ผู้ว่าฯ นำชาวโคราชกว่า 1,000 คน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 93 รูปเนื่องในพิธีบำเพ็ญกุศลครบ 15 วันแห่งการมรณภาพหลวงพ่อคูณ คณะแพทย์ศาสตร์ มข.ติดตั้งจอ LED ขนาด 60 นิ้วส่งสัญญานภาพวงจรปิดจากห้องดองสังขารหลวงพ่อคุณ ไปยังงานบุญที่โคราช อดีต ปธ.กก.วัดบ้านไร่ลั่นพร้อมให้ตรวจสอบสร้างวัดบ้านไร่ 2 และรูปหล่อพ่อคูณใหญ่สุดในโลก ที่วังน้ำเขียว เผยใช้ งบกว่า 100 ล้าน ทุกบาทมาจากบารมีหลวงพ่อ ยอมรับเซ็นใบอนุญาตสร้างวัตถุมงคลวัดบ้านไร่ร่วม 100 ใบๆ ละ 2-3 ล้าน แต่นำเงินมาสร้างวัด ระบุไม่เคยรู้จัก "พระนุช"
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิ ปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำศิษยานุศิษย์ ประชาชนชาวจังหวัด นครราชสีมา กว่า 1,000 คน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในพิธีบำเพ็ญกุศลปัณณรสมวาร (ครบ 15 วัน) แห่งการมรณภาพของ พระ เทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีพระสงฆ์ออกรับบิณฑบาตจำนวน 93 รูป และประชาชนพร้อมลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณเดินทางมาร่วมงานต่างสวมชุดขาวอย่างพร้อม เพรียงกัน ทั้งนี้เพื่ออุทิศถวายแด่ หลวงพ่อคูณ
ทั้งนี้ ในพิธีได้มีการนำรูปหล่อเหมือน หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่มาตั้งไว้ให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้กราบ นมัสการด้วย ซึ่งทุกคนยังอยู่ภาวะโศกเศร้าต่อการจากไปของหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา มีกำหนดจะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลครบ 50 วันและ 100 วัน แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ ด้วย
ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ทางจังหวัดได้ร่วมกับสำนักพุทธศาสนาจังหวัด นครราชสีมา และชมรมเพื่อนสุวัจน์ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลครบ 15 วัน แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรอง นายกรัฐมนตรี ในฐานะลูกศิษย์ก้นกุฏิ, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่า ราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับคณะสงฆ์ สมรรณศักดิ์ 10 รูป และคณะพระสงฆ์ 52 รูป รวมทั้งคณะสงฆ์จาก 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา สวดพระพุทธมนต์ ซึ่งมีบรรดาศิษยานุศิษย์ ญาติโยมพี่น้องประชาชนจาก 88 ชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และจาก 32 อำเภอ ต่างสวมชุดนุ่งห่มขาว และชุดไว้ทุกข์ รวมกว่า 3,000 คน เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ดังกล่าว
โดยภายในงานได้มีการนำรูปปั้นเหมือนหลวงพ่อคูณ ท่านั่งยองๆ มาให้ศิษยานุศิษย์ญาติโยมกราบไหว้สักการะและบริจาคเงินสนับ สนุนการศึกษาของสงฆ์ สามเณร พร้อมตั้งโรงทานเกือบ 100 ร้านค้า ให้บริการอาหาร น้ำดื่มอย่างเต็มที่ รวมทั้งตั้งจอโปรเจคเตอร์ จำนวน 6 จอ เปิดฉายภาพวิดีโอภาพหลวงพ่อคูณ ทั้งในช่วงการละสังขารที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา การเคลื่อนย้ายสรีระไปยัง มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รวมทั้งภาพพิธีบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ตลอด 7วัน ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์ กาญจนาภิเษก มข. และ การเคลื่อนสรีระส่งมอบให้คณะแพทย์ศาสตร์ มข. ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อดองร่างเข้าสู่กระบวนการศึกษาต่อไป
อีกทั้งยังได้เปิดคลิปวิดีโอที่หลวงพ่อคูณ กล่าวในพินัยกรรมเพื่อให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์ได้รู้ซึ้งเข้าใจ และทำตามเจตนารมณ์ของ หลวงพ่อคูณ ด้วย และมีการเปิดเพลง "เทพเจ้าด่านขุนทด" ที่แอ็ด คาราบาว แต่งขึ้น สร้างบรรยากาศให้เกิดความสุขและอาลัยหลวงพ่อคูณ
จากนั้นนายสุวัจน์ ได้กล่าวคำไว้อาลัยและคำสดุดีคุณงามความดีของหลวงพ่อคูณ เชิดชูความเป็นพระที่มีเมตตาบารมี และ"กำปั่น บ้านแท่น"หรือ นายกำปั่น นิธิวรไพบูลย์ อายุ 64 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงเพลงพื้นบ้านสื่อสารมวลชน ปี 2545 ได้ร้องเพลง โคราชไว้อาลัยและเทิดทูนหลวงพ่อคูณ รวมทั้งจัดพิธีบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่หลวงพ่อคูณด้วย
**มข.ส่งสัญญานภาพห้องดองร่างไปโคราช
ส่วนบรรยากาศที่บริเวณชั้นล่างของตึกผู้ป่วย ก. ภายในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ช่วงสายของวานนี้ (31 พ.ค.) นายเจอริก ดีมิกลี เอกอัคราชทูตประเทศเปรูประจำประเทศไทย เดินทางมาเคารพสรีระสังขาร พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากที่ได้เดินทางมาตรวจสถานที่ในการก่อสร้างกงศุลใหญ่ ประเทศชิลีประจำจังหวัดขอนแก่น ขณะที่ญาติโยมที่เลื่อมใสเคารพศรัทธาหลวงพ่อคูณต่างก็ทยอยมากราบรูปหลวงพ่อคูณอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเวลา 12.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ได้นำโทรทัศน์ LED ขนาด 60 นิ้ว มาติดตั้งที่บริเวณด้านข้างของรูปถ่ายหลวงพ่อคูณ เพื่อถ่าย ทอดสัญญาณจากกล้องวงจรปิดภายในห้องอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จากชั้นที่ 7 อาคารเรียนรวมคณะแพทย์ศาสตร์ เพื่อให้ประชาชน ได้ชมและร่วมสักการะร่วมกับรูปภาพ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับประชาชนญาติโยมที่มากราบไหว้บริเวณใต้ถุนชั้นล่างเป็นอย่างมากต่างถ่าย ภาพบันทึกไว้ เนื่องจากเป็นสัญญาณสดที่ถ่ายตรงมาจากห้องดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนการถ่ายทอดสัญญาณไปยังการ จัดงานทำบุญครบ 15 วันหลังหลวงพ่อคูณละสังขาร ที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ได้ส่งสัญญาณผ่านระบบ YOUTUBE และระบบเทเลคอน เฟอร์เร้นซไปแล้วเช่นกัน ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมาได้รับสัญญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการเปิดภาพสัญญาณดังกล่าวภายในการจัดงานทำ บุญ 15 วันให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับชมและระลึกถึง
ในส่วนของที่ใต้อาคารผู้ป่วย ก. โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข.จะเปิดให้ประชาชนได้รับชมตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 21.00 น. ทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
**อดีต ปธ.วัดบ้านไร่ลั่นพร้อมให้ตรวจสอบ
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ อดีตประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เงินก่อ สร้างวัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร่ 2 และ สร้างรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตัก 9 เมตร สูง 18 เมตร ที่ ต .ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เป็นบารมีของหลวงพ่อคูณ โดยแท้จริงทำให้ได้เงินมาก่อสร้าง โดยมีผู้มีจิตศรัทธารายใหญ่บริจาค เงินให้ ซึ่งในการจัดสร้างทั้งหมดใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนเงินส่วนตัวของหลวงพ่อคูณ ท่านบริจาคมาให้ประมาณ 3-5 ล้านบาท เนื่องจากเงินก่อสร้างช่วงนั้นขาดจึงเอามาใช้ และช่วง หลังประมาณ 1-2 ปี ที่ผ่านมา ได้นำเงินค่าใบอนุญาตสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ ใบละ 2-3 ล้านบาท นำมาก่อสร้างด้วย แต่เงินค่าใบอนุญาตนี้ ไม่ได้บังคับแล้วแต่จิตศรัทธา ซึ่งขณะนี้ได้มีการเซ็นใบอนุญาตไปแล้ว ร่วม 100 ใบ
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวอีกว่า หากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ ที่ พระราชวิมลโมลี เจ้า คณะจังหวัดนครราชสีมา แต่งตั้งขึ้น จะเข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ของวัดบ้านไร่ 2 อ.วังน้ำเขียว ตนก็พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะมีใบ เสร็จรับเงินจ่ายเงินทุกรายการเพราะทุกอย่างได้ทำบัญชีไว้ทั้งหมดแล้ว หากจะไปดูก็ให้ไปดูที่วัดบ้านไร่ 2 ได้ ตนคงไม่ส่งไปให้ดู อยากดูก็ไป ที่วัดได้เลย
ในส่วนของวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด นั้น โดยส่วนตัวตนไม่ได้ถือเอกสาร หรือบัญชีรายการทรัพย์สินใดๆ ของทางวัด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการระดับล่างลงมาที่รับผิดชอบ แต่ทุกเรื่องต้องผ่านเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัดบ้านไร่ โดยที่ผ่านมาจากเดิมที่ไม่มี ระบบ คณะกรรมการฯ ชุดของตน ก็มาทำให้เป็นระบบ มีการประชุมรายงานรายรับรายจ่ายทุกเดือน รวมถึงเรื่องเงินที่ นายเกรียงไกร จารุทวี ระบุว่าได้ทดรองจ่ายเป็นค่าก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม ไปก่อน รวมกว่า 100 ล้านบาท ก็ได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการวัดบ้านไร่ มาโดยตลอด และที่ประชุมรับทราบ กรรมการทุกคนก็ลงนามรับทราบ
ส่วนเงินดังกล่าวจะเป็นหนี้สินของวัดบ้านไร่หรือไม่นั้น พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่หนี้ของวัดบ้านไร่ ซึ่ง นายเกรียงไกร เป็นผู้มีจิตศรัทธาแรงกล้า ตนยังเคยบอกว่า คนจิตปกติไม่กล้าทำ ต้องคนที่มีใจรักหลวงพ่อคูณจริงๆ ถึงกล้าทำ เรียกว่าเกือบบ้า ไม่บ้าก็เกือบบ้า ถือเป็นผู้เสียสละมาก เขามีธุรกิจมากหมายแต่มาเฝ้าทำให้ และไม่จำเป็นที่วัดบ้านไร่ต้องคืนเงินให้ เป็นหน้าที่ของนายเกรียงไกร ที่จะไปบริหาร วิหารเทพวิทยาคมหารายได้ เข้ามาและเอาคืนไป ซึ่งขณะนี้การดำเนินการวิหารเทพวิทยาคม กำลังจะเข้าที่เข้าทางแล้ว ผู้คนมาเที่ยวชมก็จ่ายเงิน จะได้นำไปชดเชยและสักวันหนึ่งก็จบ
กรณีหากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่เข้ามาจะให้นายเกรียงไกรบริหารวิหารเทพวิทยาคมต่อหรือไม่ นั้น พล.ต.ต .มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบแล้วแต่ผู้ใหญ่ที่จะว่ากันไป ส่วนตนเองหมดหน้าที่แล้ว สบายใจแล้ว ซึ่งนายเกรียงไกรเองก็ไม่ได้หวัง ที่ทางวัดจะนำเงินมาคืนให้ ก็มาหวังจะได้คืนตอนบริหารจัดการที่มีคนมาเที่ยวชม แต่จะใช้เวลากี่ปีกี่วันก็ไม่ทราบแล้วแต่อนาคต แต่ไม่มีอะไร มาฟ้องร้องวัด ซึ่งตนสนิทกับ นายเกรียงไกร คบกันมานานแล้วรู้นิสัยดี และ กิจการนายเกรียงไกร ก็มีมาก ใหญ่โต
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวถึงคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ในอนาคต ว่า ทุกคนรักหลวงพ่อคูณทั้งนั้น แต่จะมาในแนวไหน บาง คนก็วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง อยู่ที่เจตนา แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำว่าคุณเป็นของจริงหรือไม่ ถ้าบอกว่าตัวเองดี ทั้งหมดเวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
ส่วนการแต่งตั้งพระภาวนาประชานารถ (นุช รัตนวิชโย) รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้จัก เพราะตอนที่เข้าไปก็มีแต่คณะกรรมการที่บริหารกันอยู่และพระลูกวัดไม่กี่รูป แต่คณะกรรมการชุดใหม่รวมถึงรักษาการแทนเจ้าอาวาสที่เข้ามา ใหม่นั้น ตนไม่รู้จักได้ยินแต่ชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ให้ความเห็นไม่ได้ ซึ่งหลวงพ่อคูณท่านมีเมตตาสูง ไม่เคยพูดถึงข้อขัดแย้งให้ฟังแต่อย่างใด.
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิ ปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำศิษยานุศิษย์ ประชาชนชาวจังหวัด นครราชสีมา กว่า 1,000 คน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในพิธีบำเพ็ญกุศลปัณณรสมวาร (ครบ 15 วัน) แห่งการมรณภาพของ พระ เทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีพระสงฆ์ออกรับบิณฑบาตจำนวน 93 รูป และประชาชนพร้อมลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณเดินทางมาร่วมงานต่างสวมชุดขาวอย่างพร้อม เพรียงกัน ทั้งนี้เพื่ออุทิศถวายแด่ หลวงพ่อคูณ
ทั้งนี้ ในพิธีได้มีการนำรูปหล่อเหมือน หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่มาตั้งไว้ให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้กราบ นมัสการด้วย ซึ่งทุกคนยังอยู่ภาวะโศกเศร้าต่อการจากไปของหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา มีกำหนดจะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลครบ 50 วันและ 100 วัน แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ ด้วย
ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ทางจังหวัดได้ร่วมกับสำนักพุทธศาสนาจังหวัด นครราชสีมา และชมรมเพื่อนสุวัจน์ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลครบ 15 วัน แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรอง นายกรัฐมนตรี ในฐานะลูกศิษย์ก้นกุฏิ, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่า ราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับคณะสงฆ์ สมรรณศักดิ์ 10 รูป และคณะพระสงฆ์ 52 รูป รวมทั้งคณะสงฆ์จาก 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา สวดพระพุทธมนต์ ซึ่งมีบรรดาศิษยานุศิษย์ ญาติโยมพี่น้องประชาชนจาก 88 ชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และจาก 32 อำเภอ ต่างสวมชุดนุ่งห่มขาว และชุดไว้ทุกข์ รวมกว่า 3,000 คน เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ดังกล่าว
โดยภายในงานได้มีการนำรูปปั้นเหมือนหลวงพ่อคูณ ท่านั่งยองๆ มาให้ศิษยานุศิษย์ญาติโยมกราบไหว้สักการะและบริจาคเงินสนับ สนุนการศึกษาของสงฆ์ สามเณร พร้อมตั้งโรงทานเกือบ 100 ร้านค้า ให้บริการอาหาร น้ำดื่มอย่างเต็มที่ รวมทั้งตั้งจอโปรเจคเตอร์ จำนวน 6 จอ เปิดฉายภาพวิดีโอภาพหลวงพ่อคูณ ทั้งในช่วงการละสังขารที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา การเคลื่อนย้ายสรีระไปยัง มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รวมทั้งภาพพิธีบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ตลอด 7วัน ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์ กาญจนาภิเษก มข. และ การเคลื่อนสรีระส่งมอบให้คณะแพทย์ศาสตร์ มข. ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อดองร่างเข้าสู่กระบวนการศึกษาต่อไป
อีกทั้งยังได้เปิดคลิปวิดีโอที่หลวงพ่อคูณ กล่าวในพินัยกรรมเพื่อให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์ได้รู้ซึ้งเข้าใจ และทำตามเจตนารมณ์ของ หลวงพ่อคูณ ด้วย และมีการเปิดเพลง "เทพเจ้าด่านขุนทด" ที่แอ็ด คาราบาว แต่งขึ้น สร้างบรรยากาศให้เกิดความสุขและอาลัยหลวงพ่อคูณ
จากนั้นนายสุวัจน์ ได้กล่าวคำไว้อาลัยและคำสดุดีคุณงามความดีของหลวงพ่อคูณ เชิดชูความเป็นพระที่มีเมตตาบารมี และ"กำปั่น บ้านแท่น"หรือ นายกำปั่น นิธิวรไพบูลย์ อายุ 64 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงเพลงพื้นบ้านสื่อสารมวลชน ปี 2545 ได้ร้องเพลง โคราชไว้อาลัยและเทิดทูนหลวงพ่อคูณ รวมทั้งจัดพิธีบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่หลวงพ่อคูณด้วย
**มข.ส่งสัญญานภาพห้องดองร่างไปโคราช
ส่วนบรรยากาศที่บริเวณชั้นล่างของตึกผู้ป่วย ก. ภายในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ช่วงสายของวานนี้ (31 พ.ค.) นายเจอริก ดีมิกลี เอกอัคราชทูตประเทศเปรูประจำประเทศไทย เดินทางมาเคารพสรีระสังขาร พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากที่ได้เดินทางมาตรวจสถานที่ในการก่อสร้างกงศุลใหญ่ ประเทศชิลีประจำจังหวัดขอนแก่น ขณะที่ญาติโยมที่เลื่อมใสเคารพศรัทธาหลวงพ่อคูณต่างก็ทยอยมากราบรูปหลวงพ่อคูณอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเวลา 12.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ได้นำโทรทัศน์ LED ขนาด 60 นิ้ว มาติดตั้งที่บริเวณด้านข้างของรูปถ่ายหลวงพ่อคูณ เพื่อถ่าย ทอดสัญญาณจากกล้องวงจรปิดภายในห้องอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จากชั้นที่ 7 อาคารเรียนรวมคณะแพทย์ศาสตร์ เพื่อให้ประชาชน ได้ชมและร่วมสักการะร่วมกับรูปภาพ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับประชาชนญาติโยมที่มากราบไหว้บริเวณใต้ถุนชั้นล่างเป็นอย่างมากต่างถ่าย ภาพบันทึกไว้ เนื่องจากเป็นสัญญาณสดที่ถ่ายตรงมาจากห้องดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนการถ่ายทอดสัญญาณไปยังการ จัดงานทำบุญครบ 15 วันหลังหลวงพ่อคูณละสังขาร ที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ได้ส่งสัญญาณผ่านระบบ YOUTUBE และระบบเทเลคอน เฟอร์เร้นซไปแล้วเช่นกัน ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมาได้รับสัญญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการเปิดภาพสัญญาณดังกล่าวภายในการจัดงานทำ บุญ 15 วันให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับชมและระลึกถึง
ในส่วนของที่ใต้อาคารผู้ป่วย ก. โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข.จะเปิดให้ประชาชนได้รับชมตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 21.00 น. ทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
**อดีต ปธ.วัดบ้านไร่ลั่นพร้อมให้ตรวจสอบ
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ อดีตประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เงินก่อ สร้างวัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร่ 2 และ สร้างรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตัก 9 เมตร สูง 18 เมตร ที่ ต .ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เป็นบารมีของหลวงพ่อคูณ โดยแท้จริงทำให้ได้เงินมาก่อสร้าง โดยมีผู้มีจิตศรัทธารายใหญ่บริจาค เงินให้ ซึ่งในการจัดสร้างทั้งหมดใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนเงินส่วนตัวของหลวงพ่อคูณ ท่านบริจาคมาให้ประมาณ 3-5 ล้านบาท เนื่องจากเงินก่อสร้างช่วงนั้นขาดจึงเอามาใช้ และช่วง หลังประมาณ 1-2 ปี ที่ผ่านมา ได้นำเงินค่าใบอนุญาตสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ ใบละ 2-3 ล้านบาท นำมาก่อสร้างด้วย แต่เงินค่าใบอนุญาตนี้ ไม่ได้บังคับแล้วแต่จิตศรัทธา ซึ่งขณะนี้ได้มีการเซ็นใบอนุญาตไปแล้ว ร่วม 100 ใบ
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวอีกว่า หากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ ที่ พระราชวิมลโมลี เจ้า คณะจังหวัดนครราชสีมา แต่งตั้งขึ้น จะเข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ของวัดบ้านไร่ 2 อ.วังน้ำเขียว ตนก็พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะมีใบ เสร็จรับเงินจ่ายเงินทุกรายการเพราะทุกอย่างได้ทำบัญชีไว้ทั้งหมดแล้ว หากจะไปดูก็ให้ไปดูที่วัดบ้านไร่ 2 ได้ ตนคงไม่ส่งไปให้ดู อยากดูก็ไป ที่วัดได้เลย
ในส่วนของวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด นั้น โดยส่วนตัวตนไม่ได้ถือเอกสาร หรือบัญชีรายการทรัพย์สินใดๆ ของทางวัด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการระดับล่างลงมาที่รับผิดชอบ แต่ทุกเรื่องต้องผ่านเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัดบ้านไร่ โดยที่ผ่านมาจากเดิมที่ไม่มี ระบบ คณะกรรมการฯ ชุดของตน ก็มาทำให้เป็นระบบ มีการประชุมรายงานรายรับรายจ่ายทุกเดือน รวมถึงเรื่องเงินที่ นายเกรียงไกร จารุทวี ระบุว่าได้ทดรองจ่ายเป็นค่าก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม ไปก่อน รวมกว่า 100 ล้านบาท ก็ได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการวัดบ้านไร่ มาโดยตลอด และที่ประชุมรับทราบ กรรมการทุกคนก็ลงนามรับทราบ
ส่วนเงินดังกล่าวจะเป็นหนี้สินของวัดบ้านไร่หรือไม่นั้น พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่หนี้ของวัดบ้านไร่ ซึ่ง นายเกรียงไกร เป็นผู้มีจิตศรัทธาแรงกล้า ตนยังเคยบอกว่า คนจิตปกติไม่กล้าทำ ต้องคนที่มีใจรักหลวงพ่อคูณจริงๆ ถึงกล้าทำ เรียกว่าเกือบบ้า ไม่บ้าก็เกือบบ้า ถือเป็นผู้เสียสละมาก เขามีธุรกิจมากหมายแต่มาเฝ้าทำให้ และไม่จำเป็นที่วัดบ้านไร่ต้องคืนเงินให้ เป็นหน้าที่ของนายเกรียงไกร ที่จะไปบริหาร วิหารเทพวิทยาคมหารายได้ เข้ามาและเอาคืนไป ซึ่งขณะนี้การดำเนินการวิหารเทพวิทยาคม กำลังจะเข้าที่เข้าทางแล้ว ผู้คนมาเที่ยวชมก็จ่ายเงิน จะได้นำไปชดเชยและสักวันหนึ่งก็จบ
กรณีหากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่เข้ามาจะให้นายเกรียงไกรบริหารวิหารเทพวิทยาคมต่อหรือไม่ นั้น พล.ต.ต .มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบแล้วแต่ผู้ใหญ่ที่จะว่ากันไป ส่วนตนเองหมดหน้าที่แล้ว สบายใจแล้ว ซึ่งนายเกรียงไกรเองก็ไม่ได้หวัง ที่ทางวัดจะนำเงินมาคืนให้ ก็มาหวังจะได้คืนตอนบริหารจัดการที่มีคนมาเที่ยวชม แต่จะใช้เวลากี่ปีกี่วันก็ไม่ทราบแล้วแต่อนาคต แต่ไม่มีอะไร มาฟ้องร้องวัด ซึ่งตนสนิทกับ นายเกรียงไกร คบกันมานานแล้วรู้นิสัยดี และ กิจการนายเกรียงไกร ก็มีมาก ใหญ่โต
พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวถึงคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ในอนาคต ว่า ทุกคนรักหลวงพ่อคูณทั้งนั้น แต่จะมาในแนวไหน บาง คนก็วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง อยู่ที่เจตนา แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำว่าคุณเป็นของจริงหรือไม่ ถ้าบอกว่าตัวเองดี ทั้งหมดเวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
ส่วนการแต่งตั้งพระภาวนาประชานารถ (นุช รัตนวิชโย) รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้จัก เพราะตอนที่เข้าไปก็มีแต่คณะกรรมการที่บริหารกันอยู่และพระลูกวัดไม่กี่รูป แต่คณะกรรมการชุดใหม่รวมถึงรักษาการแทนเจ้าอาวาสที่เข้ามา ใหม่นั้น ตนไม่รู้จักได้ยินแต่ชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ให้ความเห็นไม่ได้ ซึ่งหลวงพ่อคูณท่านมีเมตตาสูง ไม่เคยพูดถึงข้อขัดแย้งให้ฟังแต่อย่างใด.