เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ ( 4 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานมอบรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2558 ให้แก่ผู้นำชาวนา องค์กรชาวนา เนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบชาวนา ตนเป็นทหารมาทั้งชีวิต เคยทำงานแถวชายแดนในพื้นที่ชนบท จึงได้เห็นความยากจน และความลำบากของชาวนา และจากการตามเสด็จฯ จึงทำให้ทราบว่า ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงชาวนา อยากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้เราจึงต้องนำสิ่งที่พระองค์ท่านเริ่มต้นมาทำต่อ แม้ตนเป็นนายกฯที่ไม่ใช่นักการเมือง ไม่เคยคิดมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อต้องเข้ามาดูแลบ้านเมืองชั่วคราว จะต้องสร้างความเข้มแข็ง และความมั่นคงให้มากที่สุด โดยเฉพาะปัญหาในด้านการเกษตร ที่วันข้างหน้าสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ฝนจะไม่ตกตามฤดูกาล จึงต้องมีการวางแผนการเพาะปลูก
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะต้องวางแผนบริหารจัดการข้าวทั้งประเทศ กำหนดพื้นที่เพาะปลูก ส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์ดี และทำระบบชลประทาน ขุดเจาะแหล่งน้ำ ลดต้นทุนการผลิต ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น โดยจัดทำในรูปแบบสหกรณ์
" อยากให้ชาวนาทุกคนภาคภูมิใจ เพราะชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ ถ้ากระดูกสันหลังหัก ก็เหมือนกับชีวิตดับ หรือเป็นอัมพาต เท่ากับประเทศไทยป่วยหรือบาดเจ็บ เหมือนผม ที่ขณะนี้ปวดคอ ปวดหัว เพราะเครียดจากการทำงาน จะหายก็ต่อเมื่อเห็นชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้เวลาผมนั่งรถโก้ๆ แล้วผ่านไปเจอชาวนาที่ตากแดดตากฝน ผมอายเขา เพราะยังช่วยอะไรเขาไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ข้าวล้นคลัง ราคาข้าวตกต่ำ มีความเสียหายมาก ซึ่งนโยบายประชานิยมนั้น อาจจำเป็นในบางเรื่อง แต่เป็นเพียงระยะสั้น ไม่ใช่ระยะยาว ซึ่งวันนี้ตนเข้ามาหยุดการทุจริตทั้งหมด ทุกคนต้องช่วยกันดู ไม่ให้มีคนโกง ต้องช่วยกันรักษาประโยชน์ของชาติ วันนี้
ขอให้ชาวนามองวิกฤตเป็นโอกาส ต้องไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม จะมาทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว โลกจะทะเลาะหรือรบกันจนตาย ก็ปล่อยเขาไป แต่ถ้าเรามัวแต่ทะเลาะกัน ประเทศจะขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ ตนไม่ได้รังเกียจนักการเมือง หรือประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตย ต้องมีธรรมาภิบาล และต้องดูแลคนทุกอาชีพ
"วันนี้รัฐบาลเข้ามาสร้างอนาคตให้ ก่อน 22 พ.ค. ปัญหามีมากมาย เพราะมีคนมาปั่นให้ทะเลาะกันเอง ถามว่าคนปลุกปั่นได้อะไร ประเทศเสียอะไร แกนนำตายหรือไม่ มีแต่มวลชน เราต้องคิดถึงประเทศชาติ วันหน้าประเทศจะได้เป็นมหาอำนาจในอาเซียน ใครทำแล้วโกง ก็อย่าไปเลือก ผมไม่ได้หมายถึงใครนะ วันนี้ยังมี เคเบิ้ล หรือเสียงตามสาย พูดจาปลุกระดมให้คนเกลียด คสช. ผมอยากฝากชกปากสักที " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโอกาสให้ชาวนาซักถาม ซึ่ง นายรังสรรค์ กาสูรงค์ ตัวแทนชาวนาจาก จ.ฉะเชิงเทรา ถามว่า ทำไมซื้อข้าวจากชาวนาในราคาถูก แต่เมื่อไปขายกลับมีราคาแพง จึงอยากให้นายกฯ หาตัวไอ้โม่งที่ทำให้ราคาแพงขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า ไอ้โม่งไม่ต้องไปหาก็เจอ แต่ตนก็จะรับเรื่องใหักระทรวงเกษตรฯไปจัดการ อย่างไรก็ตาม การจะทำอะไร ก็ต้องระวังและดูข้อกฎหมายเป็นหลัก ถ้าเป็นการแทรกแซง ก็จะผิดข้อตกลงของเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ส่วนการแทรกแซงราคารับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตัน ผิดหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ต้องมีการตรวจสอบ ทั้งนี้ขอให้ชาวนารวมตัวกันใช้โซเชียลบิซิเนส เพื่อให้มีช่องทางในการขายข้าวโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะหากรัฐบาลจะนำข้าวในสต็อกมาขายราคาถูก ก็จะทำให้เสียกลไกตลาด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องขอตัวแทนชาวนา จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ชาวนาเขามีความสงสัยว่า กำไรในเรื่องการขายข้าวอยู่ที่ใคร ซึ่งขณะนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ ก็มีทั้งเรื่องกระบวนการการรับจำนำข้าว การขายข้าว ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการสอบสวนแล้ว ในส่วนที่ตนได้มอบหมายให้ไปดูข้าวที่อยู่ในโกดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ ต้องไปดูกติกา กฎหมายพอสมควรว่า จะสามารถนำข้าวที่อยู่ในโกดัง จะสามารถนำออกมาขายให้กับประชาชนในราคาถูกได้หรือไม่ ซึ่งก็จะมาดูว่า ต้นทุนที่เราใช้ไป จะสามารถนำมาทดแทนได้แค่ไหน ไม่เช่นนั้นก็จะถูกผู้ที่ เกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าว กล่าวหาว่า เราจำหน่ายข้าวในราคาที่ถูกเกินไป แล้วทำให้ขาดทุนเยอะ กลายเป็นว่า ความผิดที่พวกเขาได้รับมา เป็นเพราะเราขายข้าวไม่ดีเอง เรื่องนี้ต้องระวัง หากจะเอาข้าวมาขายในราคาถูก จะกลายเป็นข้อแก้ตัวให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าขายได้มาก ในราคาสูง ก็จะเป็นข้ออ้างอีกว่า แสดงว่าเขาทำถูก ส่วนจะถูกหรือผิด ก็ให้กระบวนการยุติธรรมไปว่ากัน ตนรู้แต่เพียงว่าตอนนี้มันเป็นภาระกับระบบการเงินการคลังของประเทศ จึงต้องไปหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งการส่งออก การปลอมปนข้าว ที่หลายคนเรียกว่า ไอ้โม่ง ตอนนี้อยู่ในกระบวนการทั้งหมดแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็คงจะรู้ว่าเป็นใคร โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ กำลังรวบรวมข้อมูล และดำเนินการฟ้องศาลอยู่ ซึ่งอาจจะดำเนินคดีในทางแพ่งด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบชาวนา ตนเป็นทหารมาทั้งชีวิต เคยทำงานแถวชายแดนในพื้นที่ชนบท จึงได้เห็นความยากจน และความลำบากของชาวนา และจากการตามเสด็จฯ จึงทำให้ทราบว่า ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงชาวนา อยากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้เราจึงต้องนำสิ่งที่พระองค์ท่านเริ่มต้นมาทำต่อ แม้ตนเป็นนายกฯที่ไม่ใช่นักการเมือง ไม่เคยคิดมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อต้องเข้ามาดูแลบ้านเมืองชั่วคราว จะต้องสร้างความเข้มแข็ง และความมั่นคงให้มากที่สุด โดยเฉพาะปัญหาในด้านการเกษตร ที่วันข้างหน้าสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ฝนจะไม่ตกตามฤดูกาล จึงต้องมีการวางแผนการเพาะปลูก
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะต้องวางแผนบริหารจัดการข้าวทั้งประเทศ กำหนดพื้นที่เพาะปลูก ส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์ดี และทำระบบชลประทาน ขุดเจาะแหล่งน้ำ ลดต้นทุนการผลิต ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น โดยจัดทำในรูปแบบสหกรณ์
" อยากให้ชาวนาทุกคนภาคภูมิใจ เพราะชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ ถ้ากระดูกสันหลังหัก ก็เหมือนกับชีวิตดับ หรือเป็นอัมพาต เท่ากับประเทศไทยป่วยหรือบาดเจ็บ เหมือนผม ที่ขณะนี้ปวดคอ ปวดหัว เพราะเครียดจากการทำงาน จะหายก็ต่อเมื่อเห็นชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้เวลาผมนั่งรถโก้ๆ แล้วผ่านไปเจอชาวนาที่ตากแดดตากฝน ผมอายเขา เพราะยังช่วยอะไรเขาไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ข้าวล้นคลัง ราคาข้าวตกต่ำ มีความเสียหายมาก ซึ่งนโยบายประชานิยมนั้น อาจจำเป็นในบางเรื่อง แต่เป็นเพียงระยะสั้น ไม่ใช่ระยะยาว ซึ่งวันนี้ตนเข้ามาหยุดการทุจริตทั้งหมด ทุกคนต้องช่วยกันดู ไม่ให้มีคนโกง ต้องช่วยกันรักษาประโยชน์ของชาติ วันนี้
ขอให้ชาวนามองวิกฤตเป็นโอกาส ต้องไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม จะมาทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว โลกจะทะเลาะหรือรบกันจนตาย ก็ปล่อยเขาไป แต่ถ้าเรามัวแต่ทะเลาะกัน ประเทศจะขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ ตนไม่ได้รังเกียจนักการเมือง หรือประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตย ต้องมีธรรมาภิบาล และต้องดูแลคนทุกอาชีพ
"วันนี้รัฐบาลเข้ามาสร้างอนาคตให้ ก่อน 22 พ.ค. ปัญหามีมากมาย เพราะมีคนมาปั่นให้ทะเลาะกันเอง ถามว่าคนปลุกปั่นได้อะไร ประเทศเสียอะไร แกนนำตายหรือไม่ มีแต่มวลชน เราต้องคิดถึงประเทศชาติ วันหน้าประเทศจะได้เป็นมหาอำนาจในอาเซียน ใครทำแล้วโกง ก็อย่าไปเลือก ผมไม่ได้หมายถึงใครนะ วันนี้ยังมี เคเบิ้ล หรือเสียงตามสาย พูดจาปลุกระดมให้คนเกลียด คสช. ผมอยากฝากชกปากสักที " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโอกาสให้ชาวนาซักถาม ซึ่ง นายรังสรรค์ กาสูรงค์ ตัวแทนชาวนาจาก จ.ฉะเชิงเทรา ถามว่า ทำไมซื้อข้าวจากชาวนาในราคาถูก แต่เมื่อไปขายกลับมีราคาแพง จึงอยากให้นายกฯ หาตัวไอ้โม่งที่ทำให้ราคาแพงขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า ไอ้โม่งไม่ต้องไปหาก็เจอ แต่ตนก็จะรับเรื่องใหักระทรวงเกษตรฯไปจัดการ อย่างไรก็ตาม การจะทำอะไร ก็ต้องระวังและดูข้อกฎหมายเป็นหลัก ถ้าเป็นการแทรกแซง ก็จะผิดข้อตกลงของเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ส่วนการแทรกแซงราคารับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตัน ผิดหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ต้องมีการตรวจสอบ ทั้งนี้ขอให้ชาวนารวมตัวกันใช้โซเชียลบิซิเนส เพื่อให้มีช่องทางในการขายข้าวโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะหากรัฐบาลจะนำข้าวในสต็อกมาขายราคาถูก ก็จะทำให้เสียกลไกตลาด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องขอตัวแทนชาวนา จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ชาวนาเขามีความสงสัยว่า กำไรในเรื่องการขายข้าวอยู่ที่ใคร ซึ่งขณะนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ ก็มีทั้งเรื่องกระบวนการการรับจำนำข้าว การขายข้าว ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการสอบสวนแล้ว ในส่วนที่ตนได้มอบหมายให้ไปดูข้าวที่อยู่ในโกดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ ต้องไปดูกติกา กฎหมายพอสมควรว่า จะสามารถนำข้าวที่อยู่ในโกดัง จะสามารถนำออกมาขายให้กับประชาชนในราคาถูกได้หรือไม่ ซึ่งก็จะมาดูว่า ต้นทุนที่เราใช้ไป จะสามารถนำมาทดแทนได้แค่ไหน ไม่เช่นนั้นก็จะถูกผู้ที่ เกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าว กล่าวหาว่า เราจำหน่ายข้าวในราคาที่ถูกเกินไป แล้วทำให้ขาดทุนเยอะ กลายเป็นว่า ความผิดที่พวกเขาได้รับมา เป็นเพราะเราขายข้าวไม่ดีเอง เรื่องนี้ต้องระวัง หากจะเอาข้าวมาขายในราคาถูก จะกลายเป็นข้อแก้ตัวให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าขายได้มาก ในราคาสูง ก็จะเป็นข้ออ้างอีกว่า แสดงว่าเขาทำถูก ส่วนจะถูกหรือผิด ก็ให้กระบวนการยุติธรรมไปว่ากัน ตนรู้แต่เพียงว่าตอนนี้มันเป็นภาระกับระบบการเงินการคลังของประเทศ จึงต้องไปหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งการส่งออก การปลอมปนข้าว ที่หลายคนเรียกว่า ไอ้โม่ง ตอนนี้อยู่ในกระบวนการทั้งหมดแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็คงจะรู้ว่าเป็นใคร โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ กำลังรวบรวมข้อมูล และดำเนินการฟ้องศาลอยู่ ซึ่งอาจจะดำเนินคดีในทางแพ่งด้วย