xs
xsm
sm
md
lg

ส่องบทบาทวิษณุ จาก“เนติบริกร” สู่“นายท้าย” คุมเรือแป๊ะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไม่มีใครคาด-ไม่มีใครคิดมาก่อนว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะตัดสินใจ “ผสมโรง” แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวถึง 7 ประเด็น เพื่อปลดล็อกข้อกฎหมายที่ทำให้การบริหารงาน-การบริหารคน ที่ติดขัดกันอยู่
จากเดิมคาดกันว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพียงแค่เปิดทางให้ทำ “ประชามติ” รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น เลยไม่มีแรงกระเพื่อมออกมาให้เห็น โดยเฉพาะประเด็นการยุบสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หากแพลมออกมา หรือบอกกันก่อน แรงกระเพื่อมอาจจะโถมเข้าหา “บิ๊กตู่” แบบจัดเต็มก็ได้
เกมนี้หลายคนชื่นชม หลายคนก่นด่า "คนเบื้องหลัง” ที่คอยวางหมากให้ “บิ๊กตู่” แก้ปัญหาที่ตัวเองรู้สึกไม่พอใจ และเป็นการปลดล็อก หลายเหตุการณ์ที่เขียนไว้ไม่ครอบคลุม
ว่ากันว่า “คนเบื้องหลัง” ของ “บิ๊กตู่” ที่คอยวางเกม-กำหนดเกม มีทีมงานหลายคน แต่หนึ่งใน “คนเบื้องหลัง” ที่รู้จักกันดีหนีไม่พ้น “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ที่โดดลงมาเล่นทั้งเบื้องหน้า-เบื้องหลัง
“วิษณุ” ถือเป็นเจ้าของสมญานาม “เนติบริกร” ตัวจริง เสียงจริง จากผลงานเนรมิตตัวบทกฎหมายสนองตอบความต้องการ ทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายการเมืองในแต่ละยุคได้อย่างสมบูรณ์แบบ การได้รับความไว้วางใจจาก 10 นายกรัฐมนตรี ในรอบ 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังถือเป็นนักกฎหมาย เพียงไม่กี่คนที่สามารถอธิบายเรื่องยากให้เข้าใจได้โดยง่าย เมื่อมีปัญหาเรื่องข้อกฏหมาย คนที่จะให้ความชัดเจนได้มากที่สุด จึงหนีไม่พ้น “วิษณุ” ที่คอยอรรถาธิบายทุกรายละเอียดปลีกย่อยให้แก่ผู้ฟัง โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่มักเกาหัวแกรกๆ เวลามีเรื่องที่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย
อย่างเนื้อหารัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ทั้ง 48 มาตรา ก็ถูก “วิษณุ” จาระไน แบบเคลียร์คัต ชัดเจนภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที
“วิษณุ” จึงเป็นเหมือนตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ คสช.ของ “บิ๊กตู่” เลือกมาให้ช่วยงานด้ามกฎหมาย
ไม่กี่วันก่อนได้ฟังคำสารภาพจากปาก “วิษณุ” ที่หลุดพูดออกมา คือว่า หลังเกิดรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ไม่ได้คิด และไม่เคยคิดจะมาช่วยงาน คสช. หรือเข้าร่วมรัฐบาลทหาร หนำซ้ำพอ คสช.เข้ายึดอำนาจไม่กี่ชั่วโมง ก็เลือกที่จะควงแขนอาจารย์ผู้มากด้วยคอนเนกชันอย่าง “มีชัย ฤชุพันธุ์ ” เดินทางออกไปต่างประเทศทันที
แม้ “วิษณุ” จะอ้างว่าเป็นกำหนดการเดิมที่เลื่อนมาเร็วขึ้น แต่ก็ยังถูกมองว่า มีนัยบางอย่างแอบแฝงอยู่ ซึ่งระยะเวลา 5-7 วัน ที่ออกมาตั้งหลักนั้น ก็สามารถเปิดดีลกับ “ขั้วอำนาจ” หลายฝั่งได้
และสุดท้ายดีลที่ลงล็อกที่สุดคือ “ขั้วอำนาจ คสช.”
"ไม่มีใครรู้หรอก หลังรัฐประหาร ผมหายตัวไป 5-7 วัน ไปต่างประเทศ ผมหลบออกไป ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากรับรู้อะไร แต่ก็ต้องกลับมาเพราะประเทศที่ไปอยู่ค่าใช้จ่ายแพงมาก แต่ไม่ขอบอกแล้วกันว่าไปอยู่ประเทศไหน” รองนายกฯวิษณุ เล่าย้อนเหตุการณ์เมื่อปีกลาย
“วิษณุ" ไม่ได้เฉลยว่าทำไมจึงออกนอกประเทศไป แต่กลับเลือกที่จะบอกว่า ตอนสมัยที่ "บิ๊กบัง - พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน” ทำรัฐประหารปี 2549 ช่วงนั้น ก็อยู่ต่างประเทศเหมือนกัน ซึ่งอาจจะไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างที่เล่าก็ได้ เพราะคนระดับ “วิษณุ” ที่มีคอนเนกชันหลากหลาย ย่อมรู้ “สัญญาณพิเศษ” ล่วงหน้าเสมอ
** "วิษณุ" ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า “ใคร” ส่งเทียบเชิญให้เข้ามาช่วย คสช. แต่กลับเลือกทิ้งปริศนาไว้ว่า "ไม่จำเป็นต้องรู้ รัฐบาลก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้มีแค่รัฐบาล ยังมีอะไรอื่นๆ อีก”
ทำให้ถึงบางอ้อทันทีว่า “ดีลมหาประลัย” ที่ดึง-โน้มน้าว ให้ “มีชัย-วิษณุ” อาจจะรวมไปถึง “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ประธานคณะกรรมการธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และบรรดา “นักกฏหมาย” แถวหน้าของเมืองไทย ถูก “ผู้มากบารมี” ตัวจริงเสียงจริง ติดต่อมาช่วยงาน “รัฐบาลบิ๊กตู่”
เพราะด้วยสถานการณ์หลายอย่าง และบทเรียนจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ หรือกำจัด “ระบอบทักษิณ” ให้สิ้นซากลงไปได้ จึงต้องอาศัย “นักกฏหมาย” แนวหน้ามาระดมสมอง คอยกำหนดเกมกันอีกครั้ง
และหากวิเคราะห์ถึงเนื้อหาประเด็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่เตรียมแก้ไขโดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า หากรัฐธรรมนูญต้องล้มไป ให้จัดตั้ง “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” ขึ้นมาใหม่ จำนวน 21 คน และเปิดช่องให้ “คนยกร่าง” คนเก่าเข้ามาดำรงตำแหน่งได้
ถือว่า เห็นได้ชัดว่า “มีชัย-วิษณุ” รวมไปถึง “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธาน สนช. ที่เป็นกุนซือกฎหมายของ “บิ๊กตู่” ร่วมกันคิดวิเคราะห์วางเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อไม่ให้ฆ่า “น้องในไส้” อย่าง “บวรศักดิ์” ทิ้งอย่างเลือดเย็น
เพราะเป็นที่รู้กันว่า หากรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ไม่ผ่านด้วยวิธีใดก็ตาม คนที่เสียหน้ามากที่สุดคือ “บวรศักดิ์” ซึ่งแน่นอนว่าคนระดับนี้ หากปล่อยให้เรื่องสำคัญพังลงกับมือ เครดิตที่สั่งสมมาชั่วชีวิตก็คงไม่เหลือ
**จึงไม่แปลกที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อก เปิดรูหายใจให้ “บวรศักดิ์” และปูพรมแดงเตรียมเก้าอี้ ใน “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” ไว้เสร็จสรรพ ซึ่งคงพูดไม่เกินจริงไปว่า หากมีการตั้งคณะกรรมการชุดที่ว่าจริง และฟันธงได้เลยว่า “บวรศักดิ์” จะกลับมานั่งตำแหน่ง “ประธาน” อีกครั้ง เพื่อสานต่อภารกิจให้เสร็จสิ้น
สะท้อนให้เห็นว่า “วิษณุ” ยึดคอนเซ็ปต์ของ “ทหาร” ไม่ฆ่าน้อง-ไม่ฟ้องนาย-ไม่ขายเพื่อน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ
ตรงกันข้ามกับข้อเสนอของ “พิชัย รัตตกุล” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พยายามออกมาสร้างพื้นที่ ตีราคาให้ตัวเอง ออกมาเสนอให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” คุยกับ “นช.แม้ว” ก่อนที่จะเดินหน้าปฏิรูป เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาไม่มีทางจบ
คำแนะนำของ “ปู่พิชัย” กลับถูก “วิษณุ” สวนกลับทันทีว่า มี “ผู้ใหญ่” หลายสิบคนเข้ามาให้คำปรึกษา แต่ไม่สามารถทำตามคำชี้แนะของ “ผู้ใหญ่” ได้ทุกคน
ปริศนา “ผู้ใหญ่” ที่ “วิษณุ” ทิ้งไว้น่าคิดว่ามีใครบ้าง เพราะในเมืองไทยมี “ผู้ใหญ่” หลายคนที่คนในสังคมให้การยอมรับนับถือ และการปรากฏตัวของ “ผู้ใหญ่” ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองกำลังเดินเข้าสู่ห้วงของการเปลี่ยนแปลง ยิ่งน่าติดตามทุกความเคลื่อนไหว
**ล่าสุด “อานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาผสมโรงเตือน “บิ๊กตู่” ว่าแก้ไขปัญหาได้แค่ผิวเผิน และไม่ได้เกิดความสงบที่ยั่งยืน แสดงให้เห็นแล้วว่า คงมี “ผู้ใหญ่” หลายคนเตือน “รัฐบาลบิ๊กตู่” อยู่ในที่ลับ อาจจะถึงขั้นมีวงลับของบรรดา “ผู้ใหญ่” อยู่พอสมควร
แน่นอนว่า คำเตือนที่ “ผู้ใหญ่” ส่งไปถึง “บิ๊กตู่” จะถูกส่งมายังผู้วางหมาก-วางกลเกมการเมือง อย่าง “วิษณุ” เพื่อขบคิดวิธีแก้ปัญหา-ปลดล็อก สถานการณ์ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
ชั่วโมงนี้ “วิษณุ” จึงถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ “บิ๊กตู่” จะขาดไม่ได้ และทุกคำพูดของ “วิษณุ” คือความคิดของ “บิ๊กตู่” คือความอยู่รอด-อยู่ยาว-อยู่สั้นของ “รัฐบาล”
บทบาทวันนี้เป็นเสมือน “นายท้าย” ผู้มีหน้าที่ควบคุม “เรือแป๊ะ” ให้แล่นไปตามทิศทางที่ “กัปตันตู่” ต้องการ
ว่ากันว่าครั้งนี้อาจจะเป็นการรับตำแหน่งครั้งสุดท้ายของ “เนติบริกร” ที่ชื่อ “วิษณุ เครืองาม” เพราะเมื่อถูกถามว่าหากมีการ “รัฐประหาร” เกิดขึ้นอีก จะรับตำแหน่งหรือไม่ ก็ถูกปัดทันควันว่า "คุณอย่ามายุ่งกับผม”
** แต่ถ้ามีรายการ “คุณขอมา” อีก ก็ไม่รู้ว่า “วิษณุ” จะปฏิเสธเสียงแข็งได้เหมือนวันนี้หรือเปล่า
กำลังโหลดความคิดเห็น