ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบ.ตร.แถลงข่าวศาลอนุมัติหมายจับ “มนตรี โสตางกูร” กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์อดีตพระวรชายา ฐานแอบอ้างเบื้องสูง เพื่อให้ได้รับแต่งตัั้งเป็นบอร์ด ปตท.-กสท และเป็นนายหน้าที่ดิน เพื่อรับค่าตอบแทนสูงกว่าปกติ คาดผู้ต้องหามอบตัว 11 มิ.ย.นี้ เตรียมตรวจสอบทรัพย์สินก่อนแจ้ง ปปง.ยึดทรัพย์ "ปิยสวัสดิ์"ย้ำผู้ต้องหาหมิ่นฯ ไม่ได้เป็นบอร์ด ปตท. แล้ว หลังขาดประชุม 2 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. แถลงข่าวกรณีศาลอาญา และศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ นายมนตรี โสตางกูร อายุ 54 ปี
โดยการอนุมัติหมายจับ เป็นไปตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.288/2558 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2558 และที่ จ.289/2558 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2558 ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชทายาท (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ), เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 148, 149, 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกนและปราบการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และ 123/1
นอกจากนี้ ยังมีหมายจับของศาลอาญาที่ 1190/2558 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2558 และที่ 1189/2558 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2558 ในข้อหาเดียวกัน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์แห่งคดีของนายมนตรีขณะที่ดำรงตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่ ประจำพระองค์อดีตพระวรชายาฯ ได้แอบอ้างเบื้องสูงและใช้ตำแหน่งหน้าที่ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง โดยนายมนตรีได้แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แต่งตั้งตนเองให้เป็นกรรมการในการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทย
"การกระทำของนายมนตรี เป็นการแอบอ้าง ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่านายมนตรีเป็นคนของพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร"
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการเชิญนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.กระทรวงพลังงาน และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาให้ข้อมูลถึงสาเหตุที่รัฐมนตรีทั้ง 2 ได้ตั้งนายมนตรีไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสากิจทั้ง 2 แห่ง เพราะเชื่อหรือหลงเชื่อว่าสิ่งที่นายมนตรีกล่าวอ้างเป็นความจริง พฤติกรรมของนายมนตรีจึงมีความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
พล.ต.อ.สมยศกล่าวย้ำว่า นายมนตรีเข้าไปทำงานในวัง ตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์อดีตพระวรชายาฯ เป็นเรื่องที่พระวรชายาฯ เป็นคนเลือกให้นายมนตรีไปทำงานประจำพระองค์ มิได้เกี่ยวข้องใดๆ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในงานหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสิ่งที่นายมนตรีได้กระทำลงไปนั้น เป็นเรื่องที่นายมนตรีกระทำด้วยตนเอง และเป็นส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตพระวรชายาฯ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยง หรือเป็นสิ่งที่นายมนตรีกระทำเพื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ยืนยันอีกครั้งว่าพระองค์ท่านมิได้มีส่วนรับรู้ หรือรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องใดๆ กับสิ่งที่นายมนตรีได้กระทำลงไป
นอกจากพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง เพื่อเข้าไปเป็นกรรมการในรัฐสาหกิจทั้ง 2 แห่งแล้ว ยังพบข้อมูลว่านายมนตรีมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงในการเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน มีการรับค่าตอบแทน ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นกว่าปกติ ตรงนี้เป็นการแอบอ้างเบื้องสูง และตำแหน่งหน้าที่การงานไปแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองหรือพวกพ้อง เหตุเกิดในท้องที่ สน.ทองหล่อ และสน.บางรัก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือขอให้ทางสำนักพระราชวัง เพื่อให้ทำการส่งตัวนายมนตรีให้พนักงานสอบสวน โดยจะมีการส่งมอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในชั้นนี้มีเพียงนายมนตรี ซึ่งพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานที่สามารถยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับได้
เมื่อถามว่านายมนตรีเกี่ยวข้องกับเครือข่าย พล.ต.ท.พงศพัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มีความเกี่ยวข้องในส่วนหนึ่ง แต่จะเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ ต้องรอให้ทางสำนักพระราชวังส่งตัวนายมนตรีให้พนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบปากคำซึ่งจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์
เมื่อถามว่าตำรวจจะมีการอายัดทรัพย์สินของนายมนตรีหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบจนทราบรายละเอียดแล้วว่ามีอะไรบ้าง อยู่ที่ไหน อย่างไร การดำเนินการเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากพบเข้าข่ายว่าจะต้องถูกยึดทรัพย์ ก็จะประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการในส่วนนี้
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันนายมนตรีไม่ได้เป็นบอร์ด ปตท.ตั้งแต่ปลายปี 2557 หลังจากขาดการประชุม 2 ครั้ง ซึ่งผิดข้อกำหนดการเป็นบอร์ดของ ปตท. โดยขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งบอร์ดทำงานแทน คือ นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. แถลงข่าวกรณีศาลอาญา และศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ นายมนตรี โสตางกูร อายุ 54 ปี
โดยการอนุมัติหมายจับ เป็นไปตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.288/2558 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2558 และที่ จ.289/2558 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2558 ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชทายาท (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ), เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 148, 149, 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกนและปราบการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และ 123/1
นอกจากนี้ ยังมีหมายจับของศาลอาญาที่ 1190/2558 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2558 และที่ 1189/2558 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2558 ในข้อหาเดียวกัน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์แห่งคดีของนายมนตรีขณะที่ดำรงตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่ ประจำพระองค์อดีตพระวรชายาฯ ได้แอบอ้างเบื้องสูงและใช้ตำแหน่งหน้าที่ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง โดยนายมนตรีได้แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แต่งตั้งตนเองให้เป็นกรรมการในการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทย
"การกระทำของนายมนตรี เป็นการแอบอ้าง ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่านายมนตรีเป็นคนของพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร"
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการเชิญนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.กระทรวงพลังงาน และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาให้ข้อมูลถึงสาเหตุที่รัฐมนตรีทั้ง 2 ได้ตั้งนายมนตรีไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสากิจทั้ง 2 แห่ง เพราะเชื่อหรือหลงเชื่อว่าสิ่งที่นายมนตรีกล่าวอ้างเป็นความจริง พฤติกรรมของนายมนตรีจึงมีความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
พล.ต.อ.สมยศกล่าวย้ำว่า นายมนตรีเข้าไปทำงานในวัง ตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์อดีตพระวรชายาฯ เป็นเรื่องที่พระวรชายาฯ เป็นคนเลือกให้นายมนตรีไปทำงานประจำพระองค์ มิได้เกี่ยวข้องใดๆ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในงานหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสิ่งที่นายมนตรีได้กระทำลงไปนั้น เป็นเรื่องที่นายมนตรีกระทำด้วยตนเอง และเป็นส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตพระวรชายาฯ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยง หรือเป็นสิ่งที่นายมนตรีกระทำเพื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ยืนยันอีกครั้งว่าพระองค์ท่านมิได้มีส่วนรับรู้ หรือรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องใดๆ กับสิ่งที่นายมนตรีได้กระทำลงไป
นอกจากพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง เพื่อเข้าไปเป็นกรรมการในรัฐสาหกิจทั้ง 2 แห่งแล้ว ยังพบข้อมูลว่านายมนตรีมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงในการเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน มีการรับค่าตอบแทน ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นกว่าปกติ ตรงนี้เป็นการแอบอ้างเบื้องสูง และตำแหน่งหน้าที่การงานไปแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองหรือพวกพ้อง เหตุเกิดในท้องที่ สน.ทองหล่อ และสน.บางรัก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือขอให้ทางสำนักพระราชวัง เพื่อให้ทำการส่งตัวนายมนตรีให้พนักงานสอบสวน โดยจะมีการส่งมอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในชั้นนี้มีเพียงนายมนตรี ซึ่งพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานที่สามารถยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับได้
เมื่อถามว่านายมนตรีเกี่ยวข้องกับเครือข่าย พล.ต.ท.พงศพัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มีความเกี่ยวข้องในส่วนหนึ่ง แต่จะเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ ต้องรอให้ทางสำนักพระราชวังส่งตัวนายมนตรีให้พนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบปากคำซึ่งจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์
เมื่อถามว่าตำรวจจะมีการอายัดทรัพย์สินของนายมนตรีหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบจนทราบรายละเอียดแล้วว่ามีอะไรบ้าง อยู่ที่ไหน อย่างไร การดำเนินการเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากพบเข้าข่ายว่าจะต้องถูกยึดทรัพย์ ก็จะประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการในส่วนนี้
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันนายมนตรีไม่ได้เป็นบอร์ด ปตท.ตั้งแต่ปลายปี 2557 หลังจากขาดการประชุม 2 ครั้ง ซึ่งผิดข้อกำหนดการเป็นบอร์ดของ ปตท. โดยขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งบอร์ดทำงานแทน คือ นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ