิ่งที่ดีๆ และร่วมมือกันเมื่อมีโอกาส โดยเฉพาะเหลืออีกหลายอย่างที่จะร่วมกันสร้าง เช่น เรื่องเงินทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 100 ล้านบาท ตามเจตนาของหลวงพ่อคูณ ซึ่งสามารถทำต่อได้เพราะผู้คนมีศรัทธาหลวงพ่อคูณอยู่แล้ว รวมทั้งการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์วัดบ้านไร่ที่เก่าแก่ ชำรุด กระเบื้องหลังคาร่วงลงมาตลอด และโครงการสร้างบ้านให้พ่อ ทั้ง 3 สิ่งนี้คือเจตนารมณ์ที่ลูกศิษย์ต้องช่วยกันสานต่อ ส่วนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่รูปใหม่นั้นไม่มีปัญหาอะไร ขอให้มาทำงานพัฒนาวัด ทุกคนก็ไม่มีปัญหา” นายธวัชกล่าว